ข่าว

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ดำเนินมาเป็นวันที่ห้าสิบหก

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ดำเนินมาเป็นวันที่ห้าสิบหก พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม รวม 8 รูปจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรม มาตั้งแต่ค่ำวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี ราชสกุลปัทมสิงห์, ปาลกะวงศ์, เสนีวงศ์, มาลากุล, เดชาติวงศ์, พนมวัน ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล เข้าร่วมในพระราชพิธีด้วย

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

พรทิพย์ วรรธนะวาสิน(ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) 

นางพรทิพย์ วรรธนะวาสิน(ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการกรมที่ดิน สมาชิกราชสกุลปัทมสิงห์ที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลถวายฯ เปิดเผยว่า วันนี้ราชสกุลได้พร้อมใจกันมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 48 คน ในฐานะราชสกุลถือว่าเป็นบุญและปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย

“มีโอกาสได้รับเสด็จฯ พระองค์ท่านตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งก็จะรู้สึกท่านเป็นผู้มีบุญบารมี กระทั่งโตมาจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2518 ก็ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน เป็นความปลื้มปีติ และยังจำได้ว่าขณะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จฯ ด้วย และทรงพระสิริโฉมงดงามมาก ยังจำได้ถึงดีจนทุกวันนี้ ส่วนตัวได้น้อมนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ทำให้เรารู้จักคุณค่าของเงิน และดำเนินชีวิตได้อย่างพอดี” สมาชิกราชสกุลปัทมสิงห์เผยความประทับใจ

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

ณวรา วนาสิน (กุณชร ณ อยุธยา)-จันทนา กุญชร ณ อยุธยา

ด้าน นางณวรา วนาสิน (กุญชร ณ อยุธยา) อายุ 44 ปี และมารดา นางจันทนา กุญชร ณ อยุธยา อายุ 70 ปี สมาชิกราชสกุลกุญชรที่มาร่วมบำเพ็ญกุศล โดย นางจันทนา เปิดเผยว่า นายวิทยวัฒน์ กุญชร ณ อยุธยา ซึ่งเป็นสามี เป็นอดีตข้าราชการกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัจจุบันมองไม่ค่อยเห็นจึงไม่ได้เดินทางมาด้วย โดยสามีเคยทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในด้านการเกษตรของโครงการพระราชดำริต่างๆ ได้ตามเสด็จฯ ลงพื้นที่ในหลายๆ ครั้ง บอกเล่าอยู่เสมอว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักมาก เวลาได้รับพระราชทานเหรียญรางวัลสามีก็จะน้ำตาไหลทุกครั้งด้วยความตื้นตันใจและปลื้มปีติอย่างหาที่สุดไม่ได้ เราในฐานะคนในครอบครัวรู้สึกมีบุญวาสนาที่ได้ทำงานถวายพระองค์ท่าน เพราะพระองค์ท่านทรงเสียสละอย่างมากเพื่อประชาชนของพระองค์

ราชสกุลต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

                                                     พล.ต.ต.ภิรมย์ - พนมกร มาลากุล ณ อยุธยา 
ขณะที่ พล.ต.ต.ภิรมย์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตตำรวจราชสำนักเวร และสมาชิกราชสกุลมาลากุล เดินทางพร้อมด้วยลูกสาว น.ส.พนมกร มาลากุล ณ อยุธยา ร่วมบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยได้มีโอกาสสลับสับเปลี่ยนเวรไปประจำยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต พระราชวังไกลกังวล หัวหิน รวมทั้งที่พระองค์ท่านทรงพระประชวรและเสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ตนเองได้ไปประจำพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลด้วย แม้จะไม่ได้ถวายงานใกล้ชิดแต่ก็รู้สึกภูมิใจมาก และอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่จำได้ไม่คือเมื่อครั้งที่ได้รับพระราชทานกระบี่และประดับยศนายพลจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่านถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต

“รู้สึกประทับในใจพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ทั้งยังได้สั่งสอนลูกหลานให้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาปฏิบัติตามพร้อมบอกต่อแก่ลูกหลานในด้านการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง รู้จักใช้จ่ายแบบประมาณตน มีกำลังแค่ไหนก็ใช้จ่ายเท่าที่มีไม่ใช้จ่ายเกินตัว” สมาชิกราชสกุลมาลากุล กล่าวด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ