ยธ.ลั่น แพรวา ต้องชดใช้เพิกเฉยโดนบังคับคดีขณะโซเชียลรุมถล่ม

 

   16 กรกฎาคม 2562 จากกรณีสังคมออนไลน์ ติดแฮทแท็ก ถล่มประเด็น “แพรวา9 ศพ” หลังรายการ "ถามตรงๆ กับ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์" ทางช่องไทยรัฐทีวี ได้เชิญญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาพูดคุย 

หลังจากผ่านพ้นและเข้าสู่ปีที่ 9 ของอุบัติเหตุดังกล่าว โดยญาติของผู้เสียชีวิตระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุในวันที่ 27 ธ.ค. 2553 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ เลยจากฝ่ายผู้ก่อเหตุ

 

โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้เข้ามาแสดงความเห็นอย่างหลากหลาย ในโซเชียลมีเดีย อาทิ @BOOAWT ตกใจมากที่แท็ก #แพรวา9ศพ กลับมาอีกครั้ง คือตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ 9 ปีที่เเล้วจนถึงวันนี้ครอบครับของแพรวาพยายามปกป้องลูกตัวเองมาโดยตลอด เข้าใจแหละว่ารักลูกมากแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิตล่ะเค้าไม่รักลูกเค้ารึไง ปกป้องครอบครัวตัวเองโดยที่ไม่สนเลยว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตจะเจ็บปวดแค่ไหน

 

@daxkanda เห็นแท็กกลับมาติดเทรนอีก แล้วนึกถึงกรณีเสี่ยรถเบนซ์ที่ชนรองตี๋อ่ะ เขาสำนึกผิดและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเยอะมาก แล้วเขายังบวชให้อีกอ่ะ ต่างจากเคสแพรวามาก #แพรวา9ศพ

@tintinwarunyoo คนเราผิดพลาดกันได้ เราเข้าใจ ทุกคนเข้าใจ แต่หลังจากนั้นต่างหาก สิ่งที่เพื่อนมนุษย์เขาปฏิบัติต่อกันคืออะไร "ความผิดพลาดที่ยิ่วใหญ่ ก็ควรมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เสมอ" #เราอยู่ในรถตู้คันนั้นเเต่เราไม่ตาย #แพรวา9ศพ

                    

@Yoongiwife1 โห้แม่ น่าสงสารพ่อเขามากๆอ่ะ เห็นว่าน้องพยายามอย่างนักเพื่อครอบครัวเพราะตอนมหาลัยธุรกิจที่บ้านเขามีปัญหาแต่น้องใช้ความรู้เป็นใบเบิกทางสู้กับอุปสรรค แต่ต้องมาตายเพราะคนที่ไม่มีแม้แต่จิตสำนึกที่ดี นังบ้าสมองเทอ10ก้อนยังได้ไม่เท่า1สมองของน้องเลย ป่านนี้ไปมุดอยู่ไหนแล้ว

 

@Jennier86644670 ข่าวนี้เงียบไปนานมาก ถ้าไม่มีการสัมภาษณ์ก็จะไม่รู้เลยว่าญาติผู้ชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็น อนาคตของชาติคนเก่งๆที่ไม่ควรจะตายเพราะเด็กไม่มีใบขับขี่ ประมาทในการขับรถ โทษของเธอคือบำเพ็ญประโยชน์ กฎหมายไทย??? แล้วยังไม่ไปบำเพ็ญประโยชน์อีก มีเงินทอง มียศ แต่เทอกลับไม่มีจิตสำนึก #แพรวา9ศพ

 

เมื่อย้อนไปตรวจสอบคดีของแพรวา จะพบว่าในส่วนของคดีอาญาถือว่าสิ้นสุดลงตามคำพิพากษาของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ที่ตัดสินว่าจำเลยมีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ลงโทษจำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 4 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี และห้ามขับรถยนต์จนกว่าอายุจะครบ 25 ปีบริบูรณ์

 

ก่อนหน้านี้ กรณีของแพรวาได้ตกเป็นกระแสถูกกระแสสังคมรุมประณามและโจมตีมาแล้ว ด้วยเหตุจากการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสมของเยาวชนผู้ก่อเหตุ รวมถึงมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงระหว่างการทำงานบริการสังคมตามคำสั่งศาล ซึ่งระบุว่า แพรวาฝ่าฝืนเงื่อนไขคุมประพฤติและยังทำงานบริการสังคมไม่ครบ จนพนักงานคุมประพฤติต้องทำรายงานเสนอศาล โดยฝ่ายของแพรวาได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่าถูกเจ้าพนักงานคุมประพฤติข่มขู่ ต่อมาศาลได้สั่งให้จำเลยไปทำงานบริการสังคมใหม่ให้ครบถ้วนตามเวลา 138 ชั่วโมง

ด้านคดีแพ่งที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บฟ้องเรียกค่าเสียหาย 113 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนั้น ในการต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นเงินรวม 26,881,925 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

 

ต่อมาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วย ค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาลให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในจำนวนเงินแตกต่างกันตั้งแต่ คนละ 80,000-1,440,000 บาทรวมเป็นเงินประมาณ 19,826,925 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่ปรากฎว่าหลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค.62 ฝ่ายโจทก์ยังคงไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาใดๆ

 

ในส่วนของบริษัทประกันภัย ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนในคดีแพ่ง ซึ่งผู้เสียหายฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งหมด 13 คดี ตกลงจ่ายค่าสินไหมทดแทนในทุกคดี รวมเป็นเงินทั้งสิน 10 ล้านบาท ตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย

 

ยธ.ระบุจำเลยต้องร่วมกันชดใช้ตามคำพิพากษา เพิกเฉยโดนบังคับคดี

 

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คดีดังกล่าวเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยซึ่งขณะก่อเหตุเป็นเยาวชน และพ่อแม่ของจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำเลยจึงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษา หากไม่ชดใช้กระบวนการจะเข้าสู่การบังคับคดีโดยกฎหมายให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีมีระยะเวลา 10 ปี ในการพิสูจน์ทรัพย์เพื่อนำทรัพย์สินของจำเลยมาชดใช้ให้แก่โจทก์