ชาวนาสุโขทัย เฮ ได้ที่ดินบรรพบุรุษคืน

          10 ก.ค.62-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีที่ น.ส.เรียม ชูชิต ชาวบ้าน อ.ศรีสำโรงและคณะ ได้เข้าพบ พล.ต.ต.สุวิชาญ  ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.สุโขทัย เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้รับโฉนดที่ดินคืน จำนวน 3 ฉบับ รวมเนื้อที่ 89 ไร่ 3 งาน ณ ห้องประชุม 2 ภ.จว.สุโขทัย ล่าสุด พล.ต.ต.สุวิชาญ  กล่าวว่า เรื่องนี้ข้อเท็จจริงคือ เมื่อปี 2526 น.ส.เรียม นำที่ดินไปจำนองไว้กับทาง นายประศาสตร์ ทองปากน้ำ นักการเมืองชื่อดังในท้องที่ จำนวนเงิน 93,000 บาท แต่สุดท้ายกลายเป็นว่านายประศาสตร์หลอกให้ไปลงลายมือชื่อในเอกสารมอบอำนาจ ทำนองว่าจำนอง แต่สุดท้ายกลายเป็นสัญญาขายและโอนไปเป็นชื่อของเขาและในปี 2533 น.ส.เรียมได้นำเงิน 80,000 บาทเตรียมไปใช้หนี้กับนายประศาสตร์ จึงได้ถูกคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในลักษณะต้นทบดอกร้อยละ 17 บาทต่อปี ตั้งแต่ 12 เม.ย.26 – 31ธ.ค.33 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 339,039 บาท หักจากเงินที่นำไปใช้จึงเหลืออีก 259,039 บาท และไม่ยอมให้น.ส.เรียมไถ่ถอนที่ดินคืน    
         

 

 

            พล.ต.ต.สุวิชาญ  กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานฉ้อฉล ปลอมเอกสาร และเรียกดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด และยังพบว่ามีการโอนขายที่ดินต่อไปให้บริษัท โรงโม่หินสุวรรณ จำกัด ที่มีภรรยาและลูกสาวนายประศาสตร์ เป็นกรรมการใหญ่ แต่เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2530 ผ่านมากว่า 30 ปีแล้ว ทำให้คดีหมดอายุความสืบพยานไม่ได้ จึงทำให้ดำเนินคดีกับเขาไม่ได้ แต่ว่าทางเราเรียกมาเจรจา และเขากลัวเสื่อมเสียชื่อเสียงจึงยอมมาเจรจาความโอนคืนที่ดินให้น.ส.เรียม ทั้งหมด 3 ฉบับรวม 89 ไร่ 3 งาน โดยให้ชำระเงินต้นรวมดอกเบี้ย เป็นเงินทั้งหมด 259,039 บาท

          

            “เรื่องนี้เป็นความโชคดีของน.ส.เรียมที่ได้ที่ดินคืน มูลค่าที่ดินตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 5 ล้านบาท เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนที่น.ส.เรียมหรือใครก็ตามที่จำนองที่ดินไว้ต้องศึกษาให้ดี หลายคนไม่รู้ข้อกฎหมายทำให้เกิดความเสียหายเหมือนกรณีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่คล้ายกรณีดังกล่าวอีก 14 ราย ซึ่งตนได้ส่งเรื่องให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ช่วยตรวจสอบแล้ว”พล.ต.ต.สุวิชาญ  กล่าว

            ทางด้าน น.ส.เรียม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว คือตนไปกู้เงินมา 93,000 บาท แล้วเขาก็เอาโฉนดที่ดินของเราไว้ โดยทำสัญญาจำนองที่ดิน เราก็ไม่รู้ว่าเขาเอาที่ดินเราไปทำอะไร และเรายังไม่มีเงินไปจ่ายเขา ก็ไม่กล้าเข้าไปคุย แต่ก็อยู่มาเรื่อยยังทำนาในที่ดินมาเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปมีคนมาบอกว่าเขาโอนที่ดินเราเป็นชื่อของเขาไปแล้ว และได้ข่าวว่าเขาจะมาถมที่นาของเรา เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี มีคนแนะนำว่าให้ไปปรึกษาทนาย เราก็ไม่มีเงิน สุดท้ายมีคนแนะนำให้ไปหา อาของท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ท่านก็ดีประสานกับท่านสมศักดิ์ให้ช่วยเหลือทันที

 

          

            “ฉันดีใจมากที่ได้ที่ดินคืน ที่ดินผืนนี้เป็นของบรรพบุรุษที่ทำนาเลี้ยงชีพมาหลายรุ่น เราก็อยากได้คืนเพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณ ท่านสมศักดิ์และครอบคัวเทพสุทิน ที่ช่วยประสานจัดการให้จนเรื่องคืบหน้าและสำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ได้ท่านก็ไม่รู้จะได้ที่ดินคืนหรือไม่ และขอบคุณ พล.ต.ต.สุวิชาญ  และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ช่วยกันทำให้ได้ที่ดินคืนมา โดยตอนนี้ได้นำที่ดินไปจำนองไว้กับทาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่เราได้กู้ยืมไปในครั้งแรก” น.ส.เรียมกล่าว