ยึด"ปากพนังโมเดล"แก้ประมงทำลายล้าง

 

18 มิถุนายน 2562  วานนี้ (17 มิถุนายน 2562 ) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้เครื่องมือประมงที่ถูกกฏหมายและสนับสนุนงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ 

 

 

 

อาทิ เช่น ธนาคารปูม้า และการสร้างบ้านปลา ได้รวมกลุ่มมาสนับสนุนการทำงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กรมประมงผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่และต่อต้านการใช้เครื่องมือทำการประมงที่ผิดกฎหมาย และดำเนินการตามนโยบายปากพนังโมเดล ในการแก้ปัญหาการใช้เครื่องมือทำประมงที่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศ หน้าดิน และสัตว์น้ำขนาดเล็ก ให้สอดคล้องตามฤดูกาลและเป็นไปตามกฏหมายจากพระราชกำหนดการประมงปี 2548 และการแก้ไขปัญหาไอยูยู เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช  นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว  และประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ให้การต้อนรับ 

 

 

นายเจริญ  โต๊ะอิแต  กลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้านในถุ้ง อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช  กล่าวว่า ภายหลังท้องทะเลไทยประสบปัญหาการทำประมงไม่ถูกต้องมีการใช้เครื่องมือทำลายล้างการจับสัตว์น้ำ ทำให้ตั้งแต่ปี 2545 ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อปกป้องการทำการประมงอย่างถูกต้อง และทำอย่างไรทำให้ทะเลที่จะล่มสลายกลับมาอุดมมบูรณ์ตามเดิม

 

 

จึงได้พูดคุยกับชาวบ้านในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ให้ความรู้ด้านกฏหมาย การทำบ้านปลา ตลอดจนธนาคารปูม้า หลังจากที่เมื่อปี 2548 ลดปริมาณลงอย่างมาก จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการตั้งธนาคาปูม้านอกชายฝั่ง และในปี 2558 ได้จัดตั้งธนาคารปูม้าบนฝั่ง โดยการบริจาคปูม้าจากชาวบ้านตั้งแต่ 600 แม่ จนกระทั่ง ล่าสุดปูม้าเพิ่มขึ้น 1,700 แม่

 

 

นายเจริญกล่าวว่า อยากให้ชาวประมงหันมาใช้เครื่องมือที่ถูกกฏหมาย เพราะกฏหมายไม่สามารถทำให้สำเร็จในทุกเรื่องได้ หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตาม การทำประมงแบบอนุรักษ์ ทำให้คนพื้นที่กลับบ้าน ไม่ย้ายถิ่นฐาน มีรายได้ทุกวัน ขอให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากร เพื่อทุกคนจะได้บริโภคต่อไป

 

 

ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราชมีเรือประมงทั้งหมด 4,694 ลำ พบว่ามีเรือที่ทำผิดกฏหมายขณะนี้เหลือประมาณ 120 ลำพบมากบริเวณพื้นที่อ่าวปากพนัง จากความพยายามในการแก้ไขการทำประมงที่ผิดกฏหมายภายในแผนปฏิบติการปากพนังโมเดล ตามนโยบายผู้ว่าฯนครศรีฯ โดยเครือข่ายประมงนครฯให้ความร่วมมือและเฝ้าติดตามการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน

 

 

รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความรู้ เรื่องกฏหมายและเปิดโอกาสให้นำเครื่องมือที่ผิดกฏหมายมาคืนและชดเชย เยียวยาเพื่อไปปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องมือใหม่ที่ถูกต้องและการห้ามผู้ประกอบการแพปลารับซื้อสัตว์น้ำขนาดเล็ก  ท้ายที่สุดคือการบังคับใช้กฏหมายตามพ.ร.ก. การประมง 2558 ในส่วนเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบเห็นการใช้เครื่องมือที่ผิดกฏหมายทำการประมงและไม่ดำเนินการจับกุม ถือเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่