ข่าว

ผอ.ธนาคารที่ดิน ยัน บริหารโครงการไม่ล่าช้า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผ.อ.ธนาคารที่ดิน งง โดนกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนจี้ปลดพ้นเก้าอี้ ยันบริหารโครงการไม่ล่าช้า เผยเจรจาตกลงกรอบเวลาชัดแล้วเสร็จภายใน90วัน

     เมื่อวันที่6มิ.ย.62นายขจรศักดิ์ เจียรธนากุล ผอ.สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือบจธ. กล่าวถึงกรณีกลุ่มเกษตรกรและตัวแทนวิสาหกิจชุมชนไร่นาสวนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องความล่าช้าในการจัดการที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรจำนวน63ครัวเรือน พร้อมเรียกร้องให้พิจารณาเปลี่ยนตัวผู้บริหาร บจธ. ว่า ประเด็นในเรื่องความล่าช้าในการดำเนินการนั้นไม่เป็นความจริง

   นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังการเข้ารับตำแหน่ง ผอ.บจธ.ในเดือนส.ค.61ตนได้ลงพื้นที่อ.พิมายเพื่อดูความเหมาะสมในพื้นที่พร้อมพูดคุยกับเกษตรกรต่อมาในเดือนก.ย.61กลุ่มเกษตรกรได้จดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน แต่ตนแนะนำให้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์เพื่อให้มีระเบียบควบคุมและบริหารจัดการที่ดีกว่าวิสาหกิจชุมชน เมื่อพบข้อติดขัดบจธ.จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ แต่ก็ยังมีข้อติดขัดเรื่องการจัดตั้งสหกรณ์จึงได้เสนอเรื่องไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์

       นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่แกนนำกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯอ้างว่า บจธ.บริหารงบประมาณล่าช้า ยื้อเวลามาตั้งแต่ปี61ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้โครงการจัดซื้อที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณเมื่อวันที่5ก.พ.62ตลอดระยะเวลา5เดือนของปีงบประมาณ62เริ่มต้นตั้งแต่เดือนต.ค.61บจธ.ได้เข้าไปช่วยเตรียมความพร้อมเรื่องการจัดตั้งสหกรณ์นำเกษตรกรลงแปลง ซึ่งมีปัญหาเรื่องการดำเนินการเนื่องจากช่วงแรกเสนอรายชื่อเกษตรกร47ราย ต่อมาเพิ่มเป็น63ราย ยอดไม่นิ่ง มีการดึงเข้าดึงออก ภายหลังครม.อนุมัติงบประมาณ บจธ.ได้ประสานไปยังกลุ่มเกษตรกรเพื่อลงพื้นที่สัมภาษณ์และตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกรจำนวน27รายชื่อ นัดไป2ครั้ง ในเดือนพ.ค.และมิ.ย. แต่ฝ่ายเกษตรกรอ้างว่าไม่พร้อม ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลครัวเรือนได้ ทั้งนี้หากเกษตรกรให้ความร่วมมือ บจธ.ก็สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเกษตรและอนุมัติโครงการได้เร็ว

      นายขจรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน บจธ.ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนการจัดซื้อที่ดิน ซึ่งต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและได้กำหนดกรอบเวลาชัดเจนว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน90วันโดยขั้นตอนในการประเมินราคาและเสนอคณะกรรมการรับราคาจะแล้วเสร็จภายใน60วันหรือต้นเดือนก.ค. และคาดว่าจะสามารถจัดซื้อที่ดินได้ในช่วงต้นเดือนส.ค.ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนก็พอใจในกรอบเวลาดังกล่าว 

       นอกจากนี้ บจธ.ยังได้อธิบายทำความเข้าใจว่า การซื้อที่ดินจะดำเนินการได้ต่อเมื่อ เกษตรกรมีความพร้อมใน4เรื่อง 1.จัดตั้งสหกรณ์ให้ได้ หากจัดตั้งไม่ได้ก็อนุโลมให้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน 2.รายชื่อเกษตรกรต้องนิ่ง 3.ต้องจัดเกษตรกรลงแปลงที่ดิน และ4.ต้องประมาณการความสามารถในการชำระหนี้ มีแผนการผลิตและแผนการตลาดที่ชัดเจนโดยการประชุมร่วมกันดังกล่าวได้พูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจตรงกันแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มเกษตรกรจึงรวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งที่การดำเนินงานยังอยู่ในกรอบเวลา

    “ทราบมาว่า ที่ดิน2แปลง กำลังจะหลุดขายฝาก จึงมีการเร่งรัดให้จัดซื้อเร็ว ซึ่งยอมรับว่าปัญหาราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นเป็นตัวแปรสำคัญโดยที่ดินที่เสนอขายมีเจ้าของ14ราย แต่ราคาที่ดินปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวขณะที่การจัดซื้อจัดจ้างของราชการมีระเบียบควบคุมซื้อแพงไม่ได้ ต้องผ่านกระบวนการประเมินราคาและรับราคา เพื่อจัดซื้อในราคาที่เหมาะสม ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาประมาณ40วันทำการ จึงสามารถทำสัญญาซื้อขายได้ หากการจัดซื้อที่ดินดำเนินการไม่ถูกต้องผู้อนุมัติต้องรับผิดในทางอาญา”นายขจรศักดิ์กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ