ข่าว

โคกหนองนาโมเดลเขื่อนหัวนา-ราษีไศลปิดตำนานประท้วงมาราธอน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กรมชลฯ"เปิดเฟสแรกโคกหนองนาโมเดลเขื่อนหัวนา-ราษีไศล สร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ปิดตำนานความเดือดร้อนบุกประท้วงยืดเยื้อทุกรัฐบาล

 

2 มิถุนายน 2562 นายมนัส กำเนิดมณี รองอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯได้เป็นประธานเปิดงานจอบแรก หัวนา – ราษีไศล 

 

ในโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ โคกหนองนาโมเดลพัฒนาความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นแก่ประชาชนและเกษตรกร หลังจากที่ดินทำกินของตนเองถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนจากสร้างเขื่อนราษีไศล กั้นลำน้ำมูล พื้นที่ 500 ไร่ โดยกรมชลฯไปวางผังแปลงแบ่งส่วนการใช้ประโยชน์พื้นที่แต่ละรายอย่างยั่งยืนตามแนวเกษตรทษฏีใหม่ 30:30:30:10 ซึ่งถอดแบบจากในหลวงที่ได้ขุดสระไว้ตรงจุดที่ทรงคำนวนแล้ว ว่าเก็บกักน้ำฝนไว้ได้พอเพียงใช้ทุกกิจกรรมตลอดทั้งปี แบ่งทำเกษตรที่มีรายได้ทุกวันและที่อยู่อาศัย

 

ซึ่งนายวิวัฒน์ มาประยุกต์ ทำโคกหนองนาโมเดล ปลูกไม้ 4 อย่างใช้ประโยชน์ 5 อย่าง ไม้ใหญ่ ยืนต้น ไม้เตี่ย ไม้-พืชเลี่ยดิน ไม้-พืชคลุมดิน ทำเป็นไร่นาสวนผสม ทั้งทำปศุสัตว์ และเลี้ยงปลาได้ ทั้งนี้ยังให้การอบรมทุกรายเมื่อผ่านการเรียนรู้จะมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ทุกขั้นตอน สามารถทำปุ๋ยอินทรีย์ได้เอง ทำน้ำหมักไว้รดป้องกันแมลง แม้แต่การขุดบ่อเลี้ยงปลา ยังมีส่วนที่ตื้นและลึก สำหรับปลาวางไข่ โดยทำเป็นเกษตรอินทรีย์ทั้งระบบ จะปลอดภัยทั้งคนทำและผู้บริโภค หัวใจสำคัญคือ พึ่งพาตนเอง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ตามแนวพระราชดำริที่ในหลวงร.9ทรงพระราชทานไว้ให้กับคนไทย และในหลวงร.10 ทรงสืบสานต่อยอด ขยายผลพัฒนาให้พสกนิกรของพระองค์มีความสุข

 

โคกหนองนาโมเดลเขื่อนหัวนา-ราษีไศลปิดตำนานประท้วงมาราธอน

 

ประชาชน และเกษตรกร กว่า300ราย ได้รับผลกระจากการสร้างเขื่อน จะมีรายได้ทุกวันเลี้ยงครอบครัวอย่างยั่งยืน ซึ่งภายใน6เดือนแรกจะเห็นผลแล้ว สามารถเก็บผลผลิตได้ หลังจากประสบความเดือดร้อนที่ได้ผลกระทบน้ำท่วมที่ดินทำกินแนวสองฝั่งแม่น้ำมูล เกิดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ริมตลิ่งมาอย่างต่อเนื่องหลังจากการสร้างเขื่อนหัวนา-ราษีไศล ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ -ศรีสะเกษ -ร้อยเอ็ด มากว่า20ปี

 

โดยที่ผ่านมารัฐได้จ่ายชดเชยไปแล้วกว่า2พันล้านบาท แต่ประชาชน ยังยากลำบากเรื่องประกอบอาชีพเข้าเรียกร้องความช่วยจากทุกรัฐบาล กรมชลฯได้นำโครงการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ เสนอคณะกรรมการร่วมแก้ไขปัญหาระหว่างรัฐและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐ ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯเป็นประธาน ได้อนุมัติงบ13.25ล้านบาท ค่าปรับแปลงขุดสระ ทำเหมืองไส้ไก่ แบบโคกหนองนาโมเดล ไร่ละ 2.5 หมื่นบาท ช่วยเหลือประชาชนโดยจะดำเนินการเสร็จในเดือนก.ย.นี้เฟสแรกและขยายผลไปพื้นที่ได้ผลกระทบจากสร้างเขื่อนหัวนา รวมทั้งพื้นที่อื่นด้วย

 

รองอธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรรายย่อยประสบปัญหามีหนี้สิน ที่ดินทำกินหลุดมือ จากทำเกษตรเชิงเดี่ยวที่ต้องพึ่งพาตลาดโลก พ่อค้าคนกลาง กำหนดราคาซื้อขาย ซึ่งในอนาคตทุเรียน อาจเกิดปัญหาเช่นเดียวกับยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตอนนี้เกษตรแห่ปลูกทุเรียน ไปแล้วล้านกว่าไร่ อีกทั้งอาชีพเกษตรกรรม เรียนรู้จากบรรพบุรุษที่เคยชินกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ที่อยู่กับความเสี่ยงทั้งฝนฟ้าและราคาถ้าปีไหนโชคดีราคาสูง แต่ทุกคนแห่กันมาปลูกเพิ่ม ทำราคาต่ำไปอีก ก็โชคร้าย สุดท้ายเกษตรกรไทยวนอยู่อย่างนี้ เพราะพืชเชิงเดี่ยว ราคาขึ้น ลง ตลอดเวลา และปัญหาน้ำมีพอไหมถ้านอกเขตชลประทานอาศัยเทวดา บางปีไปไม่รอด ไม่มีฝนตก

 

กว่า 30 ปี ที่ในหลวงร.9ทรงพระราชทานแนวทางทษฏีใหม่ มีการทำเกษตรกร เปลี่ยนตัวเองมาทำประสบความสำเร็จจำนวนมาก มีหลายรายพื้นที่เพียง1ไร่สร้างรายได้ถึง1.8แสนบาทต่อปี เป็นเรื่องไม่ยากพลิกฟื้นผืนดินสร้างความมั่นคงอาชีพเกษตรกร แม้ครั้งนี้เป็นโครงการเล็กๆ แต่ทำให้เกิดอิมแพคสูงลดปัญหาในชุมชนได้หมด ทั้งแก้ความยากจน การว่างงาน ยาเสพติด ลูกหลานจบมาช่วยพ่อแม่ ค้าขายผลผลิตเกษตรทางอีคอมเมริตส์ได้ด้วย ไม่ต้องละทิ้งบ้านเกิด ทำเกษตรทุกอย่างไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย ทุกอย่างผลิตเอง สินค้าเกษตรอินทรีย์ คนกินไม่มีสารเคมีตกค้างในเลือด ทำแบบนีกระทรวงสาธารณสุข ลดงบประมาณดูแลเจ็บไข้ ได้ปีละมหาศาล

 

โคกหนองนาโมเดลเขื่อนหัวนา-ราษีไศลปิดตำนานประท้วงมาราธอน

 

หลักของทษฏีใหม่ หัวใจคือให้ความรู้เกษตรกรต้องรู้และเข้าใจก่อน สอนให้ทำปุ๋ยอินทรีย์ ทำน้ำหมัก ไร่นาสวนผสม ปลูกป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง ปลูกพืชเกษตรกรมีรายได้ทุกวัน ลดรายจ่ายให้ได้ เหลือไปขาย บ่อเก็บน้ำมีน้ำเก็บ ไว้ใช้พอทำนาสวนผสมทำได้ทั้งปี เป็นโครงการแก้ปัญหาชุมชน กระจายแนวนี้ไปทั่วประเทศ ในอนาคตหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจโลก ประเทศไทยอยู่ได้ไม่เดือดร้อน ยังเป็นครัวไทยสู่ครัวโลก เพราะสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั่วโลกกำลังต้องการในเรื่องดูแลสุขภาพ  ยืนยันว่าระบบเกษตรทษฏีใหม่ ปลูกได้ ขายได้ทั้งปี ประเทศไทยในน้ำมีปลาในนามีข้าว ถ้าเรามีผืนดินอุดมสมบูรณ์ปลอดสารพิษ และจะขยายผลเป็นดินแดนเกษตรอินทรีย์ใหญ่ที่สุดในโลกได้ 

 

นายมนัส กล่าวว่า ประเทศไทย จะต้องพัฒนาทำให้พื้นที่เกษตร 149 ล้านไร่ทั่วประเทศ มีน้ำพอเพียงเพื่อทำเกษตร มีรายได้ตลอดปีช่วงหน้าแล้งไม่ต้องละทิ้งที่อยู่มาหางานทำในเมือง ซึ่งปัจจุบันที่มีระบบชลประทานแล้ว 30 ล้านไร่ และมีพื้นที่ที่มีศักยภาพทำระบบชลประทานอีก30ล้านไร่ที่ใช้งบอีกมาก จะเหลืออีก 89 ล้านไร่ ที่ต้องพัฒนา ถ้าใช้แนวทษฏีใหม่ประยุกต์ ขุดหลุมขนมครก ขุดบ่อ สระ ทำเหมืองไส้ไก่ โคกหนองนา ในแปลงของเกษตรกร โดยรัฐไม่ใช้งบประมาณมาก จะแก้ความแห้งแล้งได้ยั่งยืน เพราะกักเก็บน้ำฝนได้อีกกว่า1แสนลบ.ม.ต่อปีในขณะนี้ปล่อยทิ้งลงทะเลหมด เพราะยังไม่มีที่เก็บ จากปริมาณฝนตกทั่วประเทศ7-8แสนล้านลบ.ม.ต่อปี เก็กไว้ในเขื่อน 7หมื่นล้านลบ.ม.ในแม่น้ำลำคลอง2แสนล้านลบ.ม.และซึมลงใต้ดิน4-5แสนล้านลบ.ม.

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ