เตรียมเปิดทำเนียบฯเชิญ ชาวโยธะกา ถกทางออกปมที่ทำกิน

 

               21 มี.ค.62-นายธีรพล อุทัยพันธุ์ ประธานกลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ได้นำชาวบ้านตำบลโยธะกา ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางมาที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือ วัดหลวงพ่อโสธร เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยในรูปแบบกรรมสิทธิ์ร่วม และทบทวนนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 

 

       

          “โดยการยื่นหนังสือของชาวบ้าน มีนายสมพาศ นิลพันธุ์ ที่ปรึกษาปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายทหารคนสนิทของพลเอกประยุทธ์ เป็นผู้รับหนังสือด้วย โดยนายทหารคนสนิทของนายกรัฐมนตรีกล่าวกับชาวบ้านว่าจะส่งให้ถึงพลเอกประยุทธ์ และจะนัดหมายเพื่อหาที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อมีข้อสรุปโดยเร็วที่สุด”นายธีรพล กล่าว

       

          โดยหนังสือของชาวบ้านตำบลโยธะการะบุว่า เนื่องด้วย กลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ซึ่งเป็นกลุ่มชาวนาเช่าที่ดินราชพัสดุแปลงที่ 612, 613 และ 614 เดิมที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินที่บรรพบุรุษเข้ามาจับจองบุกเบิกหลังบริษัทขุดคลองแลคูนาสยามหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558 กระทั่งในปี 2568 ได้มีการนำที่ดินไปออกโฉนดให้แก่เจ้าคุณประยูรวงศ์ (แพ) ในรัชกาลที่ 5 และพระเจ้าพี่นางเธอพระองค์เจ้าสุวภักดิ์วิลัยพรรณ์ โดยมีทั้งออกจากหลักฐานใบจอง และโดยไม่มีหลักฐานเดิม บรรพบุรุษของชาวนาตำบลโยธะกาจึงต้องกลายเป็นผู้เช่านาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่อมามีการซื้อขายที่ดินเปลี่ยนมือที่ดิน จนกระทั่งทหารเรือได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวในปี 2491 และขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุ โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หลังจากมีพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุในปี 2518

          พวกเราชาวนาตำบลโยธะกา เป็นผู้สืบทอดการใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงดังกล่าว โดยบรรรพบุรุษของพวกเราได้เช่าที่ดินทำนา พร้อมกับบุกเบิกจากป่าปรือจนกลายเป็นผืนนาเต็มพื้นที่ในปัจจุบันมาได้ 3 – 4 ชั่วอายุคนแล้ว นับเป็นเวลานับ 100 ปี กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2557 ทางชาวบ้านได้รับหนังสือจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ฉะเชิงเทรายกเลิกสัญญาเช่าที่นา พร้อมกับขอให้ส่งมอบที่ดินภายใน 30 วัน แต่ชาวบ้านยังคงทำนาและอยู่อาศัยต่อมา จนกระทั่งในเดือนกันยายน 2560 ชาวบ้านได้รับหนังสือจากกองทัพเรือให้ส่งมอบที่ดินคืนภายใน 7 วัน 

          การยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าว ส่งผลกระทบกับชาวนาตำบลโยธะกา จำนวน 166 ครัวเรือน 635 คน จาก 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 2 หมู่ 10 หมู่ 11 และหมู่ 12 โดยเฉพาะในหมู่ 11 หากมีการยกเลิกสัญญาเช่าที่ดินและต้องส่งมอบคืนที่ดิน จะทำให้หมู่บ้านแห่งนี้หายไปทั้งหมู่บ้าน 
           อนึ่ง แม้ทางกองทัพเรือจะผ่อนผัน และรับปากว่าจะพิจารณาที่ดินแปลงอื่นเพิ่มเติม สำหรับการใช้ประโยชน์ในราชการของกองทัพเรือ แต่หากจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงนี้ ทางกองทัพเรือจะแจ้งให้ชาวบ้านรับรู้ล่วงหน้า และจะดำเนินการช่วยเหลือหากประชาชนจะต้องโยกย้ายบ้านออกจากที่ดิน ชาวบ้านจึงยังคงขาดความมั่นคงในที่ดินอยู่อาศัยและทำกิน 

                          

          ดังนั้น ทางกลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ในฐานะผู้บุกเบิก ไถหว่านที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่บรรพบุรุษและใช้ประโยชน์ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน  จึงมีข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้  1.ให้รัฐดำเนินการจัดสรรที่ดินราชพัสดุแปลงที่ 612, 613 และ 614 ในตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในรูปแบบกรรมสิทธิ์ร่วมให้กับชาวบ้านตามที่ใช้ประโยชน์จริงในปัจจุบัน โดยกองทัพเรือต้องส่งมอบที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าวคืนให้กับกระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) เพื่อที่รัฐบาลจะได้นำมาจัดสรรที่ดินให้กับชาวบ้าน 2. พิจารณาทบทวนนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทบทวนแก้ไขพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ร่างพระราชบัญญัติเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่เท่านั้น