ข่าว

"เตือน"เกษตรกรปลูกกัญชาทำตามกฎหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เตือน"เกษตรกรที่สนใจปลูกกัญชาทำตามกฎหมาย ขึ้นทะเบียนตามขั้นตอนใน 30 วัน ย้ำใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น

 

                  21 กุมภาพันธ์ 2562 นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับใหม่เปิดทางให้ใช้พืชกัญชา–กระท่อมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  

 

                  ที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ในฐานะตัวแทนเกษตรกรรู้สึกชื่นชมที่รัฐบาลเข้าใจ แล้วนำปัญหาที่หมักหมมมาช้านานไปปรับปรุงแก้ไข ให้ “กัญชา” เป็นยาแม่ยังคงเป็นยาเสพติดประเภท 5 อยู่ แต่ก็ยอมที่จะเปิดทางให้นำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้  


                  อย่างไรก็ตามสิ่งที่กังวัลใจจากนี้ไปคือขั้นตอนการขึ้นทะเบียน ของเกษตรกรซึ่งทราบกันดีว่า เกษตรกรบ้านเราส่วนใหญ่เพาะปลูกกัญชาอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลไม่ค่อยเข้าใจเรื่องกฎ ระเบียบ กติกาว่าขั้นตอนจากนี้ไปควรทำอย่างไร ประเด็นดังกล่าวส่วนตนเห็นว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาต วางขั้นตอนซับซ้อนมากเกินไป ขอให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นหลักเพราะออกกฎระเบียบเข้มเกินไปและปล่อยให้เกษตรกรเตรียมดำเนินการเองก็มั่นใจว่าจะไม่มีเกษตรกรเครือข่ายไหนได้รับการพิจารณาให้ปลูกกัญชาได้ตานเจตนารมกฎหมายที่วางไว้

 

                  "แนวโน้มกฎกระทรวงเท่าที่อ่านตามหน้าข่าว ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะทำงานยาก อาทิเช่น เกษตรกรในเครือข่ายที่รักษาผู้ป่วยอยู่ ทั้งหมดหากเอกสารผิดหรือไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งหมดจะผิดกฎหมาย วัตถุดิบ อุปกรณ์ในการสกัดกัญชาทั้งหมดก็จะถูกทำลายทิ้งนั่นคือสิ่งที่เป็นห่วงมาก ภาคราชการไม่ควรใช้กฎระเบียบหยุมหยิมจนลืมเจตนารมณ์ของกฎหมายไป ” นายประพัฒน์ กล่าว                   

 

                   นายประพัฒน์บอกด้วยว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นทางสภาเกษตรกรแห่งชาติจึงจะตั้งคณะทำงานเล็ก ๆขึ้นมาเพื่อเป็นพี่เลี้ยงและกระจายข่าว ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนให้กับเกษตรกรพร้อมทั้งจะเข้าประสานมหาวิทยาลัยที่มีคณะแพทย์ศาสตร์ เภสัชศาสตร์ ทันตกรรมศาสตร์ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยภาคกลางจะประสานมหาวิทยาลัยรังสิตซึ่งในวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.00 น. จะเข้าพบ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ส่วนในภาคเหนือจะเข้าประสานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคอีสานมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

 

                     จึงขอแนะนำเกษตรกรที่รักษาตนเอง ญาติพี่น้องและเครือข่ายด้วยพืชกัญชาให้รีบจัดทำเอกสารประวัติของผู้ป่วยบันทึกเป็นทางการแล้วจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยรวมตัวกัน 7 คนขึ้นไปประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่เพื่อจะขึ้นทะเบียนให้แล่วเสร็จภายใน30วันซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดจาก(http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/019/T_0001.PDF ) 


                    นายประพัฒนาย้ำว่าการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดเสรีกัญชา ไม่ใช่เพื่อสันทนาการเป็นการแต่ใช้เพื่อใช้ทางการแพทย์และมีขั้นตอนในการขออนุญาต ที่เขียนเอาไว้ในกฎกระทรวงอย่างชัดเจนจึงควรศึกษารายระเอียดให้ชัดเจน

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ