ข่าว

นับถอยหลัง 24 เดือนเลิกใช้พาราควอต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รมว.เกษตรฯ"ลั่นยกเลิกใช้ 3 สารพาราควอต ไกลโฟเซต คอร์ไพริฟอส ดีเดย์นับถอยหลัง 24 เดือนระดมจนท.คุมคนขาย-คนใช้ฉีดพ่นสาร ยันสารพิษ ไม่อยู่ในนาข้าว 60 ล้านไร่

 

                  17  กุมภาพันธ์ 2562  นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าหลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่แบนสารเคมีวัตถุอันตรายใช้กำจัดวัชพืชในการเกษตร 3 ชนิด 

 

                  ทั้งนี้คือ พาราควอต ไกลโฟรเซต คอร์ไพริฟอส โดยยังมีมติเพิ่มเติมให้กรมวิชาการเกษตร ไปกำหนดมาตรการในการจำกัดการใช้ ภายใน 2 เดือน ทั้งหมด 6 ประเด็น ตามแผนปฏิบัติการที่เสนอเมื่อวันที่ 30 ส.ค.61 เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯและก่อนหน้านี้กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาพอสมควร

 

                  โดยกระทรวงเกษตรฯได้ทำภายใต้มาตรการทั้ง 6 ด้าน เช่นการใช้กฏหมาย ออกประกาศควบคุมจำกัดการใช้ กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุมให้ไปตามกฏกระทรวง 6 ฉบับ กำหนดสถานที่ห้ามใช้ ขึ้นทะเบียนผู้หน่าย ผู้ใช้สาร ผู้รับจ้างฉีดพ่นสาร ต้องผ่านการอบรมใช้อย่างถูกวิธีทุกราย จึงได้ใบอนุญาตประกอบกิจการ กำหนดกลุ่มพืชในฉลากชัดเจน ที่ใช้สารเคมีเฉพาะกลุ่มพืชไร่ ข้าวโพด อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม้ผลยืนต้น

 

                  “ยืนยันว่าสารเคมี 3 ชนิดนี้จะไม่ไปอยู่ในนาข้าว 60 ล้านไร่ พืชสวนและพืชผัก อย่างเด็ดขาด ระหว่างนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงถ้อยคำร่างกฏกระทรวง โดยนายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรฯสั่งการให้ทุกขั้นต้องมีแผนปฏิบัติการชัดเจนเพื่อนำไปสู่การเลิกใช้สารเคมี ใน 2 ปี ท่านได้เร่งระยะเวลาเร็วขึ้นจากเดิม 3 ปีที่กระทรวงเกษตรฯเคยเสนอต่อกก.วัตถุอันตราย ไว้ ซี่งท่านกำชับให้แผนดำเนินการจะประกาศได้ภายใน 2 เดือนนี้ สิ่งสำคัญคือการสร้างองค์ความรู้ จะประสานทุกภาคส่วนแสวงหานวตกรรมทดแทนการใช้สาร ทำให้เกิดมิติใหม่ในการควบคุมจำกัดการใช้ได้ผลจริงเกิดความปลอดภัย เป็นภารกิจแรก ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วง24 เดือน หาสารทางเลือกทดแทน มีการติดตามบันทึกข้อมูล เป็นระบบ ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ 6 มาตรการได้รับความเห็นชอบ โดยที่ผ่านมาได้ปรับลดการอนุญาตนำเข้า 3 สาร

 

                  นายลักษณ์ กล่าวว่าในกรณีที่ไม่แบนภายใน 1 ปี จากที่คณะชุดนี้ด้านสาธารณสุข เคยปักหมุดไว้ว่าให้แบนพาราควอต ในเดือนธ.ค.62 โดยนายกฤษฏา ได้พูดคุยระดมสมองกับ 2 รมช.เกษตรฯพร้อมผู้บริหารกระทรวง ซึ่งนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรฯที่ดูแลเรื่องเกษตรกรรมยั่งยืน ไม่ได้มีความเห็นอะไร เพราะถ้าให้แบนปี 62 จะเหลือเวลาไม่ถึงปี และจะทางเลือกอะไรให้เกษตรกร เราคุยกันหนักมาก ถ้าใช้แรงงานหรือเครื่องจักรกล ต้นทุนเกษตรเพิ่ม 4เท่า หากใช้สารเคมีประเภทอื่นแทนพาราควอต ต้องเข้าใจว่าอยู่คู่กับบ้านเรามานานมาก ใครก็ตามสามารถมาขออนุญาตนำเข้าได้ เพราะต้นทุนต่ำมาก อีกทั้งถ้าหาทางเลือกให้เกษตรกร ไปใช้สารเคมีอื่น เช่น ไกลโครสิเมต ต้นทุนสูงกว่า พาราควอต และประสิทธิภาพไม่เท่า 

 

                  “เราถกกันหนักมาก ท่านรมว.เกษตรฯให้ใช้วิกฤษติครั้งนี้ มาช่วยกันทำงานให้สังคม จริงๆทางกระทรวง ผู้บริหาร ขอใช้เวลา3ปี ให้ชัวร์ ก่อน แต่รมว.เกษตรฯบอกว่า3ปีคงไม่ได้ ให้เร่งรัด จะให้งบเพิ่ม ดึงนักวิชาการมาช่วยกันทุกส่วน พยายามทำงานวิจัยต่อยอด อาจใช้เวลาเร็วขึ้น เป็นคำสัญญาของกระทรวงเกษตร เราทำเต็มที่ภายใต้การนำของนายกฤษฏา สั่งโปรโมต แผนการทำเกษตรปลอดภัย 149 ล้านไร่ ภายใต้มาตรฐานจีเอพี ผ่านมาตรฐานนี้ ทำให้ผู้บริโภคและผู้เกี่ยวข้องทุกคนสบายใจ “นายลักษณ์ กล่าว


                  นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่าเตรียมประกาศกฏกระทรวง 6 ฉบับ กำหนดเกณฑ์ ต่าง ๆ จำกัดใช้สารเคมี โดยกรมวิชาการเกษตร เสนอ ประกาศเรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไข นำเข้า วัตถุอันตราย 3ชนิด พร้อมกับ ผู้ใช้ผ่านการอบรม รวมทั้งคนรับจ้างพ่นสาร มีใบอนุญาตครอบครอง ได้รับอบรมอย่างเข้มข้น ที่ต้องใช้อย่างปลอดภัย และผู้ขาย ผ่านการอบรม วิธีการจำหน่าย จัดวางแยกชัดเจน เป็นวัตถุอันตราย ที่จำกัดการใช้ กำหนดฉลาก 3 ชนิด ต่างจากสารตัวอื่น ขนาดควรเป็นเท่าไหร่ เช่นครึ่งลิตรต่อไร่ สำหรับอ้อย ต่อรอบการปลูกและแต่งตั้งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่นเป็นเจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ควบคุมคนใช้ คนรับจ้าง โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย


                  “ผมแฮ็ปปี้มากๆ ผมเคยคุมเรื่องสารเคมี เมื่อก่อนเสนอมาครั้งใดโดนค้านตลอด เมื่อมีเจ้าหน้าที่ในทุกท้องถิ่น 76จังหวัดทั่วประเทศ ผมขับเคลื่อนได้ จำกัดการใช้สารเคมีการเกษตรทุกตัว โดยทุกหน่วยงานมีส่วนร่วมคนขาย คนรับจ้างพ่นต้องมาขออนุญาต หากไม่มีใบอนุญาต โทรปรับสองแสนบาท จำคุกสองปี หรือทั้งจำปรับ ส่วนผู้ขายแอบขายสาร หลังร้าน จะโดนโทษขายวัตถุทางเกษตรปลอม ปรับ 7 แสนบาท จำคุก7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเกษตรกร สามารถซื้อได้ตามจำนวนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ เช่นปลูกอ้อย 10ไร่ ซื้อได้เพียง 20 ลิตร”นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ กล่าว

 


                  กรมวิชาการเกษตร ได้รายงานปริมาณนำเข้า วัถตุอันตราย3ชนิด ช่วงปี57-61 เช่น สารพาราควอต 21,325 ตัน /30,388 ตัน/31,508ตัน/44,501 ตัน/21,412ตัน ตามลำดับ สารไกลโฟรเซต 63,104 ตัน/59,088 ตัน/62,363 ตัน/59,872ตัน/48,822ตัน และสารคอร์ไพริฟอส2,380ตัน/1,983ตัน/2,071ตัน/3,324ตัน/1,928ตัน ทั้งนี้เอกชนได้เสนอขอโควตานำเข้าปี62 สารพาราควอต 21,709 ตัน ไกลโฟรเซต 48,501 ตัน คอร์ไพริฟอส 932ตัน

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ