ข่าว

"ภราดรภาพ" ฟ้องหมิ่นเรียก 50 ล้าน "นายทะเบียนพรรค"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เลขาฯ พรรคภราดรภาพ" ยัน ไม่มีปัญหา ฟ้องคดีกันเองในพรรค แจงยิบพรรคมีมติถอดถอนนายทะเบียนอยู่แล้วป่วยทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่วนคดีรอศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 11 มี.ค.นี้ 

 

          29 ม.ค.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น. "นายพันธ์ยศ  อัครอมรพงศ์" อายุ 40 ปี เลขาธิการพรรคภราดรภาพ และทีมกฎหมาย ได้นำพยานหลักฐานมา ยื่นฟ้อง "นายวีระพัฒน์ พร้อมพลากร" อายุ 36 ปี นายทะเบียนพรรคภราดรภาพ เป็นจำเลย ในความฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332 พร้อมเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง เป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 6 ม.ค.62 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มกระทำความผิดจนกว่าจะชำระเสร็จด้วย

 

        "ภราดรภาพ" ฟ้องหมิ่นเรียก 50 ล้าน "นายทะเบียนพรรค"

           โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 6-16 ม.ค.62 "นายวีระพัฒน์" จำเลยใส่ความ "นายพันธ์ยศ" โจทก์ ด้วยเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจำเลยได้แถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนว่าโจทก์ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภราดรภาพ กับพวกข่มขู่และบังคับให้จำเลยลาออกจากนายทะเบียนพรรค เพราะเข้าใจผิดว่าจำเลยในฐานะนายทะเบียนพรรค มีรหัสคีย์ข้อมูลสมาชิกพรรคเพื่อให้สมาชิกจำนวน 20 คน ลาออกจากพรรคไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น และไม่นำสมาชิกพรรคบางคนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคตามที่โจทก์ต้องการ และยังระบุอีกว่า โจทก์ได้นัดจำเลยไปที่บ่อกุ้งแห่งหนึ่ง ข่มขู่บังคับให้เขียนหนังสือลาออกจากการเป็นนายทะเบียนพรรค แต่จำเลยไม่ยอมโจทก์จึงสั่งให้ลูกน้องซึ่งมีมือปืนและตำรวจนอกเครื่องแบบ 3-4 นาย ทำร้ายร่างกายและบังคับให้เขียนหนังสือกับอัดคลิปวีดีโอขั้นตอนการคีย์ข้อมูลการนำสมาชิกพรรคออกจากพรรค นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 15-22 ม.ค.62 จำเลยยังใส่ความโจทก์ต่อหน้าพนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานยุติธรรม จ.สมุทรสาคร ด้วยว่า จำเลย ถูกโจทก์ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคภราดรภาพ และคณะ กต.ตร.สน.หนองแขม กับพวกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยจำเลยได้แจ้งความไว้ที่กองปราบปรามแล้วและจำเลยยังอ้างว่า กลัวบุคคลในครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะโจทก์เป็นผู้มีอิทธิพล

           ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ไม่มีพฤติกรรมตามที่จำเลยใส่ความ โดยผู้ที่รับฟังและอ่านข้อความของจำเลย จะเข้าใจผิดว่า โจทก์เป็นคนไม่ดี เป็นผู้มีอิทธิพล ชอบกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยขณะนี้โจทก์ก็เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคภราดรภาพ ดังนั้นการกระทำของจำเลยดังกล่าว ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชังและทำให้ความนิยมในตัวโจทก์กับพรรคภราดรภาพในการรับเลือกตั้งน้อยลง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332 พร้อมให้จำเลยชำระชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เป็นเงิน 50 ล้านบาท และให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมดหรือบางส่วน ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ จำนวน 7 ครั้งติดต่อกัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยศาลรับคำฟ้องไว้ในสารบบคดีดำ อ.283/2562 เพื่อไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ต่อไป โดยกำหนดนัดวันที่ 11 มี.ค.นี้

            "ภราดรภาพ" ฟ้องหมิ่นเรียก 50 ล้าน "นายทะเบียนพรรค"

         ภายหลังยื่นฟ้องแล้ว "นายพันธ์ยศ" เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวถึงความเป็นมาว่า นายวีระพัฒน์ ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรค เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีที่ไปยื่นคำร้องต่อ กกต. กล่าวหาว่าตนทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ทั้งที่จริงแล้วคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติให้ถอดถอนนายวีระพัฒน์ ออกจากนายทะเบียนพรรคเนื่องจากสาเหตุเขามีอาการป่วย ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ จึงเกรงว่าจะทำให้การทำงานด้านการเมืองของพรรคเกิดความเสียหายโดยให้ผู้ช่วยนายทะเบียนดำเนินการทำงานแทนมาสักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งตนก็เคยคุยนายวีระพัฒน์ให้ลาออกด้วยความสมัครใจ มากกว่าที่จะถูกมติคณะกรรมการบริหารพรรคถอดถอนโดยไม่มีการใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขู่ใดๆ ขณะที่ตนกับนายวีระพัฒน์ รู้จักคุ้นเคยกันดีเปรียบเหมือนน้องคนหนึ่งซึ่งตนก็ชักชวนให้มาร่วมงานการเมือง

          "เลขาธิการพรรคภราดรภาพ" กล่าวอีกว่า จากคลิปวีดีโอต่างๆ จะรู้เลยว่าการพูดคุยไม่ได้มีประสงค์ร้าย เหมือนสอนคนที่เป็นน้องว่าควรขอโทษ ไม่ใช่หายหน้าไป ผู้ใหญ่ภายในพรรคจะคิดอย่างไร แล้วตนก็เป็นคนแนะนำเขามาด้วย เลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ตนเองต้องรับผิดชอบ แต่นายวีระพัฒน์ ยังไปร้องเรียนที่กองปราบปรามว่าถูกทำร้ายร่างกาย ถูกข่มขู่ ถูกบังคับให้เขียนหนังสือลาออกซึ่งไม่เป็นความจริง หากดูหนังสือลาออกก็เป็นเนื้อหาที่สุภาพและขออภัยกรรมการท่านอื่นมากกว่า ซึ่งกรรมการทุกท่านมีมติถอดถอนเขาอยู่แล้ว สิ่งที่อยากให้เขาทำ ก็ให้เขายอมรับว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายได้ โดยก่อนฟ้องตนได้ส่งคนไปเจรจาให้ออกมาขอโทษ แต่เขาอาจจะเกิดความกังวลซึ่งตนเชื่อว่าเขามีอาการป่วยจึงทำให้วิตกกังวลว่าจะมีคนมาทำร้าย

          เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่อการภาพลักษณ์และการบริหารพรรคภราดรภาพหรือไม่ "นายพันธ์ยศ" เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะที่ผ่านมานายทะเบียนไม่มีศักยภาพในการทำงานมาตั้งแต่ต้น พอเริ่มทำงานก็ให้ผู้ช่วยนายทะเบียนปฏิบัติหน้าที่แทนมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีหากฟ้องแล้วจะเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ก็ทำได้ ทุกอย่างเป็นไปได้

          "เหตุผลที่ออกมาฟ้องร้อง เพราะเห็นแก่ศักดิ์ศรีพรรคและผม หากไม่ทำจะเกิดภาพลักษณ์ไม่ดีติดตัวไปด้วย เพราะสิ่งที่เขาพูดไปออกสู่สาธารณะชน ทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งตอนนี้พรรคภารดรภาพกำลังจะเข้าสู่เวทีการเลือกตั้งแล้ว และผมก็เป็นคนมีชื่อเสียงในสังคม ส่วนการเลือกตั้งของพรรคภราดรภาพที่มี ม.ร.ว.ดำรงดิศ ดิศกุล อดีต ส.ส.ไทยรักไทย เป็นหัวหน้าพรรคได้ตั้งเป้าหมายไปที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชี หรือ ปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า คาดหวังไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะได้รับเลือกตั้ง ส.ส.ประมาณ 10 คน"

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ