ข่าว

จบคดี"กำนันเซี๊ยะ-เมีย"รุกที่รัฐ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฎีกาแก้อุทธรณ์ยกฟ้องเป็นลงโทษ 7 กรรม คุก 56 เดือน ให้นับโทษคดีฮั้วประมูล-รุกที่ราชพัสดุเมืองกาญจน์-ราชบุรีอีก ก.ม.กำหนดชัดเป็นที่หวงห้ามอ้างซื้อต่อคนอื่นไม่ได้

 

                   17 มกราคม 2562  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.4849/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็น โจทก์ยื่นฟ้อง  

 

                   นายประชา โพธิพิพิธ หรือกำนันเซี๊ยะ อายุ 76 ปี ผู้กว้างขวางใน จ.กาญจนบุรี และนางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา อายุ 53 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกและยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐในความครอบครองดูแลของรัฐ ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 , 108 ทวิ และให้จำเลยทั้งสองกับบริวารออกจากที่ดินพิพาทด้วย กรณีวันที่ 29 พ.ย. 44 - 8 ก.พ. 45

 

                  ทั้งสองร่วมกันบุกรุกและยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ มากกว่า 50 ไร่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานธนารักษ์ พื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยแผ้วถางป่าและไถปรับพื้นที่ทำถนน สร้างบ้านพักอาศัย บ้านพักคนงานและคอกปศุสัตว์ในที่ดินเนื้อที่เกินกว่า  50 ไร่ โดยไม่มีสิทธิและไม่ได้รับอนุญาต ที่หมู่ 2 ต.ช่องด่านและหมู่ที่ 2 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  โดยอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 54 ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้คดีมาโดยตลอด ไม่มีเจตนาบุกรุกที่ดินพิพาทดังกล่าว มีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 (1) และมาตรา 108 ทวิ  ฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะเป็นเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ , ฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ และฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ 

 

                 โดยคดีนี้ชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 มี.ค.58  ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 10 ปี 16 เดือน และให้จำเลยทั้งสอง รวมทั้งบริวารออกจากที่ดินดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ให้นับโทษ "นายประชาหรือกำนันเซี๊ยะ" จำเลยที่ 1 รวมกับคดีหมายแดง อ.2830/2557 กรณีบุกรุกที่ดิน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ที่ศาลอาญาให้จำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญาด้วย ขณะที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คดีซึ่งระหว่างอุทธรณ์จำเลยทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 1 ล้านบาท และมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึง 2 ครั้งเนื่องจากจำเลยไม่มาศาล กระทั่งวันวันที่ 8 ส.ค.59 ศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยทั้งสองเนื่องจากพฤติการณ์มีเหตุให้จำเลยทั้งสองเข้าใจโดยสุจริตว่า จำเลยมีสิทธิที่จะกระทำได้ จึงขาดเจตนาในการกระทำผิด ฐานบุกรุก เข้าไปยึดครองที่ดินของรัฐ จำเลยจึงไม่ผิดตามฟ้อง 

 

                  ต่อมา "อัยการโจทก์" ยื่นฎีกา ซึ่งศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาครั้งแรกในวันที่ 7 ธ.ค.61 แต่เมื่อถึงเวลานัดปรากฏว่าจำเลยทั้งสองไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าศาล ศาลจึงเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาออกไปเป็นวันนี้ (17 ม.ค.) เวลา 09.00 น. โดยให้ออกหมายจับติดตามตัวจำเลยทั้งสองมาฟังคำพิพากษาฎีกาตามกำหนดนัดนี้

 

                  อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัดวันนี้ "กำนันเซี๊ยะ" และ "นางเขมพร" ภรรยา จำเลยที่ 1-2 ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาฎีกา ศาลจึงให้อ่านคำพิพากษาฎีกาลับหลังจำเลยทั้งสอง 

 

                 โดยศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาบุกรุกแผ้วถางครอบครองที่ดินราชพัสดุ และไม่รู้กฎหมายที่ดินจึงขาดเจตนา โดยคดีนี้ไม่มีการร้องทุกข์ ไม่มีการสอบสวน ไม่มีการสั่งว่าไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด ไม่มีการสรุปสำนวนส่งอัยการพร้อมความเห็น อัยการจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น 

 

                  "ศาลฎีกา" พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยทั้งสอง อ้างไม่มีเจตนาเพราะไม่รู้เป็นที่ดินของรัฐนั้น เท่ากับเป็นการแก้ตัวให้พ้นผิดจากกฎหมายนั้นก็ไม่ได้ และที่จำเลยอ้างว่าซื้อที่ดินมาจากบุคคลอื่น และหากรู้ว่าเป็นที่ดินของรัฐก็จะไม่ซื้อก็ดี และซื้อมาในราคาตลาดโดยมีผู้รวบรวมดำเนินการให้นั้น  ย่อมไม่มีเหตุให้จำเลยทั้งสองพ้นจากความรับผิด 

 

                   โดยที่ดินตามห้องนี้กำกนดให้เป็นเขตหวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกาฯ จึงห้ามโอนแก่กัน
การได้เข้าไปครอบครองที่ดินโดยที่รู้อยู่แล้วไม่มีสิทธิ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสองนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย 

 

                    "ศาลฎีกา" จึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองผิดตามฟ้องรวม 7 กรรม ให้จำคุกกระทงละ 1 ปี โดยลดโทษให้คนละ กระทงละ 1 ใน 3 จึงให้จำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 56 เดือน (4 ปี 8 เดือน) พร้อมนับโทษ "กำนันเซี๊ยะ" จำเลยที่ 1 จากคดีแดงที่ 2936/2554 และแดง 3178/2548 ของศาลอาญา และ "นางเขมพร"  จำเลยที่ 2 ให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่ 3178/2548 ด้วย และมีคำสั่งให้บริวาร ลูกจ้าง คนงานของจำเลยทั้งสองออกจากที่ดินทันทีและให้ยกเลิกหมายจับเดิมที่ให้ตามตัวมาฟังคำพิพากษา ฎีกาในวันนี้ 

 

                   โดยให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองใหม่เพื่อนำตัวจำเลยทั้งสองมารับโทษตามคำพิพากษาฎีกาถึงที่สุดนี้ต่อไป 

 

                    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กำนันเซี๊ยะและภรรยานั้นยังมีหมายจับคดีฮั้วประมูลโครงการต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี ปี 2542 -2544 หมายเลขดำ อ.4077/2546 ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ถือเป็นที่สุดเมื่อวันที่ 25 ม.ค.59 ให้จำคุกกำนันเซี๊ยะเป็นเวลา 5 ปี และนางเขมพร เป็นเวลา 4 ปี ด้วย

 

                   นอกจากนั้น "กำนันเซี๊ยะ" ยังมีหมายจับตามตัวมารับโทษคดีหมายเลขดำ อ.55/2555 ที่อัยการฟ้องบุกรุกที่ราชพัสดุพื้นที่ ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และพื้นที่ ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันทั้งหมด รวมเนื้อที่ทั้งหมด 1,199 ไร่ 2 ตารางวา 84 งานอีกด้วย ซึ่งมีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อ วันที่ 18 เม.ย.2560 ให้จำคุกกำนันเซี๊ยะ 2 ปี 8 เดือน

 

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ