ข่าว

สืบพยานคดี "คนอยากเลือกตั้ง" โจมตีประวิตร 1 ส.ค.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อัยการจัดพยาน 13 ปาก ส่วน รังสิมันต์ โรม-จ่านิว-โบว์ ณัฏฐา กับพวกรวม 7 คน ยกพยาน 14 ปาก สู้คดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.-ม.116 โจมตีประวิตร- กดดัน คสช.เลือกตั้ง ต้นปี 61

 

       14 ม.ค.62-อัยการจัดพยาน 13 ปาก ส่วน รังสิมันต์ โรม-จ่านิว-โบว์ ณัฏฐา กับพวกรวม 7 คน ยกพยาน 14 ปาก สู้คดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.-ม.116 โจมตีประวิตร- กดดัน คสช.เลือกตั้ง ต้นปี 61 จ่านิว อัด บิ๊กแดง ไม่ใช่ลูกผู้ชายโจมตีชุมนุม 

        ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน คดีชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง 2 สำนวน คือคดีหมายเลขดำ อ.1197/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม อายุ 26 ปี นักเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง และนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็น 1 ในแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และร่วมกันมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 สืบเนื่องเมื่อวันที่ 10 ก.พ.61 ได้ร่วมกันจัดการชุมนุม หยุดยื้ออำนาจ หยุดยื้อเลือกตั้ง: หมดเวลา คสช. ถึงเวลาประชาชน กล่าวโจมตี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน     

          สืบพยานคดี "คนอยากเลือกตั้ง" โจมตีประวิตร 1 ส.ค.นี้

    และคดีหมายเลขดำ อ.2893/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ฉายาจ่านิว อายุ 26 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง จบการศึกษารัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ , นายอานนท์ นำภา อายุ 34 ปี อาชีพทนายความ , น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว อายุ 26 ปี , นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ อายุ 25 ปี นักกิจกรรม อดีตนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ , น.ส.ณัฏฐา มหัทธนาหรือโบว์ อายุ 40 ปี วิทยากรอิสระ และนายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์ อายุ 26 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด RDN50 เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดเดียวกันจากเหตุการณ์ชุมนุมเดียวกัน

          ซึ่งจำเลยทั้ง 7 คน ได้รับการประกันตัวชั้นศาล โดยวันนี้อัยการโจทก์ และจำเลยมาศาลตามนัด ขาดเพียงนายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ์ ที่ติดสอบอยู่ต่างประเทศ ซึ่งได้ขอพิจารณาลับหลังและศาลอนุญาตแล้ว พร้อมทนายความ

        สืบพยานคดี "คนอยากเลือกตั้ง" โจมตีประวิตร 1 ส.ค.นี้

          ขณะที่การตรวจพยานหลักฐาน อัยการ โจทก์ และทนายจำเลยคู่ความทั้งสองฝ่ายได้แถลงร่วมกัน ยืนยันว่าเหตุทั้งสองคดีเกิดขึ้นในวันเดียวกัน มีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน หากรวมการพิจารณาเข้าด้วยกันจะเป็นการสะดวก ซึ่ง ศาล พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย จึงอนุญาตให้รวมพิจารณาทั้งสองคดีเข้าด้วยกัน โดยให้นายรังสิมันต์ โรม เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนนายสิรวิชญ์ กับพวกรวม 6 คน ให้เป็นจำเลยที่ 2-7 ตามลำดับ 

          ต่อมาทนายความจำเลยทั้ง 7 คน ได้อ้างพยานหลักฐานเอกสารร่วมกันเป็น 6 ฉบับ และวัตถุพยานเป็นแผ่นวีซีดี 1 แผ่น โดยจำเลยทั้ง 7 คน แถลงแนวทางต่อสู้คดีร่วมกันว่า พวกจำเลยได้แสดงความคิดเห็น ติชมการบริหารประเทศของรัฐบาลโดยสุจริต ไม่มีเจตนาปลุกปั่น ยุยงให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนตามที่โจทก์ฟ้อง

          ขณะที่ อัยการโจทก์ แถลงว่า คดีนี้มีพยานบุคคลที่จะนำสืบ รวม 13 ปาก โดยจะนำสืบให้เห็นถึงเหตุการณ์เป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งจะใช้เวลาสืบพยาน 5 นัด โดย ฝ่ายจำเลย แถลงร่วมกันว่า จะนำสืบพยานต่อสู้คดีรวม 14 ปาก ขอใช้เวลา 4 นัด โดยเริ่มสืบพยานนัดแรกในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

 

          ทั้งนี้ นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว ก็ให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสู้คดีว่า วันนี้ศาลนัดมาเพื่อตรวจพยานหลักฐานคดีการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 61 โดยพยานหลักฐานที่นำมา อาทิ หลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนว่าเรามีสิทธิในการชุมนุมได้ รวมถึงคลิปวีดีโอที่เป็นความเห็นของนักวิชาการที่ชี้ให้เห็นสิทธิในการชุมนุม ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ ก็จะไปโต้แย้งในขั้นตอนการสืบพยาน โดยก่อนหน้านี้ตนให้การปฏิเสธว่าการชุมนุมครั้งนั้นเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนวันที่ 19 ม.ค.นี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งพร้อมจะชุมนุมต่อและกำหนดเส้นตายให้รัฐบาลภายในวันที่ 18 ม.ค. ให้ประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง อย่างช้าที่สุดควรจะอยู่ในห้วงวันที่ 10 มี.ค. จะเป็นกรอบที่อยู่ในระยะเวลา 50 วัน เป็นกรอบที่อยู่ในช่วง 150 วัน ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญได้บอกว่าการเลือกตั้งต้องแล้วเสร็จภายใน 150 วัน ซึ่งไม่ทราบว่าการตีความว่า แค่ลงคะแนนเสียงเสร็จ หรือต้องประกาศผลจนเปิดประชุมสภาฯ

          เมื่อถามว่า ล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนั้น นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ผบ.ทบ.พูดจาแบบนี้ไม่ได้ ไม่เป็นลูกผู้ชายพอ เป็นทหารอย่ามาโจมตีประชาชนแบบลับหลังแบบนี้ ทางกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง พยายามชุมนุมไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพของคนอื่นอยู่แล้ว การจัดการชุมนุมก็เป็นเพียงระยะสั้น

          ขณะที่ น.ส.ณัฏฐา หรือโบว์ ก็กล่าวถึงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อเย็นวานนี้ (13 ม.ค.) ซึ่งพนักงานสอบสวนก็เชิญตัวไปซักถามเกี่ยวกับการใช้เครื่องขยายเสียงภายหลังการชุมนุมยุติช่วง 20.00 น. ด้วยว่า ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เชิญตัวตนไปพูดคุยเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงเนื่องจากอ้างว่ามีเสียงดังถึง 120 เดซิเบล ซึ่งปกติกำหนดไว้ 115 เดซิเบล ตนได้นำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอที่เครื่องวัดระดับเสียง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ถ่ายข้อมูลจากเครื่องอัดเสียงมาก่อน เพื่อจะได้ดูว่าช่วงที่เสียงดังเป็นช่วงใด และแหล่งกำเนิดเสียงมาจากอะไร เพราะช่วงปราศรัยเสียงจะดัง 80-90 เดซิเบล เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่อ้างว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ดังเกินไป ทั้งนี้ในระหว่างการชุมนุมมีการใช้เครื่องเสียงของเจ้าหน้าที่ และเสียงไซเรนรถพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ความเป็นธรรมว่า เอาข้อมูลมาตรวจดูกันก่อน เลยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา โดยเครื่องขยายเสียง ยังถูกอายัดไว้ หากภายในสัปดาห์นี้ ยังไม่ได้คืนแล้วถ้าวันเสาร์ที่ 19 ม.ค.จะต้องนัดชุมนุมกันอีกตามที่ได้ประกาศไว้ว่า จะรอดูการประกาศ พ.ร.ฎ.วันเลือกตั้ง ภายในวันที่ 18 ม.ค.นี้ ก็คงต้องหาเช่าเครื่องขยายเสียงใหม่

          เมื่อถามว่า กรณีที่รัฐบาลออกมาวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมว่าทำให้เกิดความวุ่นวาย น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราชุมนุมโดยสันติวิธี ตามสิทธิเสรีภาพ และสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ลองนึกภาพบ้านเมืองที่ไม่มีการชุมนุม เราจะเกิดทรราชที่ใช้อำนาจได้อย่างตามอำเภอใจ โดยเฉพาะสภาที่ไม่มีฝ่ายค้านและสื่อมวลชนไม่มีเสรีภาพ การชุมนุมเป็นช่องทางในการสื่อสารที่จำเป็น เรามาชุมนุมปราศจากอาวุธ ไม่มีการยุยงปลุกปั่น ตอนนี้ทางรัฐบาลพยายามทำให้สังคมเห็นว่าการชุมนุมเป็นเรื่องผิดปกติ ทั้งที่เป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ถ้าสังคมตั้งหลักตรงนี้ไม่ได้เราก็จะเกิดการปิดปากกันเองด้วยการบอกว่าการชุมนุมเป็นสิ่งเลวร้าย เมื่อนั้นรัฐบาลเผด็จการสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ

          ขณะที่ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลได้กล่าวโจมตีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และยังถูกกลั่นแกล้งเรื่องระดับเสียงของเครื่องเสียงด้วย ซึ่งเป็นเหมือนกลไกที่พยายามดิสเครดิตทุกวิถีทาง ซึ่งทางกลุ่มพยายามสื่อสารเหตุผลของการไม่เลื่อนเลือกตั้งทุกวิถีทางคืออะไร ทาง คสช. ก็พยายามจะโยงไปเรื่องอื่นตลอดเวลา จึงฝากให้ทุกคนจับตาดูว่าการเลื่อนเลือกตั้งจนอาจทำให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ใครจะได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มฯมีข้อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเร่งประกาศ พ.ร.ฎ.วันเลือกตั้งภายในวันที่ 18 ม.ค.นี้ หากไม่มีความชัดเจนวันที่ 19 ม.ค. ทางกลุ่มฯก็จะออกมาชุมนุมกันต่อ แต่ยืนยันว่าจะชุมนุมอย่างสันติวิธี และสถานที่ก็เป็นบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ