ข่าว

ป.ป.ส ย้ำไม่ปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภท 5

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป.ป.ส ย้ำไม่ปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 อนุญาตเฉพาะหน่วยงานรัฐร่วมรัฐวิสาหกิจชุมชนปลูกเพื่อวิจัย-ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ใครลักลอบปลูก-เสพติดคุก 

 


           สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.)-26 ธ.ค.61  ป.ป.ส ย้ำไม่ปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 อนุญาตเฉพาะหน่วยงานรัฐร่วมรัฐวิสาหกิจชุมชนปลูกเพื่อวิจัย-ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ใครลักลอบปลูก-เสพติดคุก ส่วนผู้ป่วยครอบครองได้ตามปริมาณที่แพทย์สั่ง เกินถูกดำเนินคดี
           นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการป.ป.ส. ชี้แจงหลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ผ่านร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นกฎหมาย โดยผ่อนปรนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาให้แพทย์นำไปใช้รักษาโรค และเพื่อการศึกษาวิจัยได้ว่า. กฎหมายดังกล่าวกัญชา และกระท่อม ยังคงสถานะเป็นยาเสพติดให้โทษ เพียงแต่มีการผ่อนปรนเพื่อนำไปศึกษาวิจัยและใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รักษาโรคในผู้ป่วย และสร้างองค์ความรู้ใหม่เท่านั้น ไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปปลูกได้ เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ไม่ได้ถอนจากบัญชียาเสพติด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางป.ป.ส. กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งคณะทำงาน 4 คณะย่อย เพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูล แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องการคัดเลือกสายพันธุ์กัญชา วิธีการปลูก การจัดสร้างโรงเรือน การควบคุมอุณหภูมิ การควบคุมการเจริญเติบโตของต้นกัญชา การสกัด การใช้ทางการแพทย์ และการควบคุม เพื่อรองรับการผ่อนปรนดังกล่าว 

 

 

               ป.ป.ส ย้ำไม่ปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภท 5    “เมื่อได้ข้อสรุปตามหลักวิชาการและกฎหมายแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนปลูกและการแปรรูป โดยจะเริ่มต้นจากกำหนดปริมาณผู้ป่วยที่ต้องการยา จากนั้นจึงจะนำมาคำนวณเพื่อกำหนดปริมาณการแปรรูป และนำไปคำนวณพื้นที่การปลูก โดยผู้ที่จะขออนุญาตปลูกกัญชาได้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายระบุไว้เท่านั้น ส่วนการพิจารณาพื้นที่ที่จะขออนุญาตให้ปลูกเป็นไปตามกฎกระทรวง คือ ต้องเป็นพื้นที่ปิด ที่สามารถดูแลจัดการได้ มีความปลอดภัย เพื่อให้ได้กัญชาที่ดี มีคุณภาพและมาตรฐานที่จะนำไปผลิตเป็นยาได้”นายนิยม กล่าว
          ด้านนายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ ผอซกองกฎหมาย ป.ป.ส. กล่าวว่า การขออนุญาตปลูกกัญชาจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขกฎกระทรวง มีมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ปลูก มีกล้องวงจรปิดป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้า และไม่ให้คนภายในลักลอบนำผลผลิตออกมา โดยรายละเอียดกฎกระทรวงอยู่ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา ส่วนที่มีการระบุว่าการกำหนดพื้นที่โซนนิ่งการปลุกเป็นอำนาจของป.ป.ส.นั้น ขอชี้แจงว่าผู้ที่จะได้รับอนุญาตให้ปลูกต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ เช่น มหาวิทยาลัย หรือวิสาหกิจชุมชนที่ต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยการขออนุญาตการปลูกต้องระบุชัดเจนว่าจะนำไปศึกษาวิจัยด้านไหน ไม่ใช่คนทั่วไปจะสามารถปลูกได้

             ป.ป.ส ย้ำไม่ปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภท 5
          “ส่วนการกำหนดพื้นที่เสพหรือครอบครอง อนุญาตให้เฉพาะผู้ป่วยบางกลุ่ม ไม่ได้อนุญาตให้เสพเพื่อสันทนาการ โดยผู้ป่วยที่ต้องการเสพเพื่อบำบัดอาการต้องขึ้นทะเบียนในสถานพยาบาล และใช้ยาภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ เช่น อาจเป็นโรงพยาบาลธัญรักษ์ที่บำบัดรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติดอยู่แล้ว ซึ่งตามปกติการักษาจะให้เลิกใช้ยา แต่ในกรณีนี้จะเป็นการรักษาในลักษณะให้เสพภายใต้การควบคุม เพื่อให้มีผลตอบสนองการรักษา การจัดโซนพื้นที่เพื่อให้เสพกัญชาหรือพืชกระท่อมจะต้องเป็นไปเพื่อการรักษาผู้ป่วย ไม่ใช่จัดเป็นสถานบันเทิงเพื่อมั่วสุม”ผอ.กองกฎหมายกล่าว
           ผอ.กองกฎหมาย กล่าวถึงการครอบครองน้ำมันสกัดจากพืชกัญชาว่า ผู้ป่วยจะสามารถครอบครองได้ในปริมาณที่แพทย์สั่ง โดยแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์ทางเลือกจะวินิจฉัยและออกใบรับรองให้ หากพบภายหลังว่าผู้ป่วยมีครอบครองเกินจำนวนที่แพทย์ระบุไว้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะกฎหมายยังคงให้กัญชาเป็นพืชเสพติดประเภท 5
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ