ข่าว

ฟ้องแล้ว ! เมจิกสกินสำนวนแรก"เซรั่มรักแร้ขาว"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ฟ้องแล้วกลุ่มผู้ผลิต 3 รายร่วมลวงขายของสรรพคุณเกินจริง เสียหายกว่า 10 ล้าน ส่วนผัวเมีย "กร-วรรณภา พวงสน" เจ้าของบริษัทรอตามตัวฟ้อง สำนวนสองร่วมกับหญิงย้วย-พวก

 

               18 ธันวาคม 2561 "นายประยุทธ เพชรคุณ" รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าในการสั่งคดีเมจิกสกินในสำนวนต่าง ๆที่ พนักงานสอบสวน บก.ป.ได้ส่งสำนวนมา 

 

 

               โดยบอกว่า วันนี้อัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 ได้นัดให้ผู้ต้องหา 6 รายในสำนวนคดีอาญา 23/2561 ที่พนักงานสอบสวน บก.ป. ส่งให้อัยการมาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.61 (อัยการรับไว้เป็นคดี ส.1 เลขที่ 75/2561) มารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่ง แต่ปรากฏว่า บริษัท เมจิกสกิน จำกัดโดยนายกร พวงสน , นายกร พวงสน อายุ 37 ปี , นางวรรณภา พวงสน ภรรยาของนายกร , นายพีร์นิธิ หรือนิน ติรณวัตถุภรณ์, นายกสิทธิ์ หรืออเล็กซ์ วรชิงตัน (หญิงย้วยเน็ตไอดอลผู้โฆษณาขายสินค้าออนไลน์) และนายไมยสิทธิ์ หรือไมย สว่างธรรมรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 1-6 ก็ไม่ได้มาพบอัยการ แต่มอบอำนาจให้ทนายความยื่นหนังสือแจ้งขอเลื่อนโดยระบุจะมาพบอัยการอีกครั้งในวันที่ 18 ม.ค.62 พนักงานอัยการจึงได้นัดให้ผู้ต้องหาทั้งหก มาฟังคำสั่งพร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 18 ม.ค.62


              โดยคดีนี้อธิบดีสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯ ได้ตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาพิจารณาสำนวน เพราะเป็นคดีสำคัญ ก็ให้พิจารณากลั่นกรองให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมีการสั่งสอบเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมครั้งสุดท้ายกลับมาให้อัยการเมื่อวันที่ 21 พ.ย.61  คดีนี้มี น.ส.ทิพารมย์ ชุณหะสุต และผู้เสียหายรวม 59 ราย เป็นผู้กล่าวหาร้องทุกข์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-3

 

              ในความผิดรวม 8 ข้อหาฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมฯ, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลาก โดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง, ร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารด้วยวิธีอื่นใด เพื่อประโยชน์ในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันผลิตเพื่อขายเครื่องสำอาง และขายเครื่องสำอางโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง , ร่วมกันผลิตเพื่อขายและขายเครื่องสำอางปลอม , ร่วมกันผลิตเครื่องสำอางไม่ตรงตามที่จดแจ้งไว้


                ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 - 6 ถูกกล่าวหาในความผิด 3 ข้อหาฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ


               "นายประยุทธ" รองโฆษกฯ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2  ได้มีคำสั่งฟ้องคดีเมจิกสกินสำนวนแรกไปแล้ว ประกอบด้วยน.ส.ตรีชฎา หรือ ส้ม ใจสบาย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , หลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ส่วนบริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ 5-6 ข้อหาร่วมกันจ้างผลิตเครื่องสำอางไม่จดแจ้งรายละเอียดของเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง, ผู้รับจ้างผลิตเครื่องสำอาง ฉลากมีข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง , รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 พร้อมนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแล้ว

 

               ส่วน บจก.เมจิกสกิน , นายกร และนางวรรณภา พวงสน สามี-ภรรยากัน ผู้ต้องหาที่ 1-3 ที่ถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , หลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ หรือข้อมูลอันเป็นเท็จฯ , ผลิตเพื่อขาย รับจ้างผลิตหรือขายเครื่องสำอางปลอม ในวันดังกล่าว ( 13 ธ.ค.61) ยังไม่ได้มาพบอัยการเพื่อฟังคำสั่งฟ้องเช่นกัน ซึ่งอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯ ก็ได้ประสานให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลอาญาต่อไปแล้ว ซึ่งคดีนี้มีนายธีรพล ผลจันทร์ กับผู้เสียหายรวม 145 คน เป็นผู้กล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนมาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 และอัยการได้รับไว้เป็นคดี ส.1 ที่ 62/2561


               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ "คดีเมจิกสกินสำนวนแรก" ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้  ยื่นฟ้อง น.ส.ตรีชฎาหรือส้ม , บจก.ฮานิวโคเรีย และน.ส.ปาจรีย์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341,343 , ความผิดตามพ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 4 , 14 วรรคหนึ่ง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 นั้น โดยศาลอาญา ได้ประทับฟ้องไว้เป็นคดีดำ อ.369/2561 และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 11 ก.พ.62 เวลา 09.00 น.


               โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันใดไม่ปรากฏ ประมาณเดือน ก.พ.60 จำเลยทั้งสามร่วมกันโฆษณาหลอกลวง อันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้สรรพคุณผิวกระจ่างใส ชื่อบริษัท เมจิก สกิน (เซรั่มทารักแร้ขาว) อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และประมาณเดือน เม.ย.60 – วันที่ 20 ก.พ.61 ผู้เสียหายได้หลงเชื่อส่งมอบเงิน 10,059,556 บาท ให้แก่จำเลยที่ 1 กับพวกของจำเลยทั้งสามโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือบุคคลอื่นโดยทุจริต จึงขอให้ลงโทษตามกฎหมาย

 

                อย่างไรก็ตามนอกจากคดีทั้ง 2 สำนวนแล้ว พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯ 1 ก็กำลังพิจารณาคดีเมจิกสกินอีก 1 สำนวนที่พนักงานสอบสวน บก.ป. ได้ส่งมอบพยานหลักฐานสรุปความเห็นควรฟ้อง น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ (อายุ 24 ปี) , บริษัท เบอไนซ์ จำกัด(ตัวแทนจำหน่าย Slim Milk – Snow Milk) โดย น.ส.มธุรส , นางวรรณภา พวงสน หัวหน้าทีม , บจก.เมจิกสกิน , ว่าที่ ร.ต.ปวีร์ กลางประพันธ์ หรือปานดำรงสถิต (อายุ 50 ปี) และบริษัท เนเจอร์ นิวทริ จำกัด ผู้ต้องหาที่ 1-6 ให้อัยการเมื่อวันที่ 13 ก.ค.61 รวม 5 ข้อหาฐานฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมฯ, ร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลาก โดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีน.ส.ภัคษิกา เจริญสุข และผู้เสียหายรวม 216 ราย เป็นผู้กล่าวหา โดยอัยการรับไว้เป็นคดี ส.1 ที่ 77/2561 และที่ผ่านมาอัยการก็ได้สั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน
 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ