3 ผู้ต้องหาร่วมแผนยิงนศ.อุเทน นอนคุก ไร้คนยื่นประกัน

          21 พ.ย.61 – ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.ท.ฟ้าปรเมศวร์ ภูรินท์ชินธนโชติ ได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่านักศึกษาปีที่ 4 คณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายเสียชีวิต ประกอบด้วย นายกฤษฎา นราพงษ์ อายุ 21 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ ผู้ต้องหาที่ 1 (ผู้วางแผนสั่งการ)  , นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล  อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาสมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 2 (คนชี้เป้า) และนายสหรัฐ ดงพระจันทร์ อายุ 20 ปี ภูมิลำเนาสมุทรปราการ ผู้ต้องหาที่ 3 (ผู้ขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนซ้อนท้าย) ซึ่งทั้งสามเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาลงวันที่ 19 , 20 พ.ย.61 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. – 2 ธ.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา 
       ซึ่งการฝากขัง พนักงานสอบสวน ก็ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสามด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง จึงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

            อย่างไรก็ตาม วันนี้เมื่อนายนฤดม สุวรรณทัต อายุ 55 ปี และนางเขมนิจ อายุ 54 ปี บิดา-มารดาของ นศ.อุเทนถวายที่เสียชีวิต ก็เดินทางมาศาลพร้อมคนใกล้ชิด และได้เข้าขอคำปรึกษากับทนายความอาสา ที่ศาลอาญาจัดไว้ประจำศาล ในการยื่นคำร้องร่วมขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสามด้วย เนื่องจากเกรงว่า หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราวออกมาแล้ว เกรงว่าครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย 

            ขณะที่ศาลพิจารณาคำร้องฝากขังและสอบถามผู้ต้องหาทั้งสามแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ และเมื่อสิ้นสุดเวลาราชการศาลแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีญาติของผู้ต้องหาทั้งสามหรือบุคคลใดมายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาระหว่างการฝากขังนี้แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไประหว่างการฝากขัง 12 วันนี้

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.61 เวลาประมาณ 21.20น.ขณะที่มารดา และนายกมลวิช สุวรรณทัต (อายุ 24 ปี) ผู้ตาย ช่วยกันขายอาหาร อยู่ที่ปาก ซ.นวมินทร์ 57 ได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ 1 คน วิ่งออกมาจากใน ซ.นวมินทร์ 57 แล้ววิ่งเข้าไปหานายกมลวิช ซึ่งกำลังไปเอารถเข็นน้ำที่บริเวณลานคอนกรีตหน้าร้านอาหารซึ่งเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าไปที่นายกมลวิช 4-5นัด จนล้มลงกับพื้นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้นคนร้าย วิ่งหลบหนีไปทางปากซอย ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่มีคนร้ายอีก 1 คนจอดรออยู่ริม ถ.นวมินทร์ใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วพากันหลบหนีไป ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน จนพบว่าพฤติกรรมกลุ่มคนร้าย เตรียมวางแผนกันมาก่อนวันเกิดเหตุ มีการมาดูเป้าหมายก่อนลงมือ โดยผู้ตายเคยอาศัยอยู่ใน ซ.ลาดพร้าว 58/1 และได้ย้ายออกมาอยู่ที่บริเวณสุขาภิบาล 5 ซึ่งหลังจากเลิกเรียนแล้วในเวลา 20.00 น. ก็จะมาช่วยมารดาขายอาหาร บริเวณปาก ซ.นวมินทร์ 57 จึงน่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายได้ติดตามผู้ตาย และติดต่อกันกันผ่านมือถือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ประกอบกล้องวงจรปิดที่สามารถจับกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ ก็สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของกลุ่มคนร้าย ทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และเบอร์โทรศัพท์ที่ตรวจพบนี้ไม่เคยปรากฏการใช้ในพื้นที่เกิดเหตุมาก่อนอันเป็นการเฉพาะกิจเพื่อเตรียมการลงมือกระทำผิดครั้งนี้ โดยการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏในที่เกิดเหตุเชื่อมโยงกันประกอบพยานหลักฐานอื่น เชื่อว่าผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันกระทำผิดครั้งนี้ ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีการประชุมวางแผนกันล่วงหน้า โดยมีการวางแผน สั่งการ ชี้เป้า นำทาง คุ้มกัน พาหนี ขับรถ และมือปืนยิงผู้ตาย เหตุเกิดที่ลานคอนกรีต ปาก ซ.นวมินทร์ 57 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ซึ่งภายหลังศาลออกหมายจับแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามแล้วส่งพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , 289(4) ประกอบมาตรา 83  
            ทั้งนี้ "บิดาของผู้ตาย" ก็กล่าวว่า วันนี้ ได้เดินทางไปดูหน้าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ร่วมกันยิงลูกชายของตนเอง เพื่อต้องการจะถามว่าทำไมถึงต้องเป็นลูกชายของตนเอง โดยไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้ แต่ตอนเจอกัน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไม่ได้มองหน้า ก้มหน้าอย่างเดียว และไม่ได้สนใจอะไร

            โดยตนได้เดินทางมาที่ศาลอาญานี้เพื่อยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัวด้วย เพราะกลัวผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเกรงว่า ครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะครอบครัวยังคงต้องขายอาหารอยู่เหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง แม้ที่ผ่านมาจะยังไม่มีใครเข้ามาข่มขู่คุกคามก็ตาม แต่หากมาตนเอง ก็แยกไม่ออกเพราะคิดว่าเป็นลูกค้าทั้งหมด และในขณะนี้ยังมีความกังวลอยู่บ้างเพราะผู้ต้องหาอีก 2ราย ยังหลบหนีอยู่ หากจับกุมตัวได้แล้วคงจะสบายใจขึ้น ทั้งนี้ยังติดใจที่ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่มั่นใจว่า ตำรวจมีหลักฐานแน่นหนา เชื่อว่าจะไม่หลุดคดี

            ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหาอีก 2 ราย ที่ถูกออกหมายจับซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี คือ นายประสิทธิ์ ยลต์พล อายุ 23 ปี มือปืน , นายจิรภัทร เพชรรักษ์ อายุ 21 ปี ผู้คุมกัน นำทาง พาหนี