ข่าว

สอบปากคำ"บุญทรง"ต้องทำตามระเบียบคุก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อธิบดีกรมราชทัณฑ์"เผย"บุญทรง"ยังอยู่รพ.ราชทัณฑ์ รักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทตามอาการ ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติในเรือนจำได้จนท.ขอสอบปากคำต้องทำตามระเบียบ

 

 

                20 พฤศจิกายน 2561 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีที่นายนรวิทย์ หล้าแหล่ง ทนายความนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาระบุว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  

 

 

                บางคนเดินเข้า-ออกเรือนจำ เพื่อเข้าพบกับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นักโทษในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ว่า การเข้าพบผู้ต้องขังเป็นไปตามระเบียบทางราชการ หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะไม่สามารถเข้าออกโดยปกติได้ กรณีตำรวจหรือใครก็ตามที่ขอเข้าไปสอบปากคำหรือพบผู้ต้องขัง ต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านายบุญทรง ได้ออกมารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะมีข้อแลกเปลี่ยน เรื่องผู้บงการในคดีทุจริต ระบายข้าวนั้น ตนเห็นว่าเป็นการวิจารณ์ของสื่อมวลชน

 

                ขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบราชการ ผู้ต้องขังก็เป็นเพื่อนมนุษย์และเพื่อนร่วมชาติ เมื่อเจ็บป่วยก็สมควรได้รับการรักษา แต่ถ้าข้างในเรือนจำไม่สามารถรักษาได้ก็เป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการรักษาอย่างดีที่สุด โดยในขณะนี้นายบุญทรงยังทำการรักษาตัวอยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาล เพราะโดยสภาพของนายบุญทรงไม่สามารถอยู่ในห้องควบคุมทั่วไป ที่มีผู้ต้องขัง 40-50 คน นอนรวมกันบนพื้นเรือนนอนได้ เนื่องจากเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และยังไม่ทราบว่าจะออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับเข้าสู่เรือนจำได้เมื่อไหร่ เพราะตนไม่ใช่แพทย์ ซึ่งก็คงต้องรักษากันไปตามอาการ


                “ผมมีความเป็นห่วงในเรื่องตัวเลขที่แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 รายในเรือนจำ จึงอยากลดความสุญเสียเหล่านี้ ทำให้นักโทษเข้าถึงการรักษาพยาบาลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะมากหรือน้อยอย่างไรคนเหล่านี้ออกไปใช้ชีวิตปะปนร่วมกันคนในสังคม จึงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักโทษเพื่อไม่ให้ออกไปเป็นภาระของสังคม” พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว

 

                ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปในการอภัยโทษในวโรกาสสำคัญภายในปีนีอ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ในวโรากาสมหามงคลต่างๆ ตามธรรมเนียมราชประเพณี ทุกหน่วยงานจะเตรียมรับนโยบาย ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ก็จะมีการเสนอให้มีการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะทำให้มีผู้พ้นโทษมากกว่าการปล่อยตามปกติ ประมาณเดือนละ 5-6 พันราย แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการวางหลักเกณฑ์อย่างไร แต่ที่ผ่านมาจะครอบคลุมนักโทษชั้นกลางขึ้นไป ให้เป็นผู้ได้รับประโยชน์ แต่บางครั้งก็จะเสนอตั้งแต่ชั้นดีขึ้นไป ทั้งนี้การขอพระราชทานอภัยโทษมีหลายลักษณะ เช่นชั้นเยี่ยม อาจได้ลดโทษถึง 1 ใน 3 ชั้นดีรองลงมาอาจได้ลดโทษ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 6 ตามแต่จะเห็นสมควร

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ