ข่าว

อุทธรณ์เเก้สั่งปรับ 5 แสน ทัวร์ศูนย์เหรียญ จากเดิมยกฟ้อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ สั่งปรับ "3 กก.ผจก.ฝูอันฯ" คนละ 5 แสน ผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว ส่วนบริษัทไทยกลุ่มโอเอ ยืนยกฟ้อง 10 ราย

 

         15 พ.ย.61-ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ คดีหมายเลขดำ ฟย.46/2559 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมเกียรติ คงเจริญ อายุ 59 ปี กก.ผจก.บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด , นางธวัล แจ่มโชคชัย อายุ 61 ปี กก.ผจก.บจก.ฝูอัน ทราเวล , บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด , นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 28 ปี กก.ผจก บจก.โอเอฯ , บริษัท รอยัลเจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท ไทยเฮิร์บ จำกัด, บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท รอยัลพาราไดซ์ จำกัด, นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี อายุ 63 ปี กรรมการผู้จัดการทั้งสี่บริษัท ซึ่งเป็นมารดาของนายวสุรัตน์, นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี อายุ 62 ปี สามีของนางนิสา, บริษัท บ้านขนมทองทิพย์ จำกัด, น.ส.สายทิพย์ โรจน์รุ่งรังสิ อายุ 37 ปี กรรมการผู้มีอำนาจ บจก.บ้านขนมทองทิพย์ซึ่งเป็นบุตรของนายธงชัย และนายวินิจ จันทรมณี อายุ 71 ปี ผจก.บจก.ฝูอัน ทราเวล เป็นจำเลยที่ 1-13  ฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคแรก, พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 
         

 

 

           โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 25 ต.ค.59 ระบุพฤติการณ์สรุป เมื่อที่ 24 มี.ค. - 31 ส.ค.59 บริษัทนำนักท่องเที่ยว จากประเทศจีนเข้ามาโดยไม่มีค่าบริการ (ทัวร์ศูนย์เหรียญ) และกำหนดแผนการเดินทางให้มัคคุเทศก์และผู้ขับขี่นำรถไปจอด ให้นักท่องเที่ยวแวะซื้อสินค้าจากร้านในเครือเดียวกับ บจก.โอเอ ฯ ซึ่งสินค้าภายในร้านมีราคาแพงกว่าท้องตลาดหลายเท่า แสดงฉลากไม่ถูกต้อง โดย บจก.โอเอฯ แบ่งปันผลประโยชน์ให้บริษัททัวร์ 30-40% ให้มัคคุเทศก์ 3-5% ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ลักษณะปกปิดวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญชาวจีน รวมมูลค่าความเสียหาย 98 ล้านบาทเศษ

          ซึ่งคดีนี้ "ศาลชั้นต้น" ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.60 ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 13 คน เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษพวกจำเลยตามฟ้อง โดยอัยการโจทก์ ยื่นอุทธรณ์ 
          ขณะที่ "ศาลอุทธรณ์" พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วเห็นว่า พยานที่นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องในความผิดฐานอั้งยี่ 
          เมื่อพฤติการณ์ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานอั้งยี่ การกระทำจึงยังไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงินดังนั้นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง 2 ข้อหานี้ ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย
          แต่พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่า พฤติการณ์ นายสมเกียรติ คงเจริญ อายุ 59 ปี กก.ผจก.บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด , นางธวัล แจ่มโชคชัย อายุ 61 ปี กก.ผจก.บจก.ฝูอัน ทราเวล ของจำเลยที่ 1,2 เเละนายวินิจ จันทรมณี อายุ 71 ปี ผจก.บจก.ฝูอัน ทราเวล ที่ 13 เป็นการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ฯ มาตรา 24  
          "ศาลอุทธรณ์" จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ปรับจำเลยที่ 1,2,13  คนละ 500,000 บาท นอกเหนือจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ