ข่าว

ไม่จบ!! "ธนวัฒน์" สูญร้อยล้าน จ่อฟ้องหุ้นส่วนเดิมจัดมิสยูนิ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แจงยิบประเด็นถูกตัดสิทธิ์ฯ ชี้กลโกงคนเห็นแก่ตัว หวังสร้างบรรทัดฐานเรื่องความโปร่งใส และหน้าตาประเทศ

         จากกรณีที่มีการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์ในการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ จากบริษัท ทีดับบลิว อินเวสเมนท์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งนำโดย นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการบริษัท ไปเป็นบริษัทใหม่ที่ตั้งโดยอดีตหุ้นส่วนเดิมเพื่อถือลิขสิทธิ์ในการจัดการประกวดอย่างเป็นทางการ และมีการแถลงข่าวการเข้ามารับหน้าที่แทนไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน บริษัท ทีดับบลิว อินเวสเมนท์กรุ๊ป จำกัด ได้ออกจดหมายเปิดผนึกส่งไปยังสำนักข่าวต่างๆ ชี้แจงเรื่องการถูกยกเลิกสิทธิ์ในการจัดประกวดมิสยูเวิร์ส 2018 ท่ามกลางความสงสัย

         ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ห้องเอ็มเพอเรอร์ ชั้น 28 ตึกแปซิฟิค ซิตี้คลับ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการบริษัท ทีดับบลิว อินเวสเมนท์กรุ๊ป จำกัด ได้นัดแนะสื่อมวลชนตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงการถูกยกเลิกสิทธิ์การจัดประกวดมิสยูเวิร์ส 2018 พร้อมประกาศให้ทราบถึงการดำเนินการทางกฎหมายต่อหุ้นส่วนเดิมและผู้ที่เกี่ยวข้อง

         นายธนวัฒน์ วันสม เปิดเผยว่า ตัวเองในนามบริษัท ทีดับบลิว อินเวสเม้นท์ จำกัดขอชี้แจงประเด็นเพิ่มเติมเนื่องจากเดือนที่แล้วทางบริษัทได้ส่งสารเปิดผนึกถึงสื่อมวลชน ชี้แจงเรื่องการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยปลายปีนี้ วันนี้อยากมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จุดประสงค์คืออยากให้ข้อมูลและทราบถึงความคืบหน้าการดำเนินการทางด้านกฏหมายกับหุ้นส่วนเดิมและผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเด็นปัญหาหนึ่งที่อยากพูดในวันนี้คืออยากให้วันนี้เป็นโอกาสสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะเราได้สิทธิ์ในการทำสิ่งที่ดีระดับโลกในประเทศเราเอง การสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศเป็นสิ่งที่ตนตระหนักดีและตั้งใจ ตั้งแต่แรกที่ไปดึงลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์สมาจัดในประเทศไทย ให้ไทยได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ โชว์ความสามารถของคนไทยด้วยกัน นั่นคือความตั้งใจของตนไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนถึงวันนี้ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย ขณะเดียวกันการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ต้องอยู่บนบรรทัดฐานความถูกต้อง ความสำคัญของจริยธรรมในการดำเนินงานธุรกิจเป็นสิ่งที่สำคัญ น้อยนักที่จะมีองค์กรที่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้ภายในประเทศไทย ตนได้ปวารนาว่าในฐานะที่เป็นตัวแทนองค์กรที่มีความตั้งใจที่ดีต่อประเทศชาติ แต่การกระทำนี้มีผลกระทบต่อองค์กร จึงอยากจะขอใช้สิทธิ์ในการขี้แจงข้อเท็จจริงและสร้างบรรทัดฐานในการดำเนินการธุรกิจที่ดี
          “ในการแถลงข่าวของอดีตพาร์ทเนอร์ท่านหนึ่งมีการใช้คำว่า “คนโง่ฉวยโอกาส แต่คนฉลาดสร้างโอกาสให้ตัวเองฉวย” ผมคิดว่าคำนี้เป็นคำพูดที่สำคัญและบ่งบอกถึงเจตนาของการดำเนินการเพราะในฝั่งของผมคิดว่าเป็นความมุ่งมั่นของผู้พูดที่ไม่สำนึกต่อความรับผิดชอบและไม่แสดงความมีจริยธรรมทางธุรกิจ ทำให้ผมไม่สามารถนิ่งนอนใจที่จะปล่อยให้มาตรฐานจริยธรรมทางธุรกิจของประเทศตกต่ำได้มากกว่านี้ จึงเป็นที่มาของการแถลงในวันนี้” นายธนวัฒน์ กล่าว
         นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การที่อดีตหุ้นส่วนบางคนเอาเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้งและกระทำการจนได้ ฉกฉวยโอกาสไปทำผลประโยชน์เป็นของตัวเองเป็นผลประโยชน์ให้กับบริษัทเขา ทั้งที่เป็นโครงการใหญ่และเป็นโครงการที่จะเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ตรงนี้คิดว่าเป็นจริยธรรมในการทำธุรกิจที่ไม่ถูกต้อง ถึงแม้วันนี้ตัวเองจะเสียใจต่อการถูกยกเลิกสิทธิ์แต่ก็อยากบอกว่ายังคงยืนหยัดบนความถูกต้อง ตั้งใจในการทำธุรกิจที่ดีเพื่อประเทศชาติต่อไป ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและจะทำบรรทัดฐานให้ถูกต้องด้วย และอยากบอกพี่น้องชาวไทยด้วยว่าสิทธิ์ที่ได้มาครั้งนี้ จัดเสร็จแล้วก็จบไป แต่บรรทัดฐานของการจัดงานบนพื้นฐานของจริยธรรมที่ถูกต้องมันจะบ่งบอกถึงความเป็นประเทศไทย ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไปตลอดกาล เพราะฉะนั้นจะต้องทำให้การทำธุรกิจอยู่บนบรรทัดฐานที่ดีและถูกต้องที่สุด โดยการมองภาพรวมของผลประโยชน์ทางสังคมไทยและสังคมโลกเป็นสิ่งที่ควรทำ นักธุรกิจที่ดีต้องเป็นนักธุรกิจที่คิดดีทำดีและกล้าที่จะต่อสู้กับทัศนคติฉลาดแกมโกง หรือพร้อมต่อต้านในการฉกฉวยโอกาสอย่างไม่สมเหตุสมผล
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงชี้แจงความเป็นมาเป็นไปแล้ว นายธนวัฒน์ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามข้อสงสัยอื่นๆ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ว่าทำไมบริษัทจึงไม่สามารถดำเนินการจัดการมิสยูนิเวิร์ส 2018 ต่อไปได้ ซึ่งนายธนวัฒน์ ชี้แจงว่าเป็นการตกลงกันกับอดีตหุ้นส่วน ในการระดมทุนร่วมกัน ทำงานร่วมกัน แต่พอถึงเวลาอดีตหุ้นส่วนไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไข พอมีผลกระทบทางสัญญา ก็ไปดำเนินการจัดตั้งอีกบริษัทหนึ่ง เพื่อดำเนินการต่อ เป็นเงินหลักร้อยล้านที่เสียไป ตนจะใช้สิทธิ์เต็มที่ในการดำเนินการกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการทางกฎหมาย โดยจะยื่นฟ้องเร็วๆนี้ พร้อมเมื่อไหร่ก็ดำเนินการเมื่อนั้น 
          ทั้งนี้ ตัวเองไม่เคยทราบมาก่อนว่า อดีตพาร์ทเนอร์จะดำเนินการในรูปแบบนี้ ทราบอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายจัดงานแถลงข่าวการจัดการประกวดแล้ว
          ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นเรื่องการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์อย่างไร นายธนวัฒน์ บอกว่ามีการจ่ายแล้วเป็นบางส่วน แบ่งจ่ายหลายๆงวด และงวดที่ยังไม่ได้จ่ายคืองวดที่เป็นปัญหา ซึ่งไม่ใช่งวดสุดท้าย ซึ่งอดีตพาร์ทเนอร์ไม่เคยลงทุนร่วมตามที่ตกลงกัน พอมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ปล่อยให้สัญญามีปัญหาเสร็จแล้วก็ไปดำเนินการต่อเมื่อสิทธิ์การจัดประกวดของบริษัททีดับบลิวฯ ถูกยกเลิก
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีการคุยกับอดีตพาร์ทเนอร์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ ได้คำตอบว่าคุยกันตลอด อดีตพาร์ทเนอร์รับทราบทุกรายละเอียด มีการคุยกันหลายครั้ง ชัดเจนมาก ส่วนที่ทำไมเขาถึงไม่ทำตามสัญญาที่ระบุไว้คงต้องไปถามเขา ซึ่งเม็ดเงินจ่ายไปให้องค์กรมิสยูนิเวิร์สนั้นโดยรวมทั้งหมดเป็นหลักร้อยล้าน เป็นเงินก้อนที่ไม่เล็ก ค่าใช้จ่ายมีหลายๆ ส่วน ในประเด็นที่มีปัญหาไม่อยากพูดเยอะเพราะจะมีผลต่อรูปคดี เป็นข้อมูลเชิงธุรกิจ
    “เป็นประเด็นที่รับรู้ร่วมกัน รวมทั้งอดีตพาร์ตเนอร์ด้วย เขามีหน้าที่ในการร่วมจัดงาน เพราะฉะนั้นประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาอดีตพาร์ทเนอร์รับรู้ องค์กรต่างประเทศก็รับรู้ หลังจากที่เขาแถลงข่าวครั้งนั่นก็ไม่มีการพูดคุยกันอีกเลย” นายธนวัฒน์ เผยผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เงินที่จ่ายไปแล้วคิดว่าควรได้รับคืนหรือไม่ นายธนวัฒน์ระบุว่าในฝั่งของตัวเองคิดว่าจะต้องได้รับคืน ยังไม่รวมค่าเสียหายอื่นๆ

         ถามถึงความมั่นใจในการฟ้องร้องว่าจะมีโอกาสชนะด้วยกลักฐานที่มีตอนนี้มากน้อยแค่ไหน ได้คำตอบว่าทนายบอกว่ามีเปอร์เซ็นค่อนข้างสูง ส่วนข้อสงสัยที่ว่าการจัดแถลงข่าวครั้งนี้จะมีปัญหาต่อการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สที่จะมีขึ้นปลายปีนี้หรือไม่ นายธนวัฒน์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบว่า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะต้องเรียนตามตรงว่าการแถลงข่าวครั้งนี้ เหตุผลคือเนื่องจากมีการพูดถึงในประเด็นที่ตนให้ความสำคัญในเชิงการทำธุรกิจที่ถูกต้อง และทางบริษัทก็ดำเนินการไปเพื่อรักษาสิทธิ์ ตามสิทธิ์ที่พึงมี
          ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทางองค์กรมิสยูนิเวิร์สมีการพูดชี้แจงถึงเหตุที่ต้องยกเลิกลิขสิทธิ์หรือไม่อย่างไร นายธนวัฒน์ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยอย่างชัดเจนในหลายระดับ ทางองค์กรมิสยูฯ ได้เข้ามาชี้แจง แต่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยหรือไม่ต้องไปถามเขา
          “ค่าลิขสิทธิ์ที่จ่ายไปเสียเปล่าเลยหรือไม่ ใช่คับไม่น้อยกว่าหลักร้อยล้าน แต่จะฟ้ององค์กรมิสยูฯ หรือไม่ ก็จะใช้สิทธิ์เต็มที่ ต้องเรียนว่าเป็นประเด็นด้านข้อกฎหมายเราก็ใช้สิทธิ์เต็มที่ มองทุกมิติครับ”
          ผู้สื่อข่าวถามกรณีอดีตพาร์ทเนอร์แถลงข่าวโดยระบุบว่า แผนในการจัดการประกวดครั้งนี้เป็นแผนใหม่ ไม่ใช่ของเดิมที่วางไว้ แหล่งข่าวตอบว่าคงต้องเอารายละเอียดมาดูกัน แต่ยืนยันว่ามีการเชื่อมต่อไปบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือสปอนเซอร์หรือหน่วยงานภาครัฐที่บริษัทเดิมดำเนินการมาพอสมควร
          ผู้สื่อข่าวถามถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกจากตีเป็นตัวเงินแล้ว คืดว่ามีผลกระทบด้านอื่นๆ อีกหรือไม่ นายธนวัฒน์ อธิบายว่าเป็นผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัทในการตั้งใจนำสิ่งดีๆ เพราะนี่เป็นโครงการแรกๆ ที่แพลนไว้ จะมีโครงการดีๆ ต่อยอดกิจกรรมดีๆ อีกหลายอย่าง พอมีผบกระทบก็ต้องมีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทางด้านการดำเนินการและดำเนินคดี เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาแทนที่จะร่วมมือการเพื่อสร้างความภูมิใจให้ประเทศอย่างสง่างาม การออกมาแถลงข่าววันนี้ถือว่าเป็นไปตามเวลาปกติ ยังไม่สาย
          “เรื่องฟ้องร้องผมเตรียมใช้สิทธิ์เต็มที่ แต่ขอเก็บไว้เป็นข้อมูลทางด้านกฎหมาย ที่ผ่านมาผมกับอดีตหุ้นส่วนเราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เดิมทีเขาติดต่อขอให้ผมมาช่วยดำเนินการเจรจาเรื่องลิขสิทธิ์ หลังจากนั้นก็ตกลงที่จะทำงานร่วมกัน นอกจากโปรเจคนี้แล้วส่วนตัวยังมีวางแผนเรื่องเวทีจัดประกวดไว้พอสมควรว่าจะต่อยอดทางด้านนี้ก็จะดำเนินการต่อโดยเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ มีคอนเท้นท์ที่ดี เป็นโครงการที่บริษัทมีและจะเดินหน้าต่อไป ก็จะมีเวทีประกวดด้านความสวยความงามไม่ต่ำกว่า 5 โครงการ จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็มีผบกระทบ แต่ก็จะเดินหน้าต่อไป ต้องดูกันต่อไป ตอนนี้พยายามให้เกิดผลกระทบต่อบริษัทให้น้อยที่สุด ถ้าใช้สิทธิ์ทางด้านกฎหมายได้เร็ว ได้ข้อสรุปเร็วก็คาดคาดหวังว่าจะยุติได้เร็ว  ซึ่งในด้านการดำเนินคดีก็ขึ้นอยู่กับทนาย ความพร้อมของทนายช้าเร็วแค่ไหน ด้านหลักฐานมีอยู่แล้วต่อแรก โอกาสชนะคดีทนายให้เปอร์เซ็นต์ค่อนข้างสูง ตอนนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสาร ไม่ได้รอเวลา เพราะการดำเนินการด้านเอกสารมีความละเอียดอ่อนพอสมควร”
          ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาการฟ้องจะดำเนินการก่อนหรือหลังการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส ได้คำตอบว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของฝ่ายกฎหมาย ถ้าพร้อมก็ดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องรอ พร้อมเมื่อไหร่ก็ฟ้อง
          “โปรเจคต่อไปจะคัดเลือกพาทเนอร์ที่ศักยภาพจริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะมีปัญหา คงไม่มีใครกระโดดเข้าไปทำธุรกิจแล้วจะมีปัญหา เพราะถ้ารู้ก่อนก็คงไม่ทำ ใครจะไปคาดคิดว่าคนไทยด้วยกันจะมีประเด็นแบบนี้ ยิ่งเป็นโครงการระดับโลก แค่คิดก็ไม่ปกติแล้ว”
         ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ถ้ามีการพูดคุย จะมีโอกาสไม่ฟ้องหรือไม่ นายธนวัฒน์ เผยว่าถ้าหาข้อยุติได้ก็เป็นไปได้ที่จะไม่ฟ้อง ต้องเรียนว่าอดีตพาทเนอร์มีหลายส่วน เช่น กลุ่มทุนเก่า เป็นต้น ในความสัมพันธ์กับอดีตหุ้นส่วนก่อนหน้านี้ก็คิดว่ารู้จักกันระดับหนึ่ง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยเรามีความตั้งใจ รู้จักกันผ่านผู้ใหญ่ที่แนะนำมาเมื่อปีที่แล้วเท่านั้นเอง
          “ผมขออ้างถึงบทความของคุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ผมนับถือและเคยทำงานร่วมกันที่ว่า “เราะต้องสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต หรือทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นบาดแผลต่อสังคมถ้ามีการปล่อยให้มีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง แต่ยังได้รับการตอบรับกับสังคมมีพื้นที่ให้เขา ยังคงยืนหยัดอยู่ในสังคมได้ อันนี้เป็นสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง ในขณะที่คนไทยคนหนึ่งเช่นกันที่ไม่ยอมรับกับพฤติกรรมแบบนี้ ขอใช้เวลาเพื่อชี้แจงจุดยืน มุ่งมั่นยืนหยัดบนความถูกต้อง มุ่งมั่นและเคารพในกระบวนการกฏหมายของไทยที่เชื่อว่ายังมีความศักดิ์สิทธิ์และจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และยืนยันที่จะใช้สิทธิ์ที่จะนำสิ่งดีดีมาสู่สังคมไทยต่อไป” นายธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ