ข่าว

พ่อค้าส้มตำ ถูกยัดยา ร้อง "ดีเอสไอ" รับคดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ่อค้าส้มตำร้อง DSIรับสอบดียัดยา-กรรโชกทรัพย์ หลังถูกบุคคลลึกลับเสนอเงินล้าน ยุ่งเหยิงพยานกับพยานหลักฐาน ลั่นฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายหยุดกิจการร้านส้มตำ 2-3เดือน

 

          กรมสอบสวนคดีพิเศษ-6 พ.ย.61 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำนายศักดิ์ชัย แน่นอุดรพ่อค้าส้มตำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 และพวกร่วมกันกรรโชกทรัพย์และใช้อำนาจโดยมิชอบ เดินทางมายื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ โดยมีพ.ต.ต.วรณัณ ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ

 

          พ่อค้าส้มตำ ถูกยัดยา ร้อง "ดีเอสไอ" รับคดี

          นายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ต้นสังกัดได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นายที่เกี่ยวข้องกับคดีออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่สำนวนคดีได้ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการแล้ว แต่เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคู่กรณีของนายศักดิ์ชัย ยื่นข้อเสนอเป็นเงินหนึ่งล้านบาทเพื่อให้พยานในคดีเซ็นเอกสารบางอย่าง จึงต้องการให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบในประเด็นดังกล่าว โดยได้เตรียมพยานและหลักฐานสำคัญ ที่ยืนยันว่ามีการเสนอเงินหนึ่งล้านบาทให้กับพยานคนดังกล่าวจริง ซึ่งพยานได้ยืนยันหลักฐานในเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อบุคคลที่ยื่นเสนอเงินต่อสาธารณะได้ เนื่องจากจะทราบทันทีว่าเป็นใครและจะเป็นอันตรายต่อครอบครัวของนายศักดิ์ชัย 

          "ที่ผ่านมาแม้จะไม่มีการข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหาย แต่ยังมีคนมายุ่งเหยิง และมีการยื่นข้อเสนอพยานในคดีเพื่อแลกกับเงิน 1 ล้านบาท จึงมายื่นให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะค่อนข้างเป็นเรื่องร้ายแรงต่อความปลอดภัยของผู้เสียหาย รวมทั้งถ้าเป็นไปได้จะขอให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบเรื่องวัตถุพยานสำคัญในคดีที่เคยเรียกร้องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบตั้งแต่ต้น แต่จนถึงขณะนี้ป.ป.ช. ก็ยังไม่ได้ตรวจสอบและยังไม่เคยเรียกตัวนายศักดิ์ชัยไปให้ถ้อยคำ เกรงว่าถ้าทิ้งไว้นายวัตถุพยานชิ้นนั้นจะสูญหายไป" นายรณรงค์กล่าว

          ด้านนายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจสน. พญาไทได้จัดชุดดูแลความปลอดภัยที่บ้านเป็นอย่างดี แต่ตนยังคงมีความกลัวอยู่ โดยเฉพาะหลังจากทราบว่ามีการเข้ามาเสนอเงินหนึ่งล้านบาทให้พยานในคดี จึงอยากให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้ และตนก็เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกรณีที่ขาดรายได้จากการปิดร้านส้มตำช่วงสองถึงสามเดือนหลังเกิดเรื่องเมื่อเดือนส.ค. แต่จำนวนเงินยังไม่ได้คิดว่าจะเรียกร้องเท่าไหร่ ทั้งนี้ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้ทำความผิดตามที่มีการกล่าวหา และไม่เคยมีคดี ไม่เคยมีหมายจับ หรือไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งตนยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ถ้ามีการดำเนินการจริงจังก็จะสามารถตรวจสอบและมีความก้าวหน้าทางคดีแน่นอน

          ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัณ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า เนื่องจากผู้ร้องมีเอกสารประกอบการร้องเรียน จึงต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทางคดีแล้ว และมีการแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ของรัฐ พร้อมทั้งส่งเรื่องให้กับป.ป.ช.พิจารณาตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษจะพิจารณา 2 ส่วน ส่วนแรกกรณีสำนวนที่ส่งป.ป.ช. แล้วทางกรมสามารถสนับสนุนข้อมูลอะไรได้บ้าง และประเด็นที่ยังไม่ได้ส่งให้ป.ป.ช. กรมฯ มีอำนาจในการดำเนินการอย่างไร โดยจะต้องพิจารณาประกอบพ.ร.บ.คดีพิเศษ ซึ่งมีการแก้ไขสาระสำคัญเปลี่ยนแปลงไปหลายข้อ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ