ข่าว

"กองทัพเรือ"ชวนคนไทยตามรอย 250 ปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทร."ชวนคนไทยตามรอย 250 ปี กองเรือยกพลขึ้นบก พระเจ้าตากสิน กู้เอกราชจำลองเส้นทางยาตราทัพ จันทบุรี-อยุธยาโชว์"ไฮไลท์"ค่ายโพธิ์สามต้น

 

            16 ตุลาคม 2561 ที่ราชนาวิกสภา กองทัพเรือ พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ "250 ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา"เพื่อเทิดพระเกียรติ

 

            เผยแพร่ให้สาธารณชนทั่วไปได้รับทราบถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในห้วงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้อิสรภาพจากการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 โดยใช้กำลังทางเรือยกพลขึ้นบก ตลอดจนถึงการเสริมสร้างให้คนไทยมีความรักชาติ สามัคคีปรองดอง และเสียสละเพื่อชาติ เทิดทูลสถาบัน

 

            พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ทางรัฐบาลมีนโยบายในการจัดงานฉลองกรุงธนบุรี 250 ปี ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ถึง วันที่ 28 ธันวาคม 2561 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการในการจัดงาน ซึ่งทางคณะกรรมการได้มอบหมายให้กองทัพเรือร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งนี้กองทัพเรือ ได้เล็งเห็นว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่เพียงเป็นการครบรอบการสถาปนากรุงธนบุรีเท่านั้นแต่ยังเป็นการครบรอบ การกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์ทรงใช้ยุทธวิธีในการยกทัพที่อาศัยเส้นทางทางทะเลและแม่น้ำ 

 

            พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวต่อว่า กองทัพเรือจึงได้จัดกิจกรรม ชื่อว่า 250  ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา  เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่พระองค์ทรงกอบกู้ชาติกลับคืนมา โดยใช้จังหวัดจันทบุรีเป็นฐานที่มั่น รวบรวมเรือ ทรัพยากรต่าง ๆ จากจังหวัดหัวเมืองทางทะเลภาคตะวันออก และเคลื่อนทัพเรือพร้อมไพร่พลโดยอาศัยประโยชน์จากเส้นทางทางทะเล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ìสมุททานุภาพî ทรงนำทัพเรือของพระองค์มาตามชายฝั่งทะเล จนมาถึงปากน้ำเจ้าพระยา และล่องจนไปถึงพระนครศรีอยุธยาเอาชนะศัตรูจนกู้ชาติได้สำเร็จ
    

"กองทัพเรือ"ชวนคนไทยตามรอย 250 ปี

 

                อย่างไรก็ตามกิจกรรมในครั้งนี้ทางกองทัพเรือจะได้ร่วมกับทางจังหวัดที่เกี่ยวข้องอีก 10 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่กองเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคยเคลื่อนทัพผ่าน ตั้งแต่จังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดอยุธยา ได้แก่ จันทบุรีและตราด (จัดกิจกรรมร่วมกัน) ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา โดยเริ่มกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม จนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายนศกนี้ ซึ่งจะมีทั้งกิจกรรมทางบกและทางน้ำ

 

              พล.ร.อ.ลือชัย ย้ำว่า กองทัพเรือมีความพร้อมที่จะเป็นแกนหลักในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทิดพระเกียรติของพระองค์ในวีรกรรมทางน้ำ กองทัพเรือจึงได้จัดเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือสำหรับการยกพลขึ้นบก พร้อมกับเรือรบอีกจำนวนหนึ่ง อัญเชิญพระบรมรูปเดินทางตามเส้นทางของพระองค์ เริ่มตั้งแต่จังหวัดจันทบุรี เดินทางมาตามชายฝั่งทะเล แวะยังจังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่ริมชายฝั่งเพื่อมีกิจกรรมทางบก จนมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ไปสิ้นสุดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
    

               "ผมเชื่อว่าการจัดกิจกรรมในโครงการครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นจิตสำนึกของการรักชาติ  ได้นึกถึงการแตกความสามัคคีที่ผ่านมา ที่ทำให้เราต้องเสียชาติ เสียแผ่นดิน และจะทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคี ไม่แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าเหมือนเช่นที่ผ่านมา จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ" พล.ร.อ.ลือชัย กล่าว          

 

               พล.ร.อ. นพดล สุภากร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และประธานกรรมการจัดโครงการฯ กล่าวถึง    กล่าวถึง เส้นทางการจัดงาน และรูปแบบการจัดขบวนทางบกและทางน้ำ ว่ากิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 โดยเป็นการจำลองการยาตราทัพทางเรือ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งจะจัดเป็นกองเรือ ยาตราเรือในทะเลและแม่น้ำตามเส้นทางเดินทัพจริง จากจันทบุรีสู่พระนครศรีอยุธยา โดยแวะพักจัดกิจกรรมบนบกตามจุดต่างๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เชื่อมโยงกับการเดินทัพของพระองค์  อย่างไรก็ตามมีจังหวัดตราด ซึ่งกองเรือไม่ได้ผ่าน แต่เป็นเมืองที่พระองค์ท่าน ได้ยกทัพไปรวบรวมกำลังพล เรือ และอาวุธ มาเตรียมกำลังหลังจากเข้าตีเมืองจันทบุรีแล้ว จึงมาร่วมจัดกิจกรรมกับทางจังหวัดจันทบุรีด้วย 

 

"กองทัพเรือ"ชวนคนไทยตามรอย 250 ปี

 

            พล.ร.อ. นพดล กล่าวต่อว่า  ไฮไลท์สำคัญ จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวันที่พระองค์ยกทัพเข้าตีค่ายโพธิ์สามต้นจนได้รับชัยชนะ โดยเป็นการจำลองทัพทางบกจากวัดบางเดื่อไปยังค่ายโพธิ์สามต้น รวมทั้งการแสดงแสงสีเสียงสื่อผสม และในวันที่ 10 -11 พฤศจิกายน ที่พระราชวังกรุงธนบุรี หรือพระราชวังเดิมกองทัพเรือในปัจจุบัน ซึ่งจะจัดแสดง แสงสีเสียงสื่อผสม สุดยิ่งใหญ่ เพื่อเล่าเรื่องราว วีรกรรมของพระองค์ท่าน ตั้งแต่ตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยา จนยกทัพทางเรือกลับมาตีค่ายโพธิ์สามต้น และสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี
    

            พล.ร.อ. นพดล เปิดอผยต่อว่า สำหรับกองเรือที่จำลองในครั้งนี้ ในช่วงจันทบุรีถึงสมุทรปราการ ซึ่งเป็นการเดินทางตามชายฝั่งทะเล จะใช้เรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือ เป็นเรืออัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาดเท่าพระองค์จริง เมื่อถึงจุดแวะพัก จะอัญเชิญขึ้นไปร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติที่ทางแต่ละจังหวัดจัดขึ้น ซึ่งจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ตามวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปของแต่ละท้องถิ่น  ส่วนการจำลองกองเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สมุทรปราการจนถึงพระนครศรีอยุธยา เรามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเรือขนาดเล็กแทน รวมทั้งมีเรือพายแต่งเป็นกองเรือรบโบราณ เข้าร่วมขบวนเรือด้วย 

 

             สำหรับรายละเอียดการจัดกิจกรรมในวันที่ 24 และ 25 ตุลาคม กองเรือจอดปากน้ำจันทบุรี มีพิธีเปิดโครงการฯ  ณ บ้านเสม็ดงาม จว.จันทบุรี และจัดกิจกรรม ณ วัดพลับ  ในวันที่ 26 ตุลาคม จอดที่ปากน้ำ จว.ระยอง จัดกิจกรรม ณ วัดลุ่มพระอารามหลวง ส่วนวันที่ 28-29 ตุลาคม จอดที่แสมสาร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี จัดกิจกรรม ณ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ หน่วยซีล วันที่    29 ตุลาคม จอดอ่าวพัทยา จว.ชลบุรี  จัดกิจกรรม ณ ศาลาว่าการ เมืองพัทยา และวันที่ 30 ตุลาคม จอดหน้าหาดบางแสน จว.ชลบุรี จัดกิจกรรม ณ วัดใหญ่อินทาราม  วันที่ 31 ตุลาคม จอดที่ปากแม่น้ำบางปะกง จว.ฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรม ณ วัดหงส์ทอง 

     

              ขณะที่วันที่ 1-3 พฤศจิกายน จอดและจัดกิจกรรมบริเวณโรงเรียนนายเรือ จว.สมุทรปราการ  วันที่ 4  พฤศจิกายน จอด ณ วัดกู้ จว.นนทบุรี  และจัดกิจกรรม ที่วัดกู้ และวัดเสาธงหิน วันที่5 พฤศจิกายน จอดและจัดกิจกรรมบริเวณท่าเรือโรงเรียนวัดป่างิ้ว จว.ปทุมธานี ส่วนวันที่ 6-7 พฤศจิกายน จอดที่ วัดบางเดื่อ จว.พระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรม ณ วัดบางเดื่อ และค่ายโพธิ์สามต้น และวันที่10-11 พฤศจิกายน จอดบริเวณพระราชวังกรุงธนบุรี จัดกิจกรรมใหญ่ ณ พระราชวังกรุงธนบุรี และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ