ข่าว

"กฤษฏา"ยันผลตรวจเคมีตกค้างผัก-ผลไม้ร้อยละ 79 ปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กฤษฏา"ออกโรงยันผลการตรวจสารเคมีตกค้างในผักและผลไม้พบร้อยละ 79 ปลอดภัย กษ.-สธ.ใช้เกณฑ์ตรวจวัดตามมาตรฐานสากลเก็บวิเคราะห์มากกว่า 7 พันตัวอย่าง

 

             1 ตุลาคม  2561  นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าผลการศึกษาวิเคราะห์สารเคมีตกค้างในผักและผลไม้ที่ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข  

 

             โดยผลปรากฎว่า พบว่ามีสารตกค้างเกินมาตรฐานร้อยละ 11 จากนั้นได้มีผู้แสดงความเห็นผ่านเสื่อโซเชียลมีเดียถึงผลตรวจวิเคราะห์ว่า ไม่น่าเชื่อถือนั้น จึงได้ชี้แจงย้ำว่า โครงการตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างในผักและผลไม้นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงส​าธารณสุขร่วมมือกันดำเนินการตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งในปี 2561 นี้ ได้มีการวางแผนการทำงานร่วมกันของ 4 หน่วยงาน คือ กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

             โดยเก็บตัวอย่างผักและผลไม้สดจากทั่วประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่แปลงเกษตรกร โรงคัดบรรจุผักผลไม้สด ห้างค้าปลีก ตลาดค้าส่งค้าปลีก และครัวของโรงพยาบาลรัฐ โดยเก็บตัวอย่างวิเคราะห์มากกว่า 7,000 ตัวอย่าง ซึ่งถือเป็นข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่มีการศึกษามาในประเทศ อีกทั้งการเก็บตัวอย่างและการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการมีดำเนินการตามหลักการสากล ซึ่งการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สามารถประเมินสถานการณ์ของสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ในประเทศ

 

"กฤษฏา"ยันผลตรวจเคมีตกค้างผัก-ผลไม้ร้อยละ 79 ปลอดภัย

 

             เพื่อวางมาตรการการควบคุมและกำกับดูแล เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคได้ดีขึ้น โดยค่าที่ตรวจพบจะนำไปเปรียบเทียบกับค่าความปลอดภัยที่กำหนดโดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ซึ่งหากตัวอย่างผักและผลไม้ใดที่พบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานแสดงว่า มาจากการเพาะปลูกที่ใช้สารเคมีไม่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นข้อมูลให้นำไปแนะนำเกษตรกรและควบคุม​การใช้สารเคมี​อย่างเคร่งครัด​ตามกฎหมาย​ต่อไป  


             นายกฤษฎา กล่าวว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ผักและผลไม้รวม 7,054 ตัวอย่าง พบว่า 6,264 ตัวอย่างหรือร้อยละ 79 อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ส่วนที่พบสารพิษตกค้างในระดับเกินมาตรฐานมี 790 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 11 และจาก 790 ตัวอย่าง มี 10 ตัวอย่าง ที่พบสารเคมีในระดับสูงเกินระดับที่ปลอดภัย หรือคิดเป็นร้อยละ 0.14 ของจำนวนตัวอย่างที่ตรวจวิเคราะห์ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่พบในส้ม ซึ่งการตรวจสอบส้มเป็นการตรวจวิเคราะห์ส้มทั้งเปลือก

 

"กฤษฏา"ยันผลตรวจเคมีตกค้างผัก-ผลไม้ร้อยละ 79 ปลอดภัย

 

             โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีข้อมูลผลการศึกษาที่ชัดเจนว่า สารเคมีที่พบในส้มทั้งที่เป็นชนิดที่ตกค้างที่เปลือกหรือชนิดดูดซึม เมื่อนำส้มไปล้างทั้งผลและปอกเปลือกออกแล้ว สารพิษตกค้างลดลงมากกว่า ร้อยละ 40 - 80 และอยูในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้น เมื่อผู้บริโภคปอกเปลือกและบริโภคเนื้อส้มหรือการคั้นน้ำส้ม โดยล้างเปลือกภายนอกก่อน จะสามารถลดสารพิษตกค้างให้เหลือน้อยลง จนอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่ WHO กำหนด       

 

             นายกฤษฎา กล่าวย้ำว่า จากผลการวิเคราะห์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับไปถึงแหล่งผลิตระดับแปลงเกษตรกรหรือโรงคัดบรรจุเพื่อตักเตือนให้คำแนะนำให้ใช้สารเคมีให้ถูกต้อง รวมทั้งสั่งให้มีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งหากแก้ไขไม่ได้ จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดทั้งถอนใบรับรองที่เกษตรกรได้รับหรือใบอนุญาตของโรงคัดบรรจุ รวมทั้งการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เพื่อลดสัดส่วนผักและผลไม้ที่ไม่ได้มาตรฐานลงให้เหลือน้อยที่สุด

    

"กฤษฏา"ยันผลตรวจเคมีตกค้างผัก-ผลไม้ร้อยละ 79 ปลอดภัย

 

             นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่จะกำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภค ตั้งแต่การอนุญาตให้ใช้สารเคมี โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์สากล ซึ่งสารเคมีที่อนุญาตจะต้องประเมินมาแล้วว่าไม่เป็นสารก่อมะเร็ง หรือมีอันตรายร้ายแรง มีการควบคุมให้เกษตรกรใช้สารเคมีตามความจำเป็นและถูกต้องตามหลัก GAP ทั้งยังควบคุมและตรวจสอบโรงคัดบรรจุผักและผลไม้ รวมถึงการตรวจเฝ้าระวังผักและผลไม้ในแหล่งจำหน่าย มีการศึกษาวิจัยและส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์และสารธรรมชาติเพื่อลดการใช้สารเคมี

 

             ล่าสุดได้ดำเนินโครงการนำร่องคือ โครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัยใช้ผักและผลไม้ที่ปลอดภัยจากสารพิษมาปรุงอาหารให้ผู้ป่วยรับประทาน ซึ่งทั้ง 2 กระทรวงจะดำเนินการมาตรการควบคุมการใช้สารเคมีในผักผลไม้ รวมถึงผลผลิตทางเกษตรทั้งหมดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัยมากที่สุด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ