"กฤษฏา"สั่งกรมชลฯปรับแผนระบายน้ำ ขณะนี้มีเขื่อนที่มีน้ำน้อยกว่า 30% ถึง 34 แห่ง เร่งประสานฝนหลวง ขึ้นทำฝนเติมน้ำ
25 กันยายน 2561 "กฤษฏา บุญราช"สั่งกรมชลประทานปรับแผนระบายน้ำ รับมือภัยแล้งพื้นที่เสี่ยงภาคเหนือ-ภาคอีสาน เผยเขื่อน 427 แห่งเตรียมเก็บกักน้ำไว้ใช้ตลอดฤดูแล้ง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า นายกฤษฎา บุญราช รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมชลประทานปรับแผนการระบายน้ำเพื่อเตรียมเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้มีการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายทำฝนให้ตกลงสู่อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 60 % ของความจุอ่าง
กรมชลประทานและกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ทำงานร่วมกันมาตลอด ภายใต้โครงการความร่วมมือปฏิบัติการเพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้กับพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำ และยังเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้อุปโภค-บริโภค พร้อมวางแผนปรับเปลี่ยนการปลูกพืชฤดูแล้งนี้ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบสถานการณ์น้ำ
ส่วนเขื่อนขนาดใหญ่ที่ยังมีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ สามารถระบายน้ำขั้นต่ำสุดได้ตามความเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบและใช้พื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งลุ่มเจ้าพระยาให้เริ่มทยอยรับน้ำเข้าทุ่ง เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่อาจตกชุกในบางพื้นที่ โดยพิจารณาตามเกณฑ์ที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่มีอยู่และปริมาณน้ำที่เกิดจากฝน
นายทองเปลว กล่าวว่า ตนสั่งให้ตรวจสอบสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางของกรมชลประทาน 427 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 25 แห่งและขนาดกลาง 412 แห่ง พบว่ามีอ่างเก็บน้ำที่ปริมาณน้ำน้อยกว่า 60% จำนวน 138 แห่ง แบ่งเป็น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 10 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 128 แห่ง
แต่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ซึ่งมี 34 แห่ง แบ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่มอก จ.ลำปาง27% และอ่างเก็บน้ำทับเสลา จ.สุพรรณบุรี มีน้ำ 26% ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 32 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 21 แห่ง ภาคตะวันออก 3 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง และภาคใต้ 4 แห่ง
“ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งจะสิ้นสุดประมาณเดือนตุลาคม การส่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและทำการเกษตรยังคงดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำที่วางไว้ แต่หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศสิ้นสุดฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วจะทบทวนปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอีกครั้งเพื่อพิจารณาแผนการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมสำหรับหน้าแล้ง รวมถึงที่ต้องสำรองไว้จนถึงต้นฤดูกาลเพาะปลูกหน้าต่อไป”นายทองเปลว กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง