ข่าว

คุก "9 วัยรุ่น" วางแผนระเบิดกทม.-ปริมณฑล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลจำคุก 4-6 ปี ขบวนการแบ่งแยกดินแดนรัฐปัตตานี-หวังก่อการกทม.ผิดอั้งยี่-ซ่องโจร-ใช้ระเบิด ส่วน 5 รายหลักฐานไม่ถึงให้ยกฟ้อง


          25 ก.ย.61-ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.651/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายตาลมีซี หรือซี โตะตาหยง ที่ 1 , นายอับดุลบาซิร หรือบาซิร ลือกะจิก ที่ 2 , นายมูบารีห์ หรือบาริ กะนา ที่ 3 , นายอุสมาน หรือมาย กาเด็งหะยี ที่ 4 , นายมีซี หรือยี เจ๊ะหา ที่ 5 , นายปฐมพร หรือดาวุด มิหิแอ ที่ 6 , นายอัมรัม หรือยัง มะยี ที่ 7 , นายวิรัติ หรือกามาน หะมิ ที่ 8 , นายนิเฮง หรือเฮง ยีนิง ที่ 9 , นายอัมรีย์ หะ ที่ 10 , นายนรมัน อาบู ที่ 11 , นายมุฟตาอิน สาและ ที่ 12 , นายด่วนฮาฟิต ดือมุงกาป๊ะ ที่ 13 , นายมูฮัมหมัด ซาการียา ตามุง จำเลยที่ 14 ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นอั้งยี่ และซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 , 210 พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4 , 55 , 78
         

 

          โดยอัยการบรรยายฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าช่วงวัน-เวลาใดไม่ปรากฏชัด ประมาณกลางปี 2553 - 10 ต.ค.59 พวกจำเลย ได้ร่วมกันกระทำกรบักษณะเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร เข้าร่วมเป็นสมาชิก ขบวนการกู้ชาติรัฐปัตตานี เพื่อแบ่งแยกดินแดน โดยปกปิดวิธีดำเนินการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบเพื่อแบ่งแยกดินแดน จังหวัดชายแดนใต้ในยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส และบางอำเภอของ จ.สงขลา เพื่อตั้งเป็นประเทศหรือรัฐใหม่อำนาจอธิปไตยของตนเองโดยใช้ชื่อ "รัฐปัตตานี หรือปัตตานีดารุสสลาม" โดยประชุม วางแผน ขยายพื้นที่ในการก่อการร้ายเข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล และสมคบเป็นซ่องโจร เพื่อจะกระทำการแบ่งแยกราชอาณาจักร ก่อการร้ายในกรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน แล้วยังร่วมกันประกอบวัตถุระเบิดฆ่าพนักงานเจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไปให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอันตรายแก่กาย และถึงแก่ความตาย รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย
เหตุเกิดที่ตำบลใดไม่ปรากฏชัด อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส , ตำบลและอำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ , แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เกี่ยวพันกัน
          ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยระหว่างการพิจารณา จำเลยทั้ง 14 คนก็ไม่ได้ประกันตัว ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมอยู่ในเรอนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันนี้ศาลก็ได้เบิกตัวทั้ง 14 คนมาจากเรือนจำเพื่อฟังคำพิพากษาโดยมีญาติชาวมุสลิม และกลุ่มเพื่อนมาให้กำลังใจพวกจำเลย เต็มห้องพิจารณาคดี 
          โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นเหตุการณ์เพราะการทำงานกลุ่มขบวนการลักษณะนี้มักจะปกปิดข้อมูลการติดต่อระหว่างกัน แต่จากการตรวจสอบผลสารประกอบวัตถุระเบิดที่พบในมือของจำเลยที่ 3 ประกอบกับคำเบิกความของ พ.ต.อ.กำธร อุ๋ยเจริญ  ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุ ยืนยันสารประกอบวัตถระเบิดดังกล่าวไม่สามารถพบได้โดยทั่ว และการเดินผ่านก็ไม่ทำให้สารดังกล่าวติดตัว ผู้ที่มีสารประกอบระเบิดจะต้องเกี่ยวพันกับวัตถระเบิดจึงจะตรวจพบได้เท่านั้น จึงเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3 ครอบครองสารประกอบวัตถุระเบิดจริง อีกทั้งหลังถูกจับกุม จำเลยที่ 1,2,3,4,9,10,11,12,13 ก็ได้นำชี้ที่สถานที่พักใน ซ.รามคำแหงซอย 49 และซ. 53/1 กับห้องพักที่ได้ไปเช่าใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 
          ซึ่งแม้ จำเลยจะต่อสู้ว่า ในชั้นสอบสวนถูกพนักงานสอบสวนข่มขู่บังคับ แต่ไม่ปรากฎร่องรอยการถูกทำร้าย และไม่มีการร้องเรียนกล่าวโทษพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด จึงเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้
          ศาลจึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1,2,3,4,9,10,11,12,13 รวม 9 คน เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นความผิดไป ฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ให้จำคุกคนละ 3 ปี , ฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร จำคุกคนละ 3 ปี 
รวมจำคุกจำเลยทั้ง 9 คนเป็นเวลา 6 ปี
           โดยส่วนของ "นายมูบารีห์ หรือบาริ กะนา" จำเลยที่ 3 ยังมีความผิดฐาน ทำ ประกอบ ซ่อมแซม มี ใช้ ซึ่งระเบิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดฯ พ.ศ.2490 ด้วย ให้จำคุกอีก 3 ปี เฉพาะจำเลยที่ 3 รวมโทษแล้วจำคุก 9 ปี 
           แต่ขณะที่ทางนำสืบ คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษให้จำเลยทั้ง 9 คนๆละ 1 ใน 3 รวมจำคุกจำเลยที่ 1,2,4,9,10,11,12,13 คนละ 4 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 จำคุก 6 ปี 
          และพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 5,6,7,8,14 รวม 5 คน เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลนทั้ง 5 คนร่วมกระทำผิดด้วย
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้วจำเลยต่างมีสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่จำเลย 5 คนซึ่งพยานหลักฐานไม่เพียงพอและศาลยกฟ้องนั้น ก็จะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ