ข่าว

สธ. หนุนแนวคิดใช้ ม.44 ปลดล็อกกัญชาให้ถูกกฏหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าอาจมีการเสนอให้ออกคำสั่ง ม.44 นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์

นพ.โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ที่แต่งตั้งโดยรมว.สาธารณสุข มีกรรมการ 22 คน กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าอาจมีการเสนอให้ออกคำสั่ง ม.44 นำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ ว่า หากเป็นไปได้ ในฐานะคนทำงานด้านนี้ก็ยินดีสนับสนุนให้ใช้ ม.44 เพื่อปลดล็อก เพราะทันทีออกคำสั่ง จะสามารถสกัดน้ำมันกัญชาได้ และเมื่อได้สารสกัดน้ำมันกัญชาแล้ว จากนั้นในทางการแพทย์จะนำไปแปรรูปเพื่อการรักษาบำบัดผู้ป่วยได้หลากหลาย ทั้งในรูปของครีมทาผิว ยาเหน็บ น้ำมันหยด เป็นต้น

 

สำหรับข้อเสนอให้มีการออกคำสั่ง ม.44 เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเรื่องนี้ขับเคลื่อนช้ามาก ทั้งๆ ที่มีงานวิจัย ผลการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ทางการแพทย์ของกัญชา ทั้งโรคลมชัก กล้ามเนื้อเนื้อแข็ง ผู้ป่วยมะเร็ง ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการได้รับยาเคมีบำบัด และเพิ่มเรื่องใช้ในผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง

ก่อนหน้านี้ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันแบะปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.). กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้มีการอนุญาตให้ใช้กัญชา เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ รวมถึงเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งในต่างประเทศสนใจพัฒนาเครื่องดื่มกัญชาเพื่อสุขภาพ ว่า ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมข้อมูล ศึกษา วิเคราะห์ ผลดี ผลเสีย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อควบคุมการนำกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และอาจก่อเป็นกระแสการเข้าใจผิดของสังคมได้ ที่ผ่านมาศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาวิเคราะห์มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับพืชเสพติด โดยเห็นว่า ควรกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ต่อไป โดยไม่อนุญาตให้มีการใช้ในเชิงสันทนาการ แต่เปิดช่องให้สามารถขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

เลขาธิการป.ป.ส. ระบุด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวง เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 พ.ศ. 2559 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือวันที่ 6 ม.ค. 2560 กำหนดให้ผู้ที่มีความประสงค์ปลูก จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีกัญชาไว้ในครอบครอง เพื่อการศึกษาวิจัย หรือเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ ต้องยื่นคำขอพร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็น จำนวนหรือปริมาณ และหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาอนุญาต


นอกจากนี้ ป.ป.ส. ยังได้เสนอร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 (กัญชา) เพื่อการศึกษาวิจัย หรือเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ หรืออุตสาหกรรมได้ อีกทั้งยังมีอำนาจประกาศกำหนดชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (กัญชา) ซึ่งอนุญาตให้เสพเพื่อการรักษาโรค หรือเสพเพื่อการศึกษาวิจัยได้โดยไม่เป็นความผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ