"ตรวจสอบแปลงมืออาชีพ"สกัดพวกแตกแถว !

 

          8 กันยายน 2561  นางอณุภา ปัญญาดิล ประธานชมรมผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดชัยนาท  เปิดเผยว่า ทางชมรมได้ยื่นเรื่องไปยังกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  

 

 

          ทั้งนี้เพื่อขอใบรับรองมาตรฐานการเป็นผู้ตรวจแปลงมืออาชีพ ทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงต่าง  ๆ  ในกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยีที่สำคัญ ทำให้เราต้องปรับตัวให้ทันและรองรับกับการก้าวไกลของสิ่งเหล่านั้น  

 

          ชมรมผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดชัยนาทมีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ตรวจแปลงมืออาชีพที่ได้มาตรฐาน ตามที่กรมการข้าวได้วางหลักเกณฑ์ไว้ตลอดระยะเวลาที่ตั้งชมรมมา 5 ปี แต่ในอนาคตต้องการความเป็นมืออาชีพและมีมาตรฐานที่มากขึ้นหรือเกินมาตรฐานกว่าที่กรมการข้าวกำหนดเนื่องจากในจังหวัดชัยนาทมีการแข่งขันการผลิตเมล็ดพันธุข้าวหรือปลูกข้าวที่สูงมาก

 

 

          "เราต้องการให้มาตรฐานการตรวจแปลงเป็นแบบมืออาชีพด้วยการสนับสนุนและนำมาตรฐานของกรมการข้าวมากำหนดและดำเนินการ เพราะจังหวัดชัยนาทมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เราต้องการทำให้เกินมาตรฐาน เพื่อดำเนินการตามกฏหมายและรองรับอนาคต แม้ว่าการเป็นผู้ตรวจแปลงมืออาชีพ เราทำมา 5 ปี แต่ต้องการอัพเดทข้อมูลเหมือนโทรศัพท์ที่ต้องมีเวอร์ชั่นใหม่ตลอด การปลูกข้าวก็เช่นกันเพราะในขณะนี้หรืออนาคตมีพันธุ์ข้าวใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นการอัพเดทมาตรฐานการผลิตข้าวหรือการตรวจแปลงก็ต้องมีเช่นกัน"นางอณุภา กล่าวย้ำ

 

          ก่อนหน้านี้ได้เข้าอบรมร่วมกับกรมการข้าว ผู้ประกอบการ ในฐานะที่ตนเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่และได้นำเสนอแผนดำเนินการของตนเองหรือเรียกว่า my map และเสนอกรมการข้าวเกี่ยวกับการวางแผนการเพาะปลูก  การผลิต และจำหน่ายเมล็ดพันธุ์และเป็นที่มาของการตั้งชมรมผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดชัยนาท เมื่อปี 2549 ผ่านการรับรองการตั้งชมรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดมีสมาชิกในขณะนั้น 20ราย ปัจจุบันมี 80 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการทั้งหมดและได้ร่วมหารือถึงมาตรฐานการตรวจแปลง

 

 

          "ประธานชมรมผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดชัยนาท" กล่าวย้ำว่า การเป็นผู้ตรวจแปลงมืออาชีพนั้นจะส่งผลต่อการทำแปลงข้าวที่ได้มาตรฐาน ที่เราสามารถควบคุมได้ทั้งผู้ผลิต  ผู้ประกอบการ   คุณภาพเมล็ดพันธุ์  เพราะต้องเริ่มจากเราที่ต้องมีมาตรฐานก่อนจากนั้นจึงจะสามารถดูแลตรวจสอบในส่วนอื่น  ๆ ว่าถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่เนื่องจากต้องดูทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมล็ดพันธุ์ข้าวถูกต้องตามสายพันธุ์หรือไม่ รวมถึงสิ่งเจือปนต่าง  ๆ   อีกทั้งการเป็นผู้ตรวจแปลงมืออาชีพจะเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่เราต้องการให้เกินมาตรฐาน 

 

          เนื่องจากปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการหรือร้านค้าเมล็ดพันธุ์บางรายที่แตกแถวนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่ได้มาตรฐานหรือกลายพันธุ์ไปจำหน่าย เพราะเมล็ดพันธุ์ข้าวแต่ละชนิดไม่เหมือนกันทั้งราคา ระยะเวลาในการจัดเก็บ ตลอดจนการจำหน่ายหรือการนำไปใช้เช่นพันธุ์หลัก  พันธุ์ขยาย พันธุ์คัด  พันธุ์จำหน่าย จุดประสงค์ของการนำไปใช้จะแตกต่างกัน หรืออาจจำหน่ายในราคาถูกแต่ไม่ได้มาตรฐานทำให้มีปัญหากระทบถึงเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ในวงกว้าง เราไม่อยากปล่อยปละละเลย หรือทำให้มีปัญหาข้าวปลอมปนเช่นข้าววัชพืช  ซึ่งข้าววัชพืชจะอยู่ในนาข้าวได้นานถึง 15 ปี อีกทั้งการเป็นผู้ตรวจแปลงอาชีพถือเป็นการสนับสนุนการทำนาลดต้นทุนด้วย

 

 

          นายประสงค์ ทองพันธุ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานข้าวและผลิตภัณฑ์ กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การให้เอกชนทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนรับรองมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยตรงโดยยึดมาตรฐานของกรมการข้าว ถือเป็นความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง  เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมากหากต้องตั้งศูนย์การตรวจสอบขึ้นมา แต่ถือว่าเอกชนก็สามารถทำได้เทียบเท่ากับภาครัฐแสดงให้เห็นว่าเอกชนมีศักยภาพสูงมาก ภาครัฐก็สนับสนุนดำเนินการกำหนดกรอบการทำงาน 

 

          "ขณะนี้มีความต้องการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว 1.3 ล้านตันต่อปีแต่เมล็ดพันธุ์ข้าวอยู่ในระบบมาตรฐานเพียง 4 แสน หากภาคเอกชนมีความเข้มแข็งก็จะช่วยภาครัฐได้โดยภาครัฐให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้  เทคโนโลยี  กฏเกณฑ์ต่าง  ๆ เพราะมีผู้ผลิตมากกว่า 200 กว่าแห่งแต่เราสามารถรับรองระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ดี (GAP SEED) เพียง 50 แห่งเท่านั้น ภาคเอกชนสามารถร่วมตรวจสอบแปลงได้ หากมีใบรับรองเอง การตรวจสอบแปลงแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่าย 1,500  บาทต่อแปลง อีกทั้งเป็นการรองรับอนาคต และต้องอาศัยภาคเอกชน รวมทั้งเป็นการยกระดับการเป็นผู้ตรวจสอบด้วย"