อายัดเพิ่ม108 ล้านแก๊งอดีตบิ๊กพม.โกงเงินคนจน

          16 สิงหาคม 2561 ปปง.ประกาศคำสั่งอายัดทรัพย์อดีตปลัด พม.-สาวคนสนิท และพวกเพิ่ม 43 รายการ มูลค่ากว่า 108 ล้านบาท พบสาวคนสนิทนำเงินซื้อรถยนต์หรู 5 คัน คอนโด 5 ห้อง

           สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ 96/2561 ลงวันที่ 28 มิ.ย.2561 เรื่องอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว กรณีทุจริตยักยอก ฉ้อโกง งบประมาณอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งของกรมพัฒนาและสวัสดิการที่มีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ,นายณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และ ขณะดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ พม. และนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการ พม. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองอธิบดี กรมพัฒนาสังคมฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งสิ้น 41 รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่า 88,542,058.74 บาท มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน 

           สำหรับทรัพย์สินที่ถูกอายัด ประกอบด้วย บัญชีเงินฝากธนาคาร นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ 1,322,179.69 บาท และบัญชีเงินฝากธนาคารในชื่อบุคคลอื่นอีก 8 บัญชี รวมทั้งสิ้น 1,112,809.52 บาท, กองทุนเปิด 4 รายการ รวม 693,529.88 บาท, ที่ดินในจ.พิษณุโลก, ปทุมธานี สงขลา และภูเก็ต รวม 6 รายการ, ห้องชุด ในชื่อน.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ 5 รายการ มูลค่ากว่า 23.5 ล้านบาท, ห้องชุดในชื่อบุคคลอื่น 1 รายการ มูลค่า 370,000 บาท, รถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ ในชื่อนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ มูลค่า 4,190,000 บาท, รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์และพอร์ช รวม 5 คัน ในชื่อของน.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท และรถยนต์อีก 11 คันในชื่อบุคคลอื่น รวมทั้งสิ้น 36,858,000 บาท       

           นอกจากนี้ คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ 95/2561 ลงวันที่ 22 มิ.ย. 2561 อายัดทรัพย์สินราย น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ ได้แก่ บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี รัชดาภิเษก 2 บัญชี ยอดเงิน 20,142,330.12 บาท โดยบัญชีแรก มูลค่า 12,042,330.12 บาท และบัญชีที่สอง จำนวน 8,100,000 บาท รวมตัวเลขการอายัดทรัพย์สินบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ครั้ง 43 รายการ รวม 108,684,388.86 บาท

           สำหรับการยึดและอายัดทรัพย์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ขอให้ตรวจสอบรายการความเชื่อมโยงการทำธุรกรรมของบุคคลกลุ่มดังกล่าว หลังการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้อำนวยการศูนย์ฯ และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติหลายรายมีพฤติการณ์กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ประกอบกับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ

           สรุปข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า นายพุฒิพัฒน์ และกลุ่มบุคคลดังกล่าวอีก 2 ราย มีพฤติการณ์การกำหนดนโยบายการเรียกรับเงินร้อยละ 20-50 คืนจากการโอนเงินจัดสรรงบประมาณประเภทเงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ปีงบประมาณ 2559 และปีงบประมาณ 2560 คณะกรรมการธุรกรรมปปง.จึงมีมติยึดและอายัดทรัพย์ดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกยึดและอายัดทรัพย์ตามคำสั่งนี้ หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าวต้องการขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัด ให้ยื่นคำขอ พร้อมหลักฐานที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด ภายใน 30 วัน ต่อเลขาธิการฯ ปปง.