กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบุรีรัมย์ 222 ราย ชนะคดีเอกชนหลอกแจกปุ๋ยฟรี สุดท้ายฟ้องเก็บค่าปุ๋ย 42ล้าน ดีเอสไอเข้าช่วยเหลือจนศาลพิพากษายกฟ้อง เล็งขยายผลจนท.รัฐเอื้อนายทุน
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 61. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ ที่เข้าร้องขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยเหลือต่อสู้คดีกับบริษัทปุ๋ยที่หลอกลวง อ้างว่านำปุ๋ยมาแจกฟรี แต่สุดท้ายกลับเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาทว่า ตนได้สั่งการให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดีเอสไอเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและเข้าช่วยเหลือด้านกฎหมาย จนเป็นผลให้การต่อสู่คดีในชั้นศาลจังหวัดนางรองพิพากษายกฟ้อง กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรรัฐวิสาหกิจชุมชนกว่า 88 กลุ่ม
โดยคดีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากกลุ่มแม่บ้านในอำเภอหนองหงส์, โนนสุวรรณ, นางรอง, หนองกี่ และประคำ จ.บุรีรัมย์ จำนวน 222 คน ถูกบริษัทปุ๋ยเอกชนที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพฟ้องเรียกค่าเสียหาย 42,821,410 บาท ซึ่งดีเอสไอตรวจสอบพบว่าเกษตรกรเข้าใจมาโดยตลอดว่าเป็นโครงการแจกปุ๋ยอินทรีย์ให้กลุ่มแม่บ้านในลักษณะให้เปล่า จึงเซ็นรับปุ๋ยและนำไปใช้ จำนวนกว่า 100,000 กระสอบ ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านไม่เคยมีความสัมพันธ์หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทปุ๋ยมาก่อน จึงน่าเชื่อว่าเซ็นรับปุ๋ยไว้ใช้ในแปลงเกษตร เพราะเชื่อโดยสุจริตใจว่าเป็นปุ๋ยแจกฟรีในโครงการของรัฐ
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้อง ดีเอสไอจะเข้าไปในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อจัดอบรมให้ตัวแทนกลุ่มแม่บ้านและเกษตรกรรู้เท่าทันในประเด็นข้อกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงซ้ำอีก เนื่องจากที่ผ่านมาพบเกษตรกรใน จ.บุรีรัมย์ ถูกหลอกหลายกลุ่ม มีคดีถูกบริษัทปุ๋ยฟ้องเรียกเก็บค่าปุ๋ยเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโครงการแจกปุ๋ยฟรี ทั้งนี้ หลังให้ความช่วยเหลือกับชาวบ้านไม่ให้ต้องชำระหนี้แล้ว ดีเอสไอจะนำไปขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปสนับสนุนหรือเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทปุ๋ยเอกชนหรือไม่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง