รวบ 261 แก๊งคนดำเกาะสมุย จ้างหญิงไทยขนยาไปญี่ปุ่น

          สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)-8 ส.ค.61-ป.ป.ส.เผยสถิติ จับเครือข่ายค้าเสพติดข้ามชาติ รวบ 261 ผู้ต้องหาแก๊งคนดำ พบพฤติการณ์แต่งงานกับหญิงไทยบังหน้า แจกทัวร์ไปเที่ยวญี่ปุ่นซุกยาเสพติดในกระเป๋าสัมภาระ ชี้ ต้นทางมาจากอเมริกาใต้ ผ่านโคลัมเบีย-เปรู-อาร์เจนตินา-บราซิลเข้าตะวันออกกลาง หลังเข้มงวดหนักเลี้ยวไปประเทศเพื่อนบ้านก่อนวกกลับเข้าไทย  

 

           

            นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อม พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผู้กำกับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุบิน ผอ.กอง 2 ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทยและหน่วยงานเกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) จับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติชาวแอฟริกันตะวันตก รวม 221 คดี ผู้ต้องหา 261 คน ของกลางโคเคน 417 กิโลกรัม ไอซ์ 198 กิโลกรัม

 

           

            นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากช่วงเมื่อปลายปี 60 ทางการญี่ปุ่นได้จับกุมยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก จึงประสานความร่วมมือขอให้ทางการไทยช่วยสืบสวนเครือข่ายแอฟริกันตะวันตกที่เป็นผู้สั่งการให้หญิงไทยลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่น จนนำไปสู่การจับกุมหญิงไทยรายดังกล่าว และขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวแอฟริกันตะวันตกที่เป็นผู้สั่งการรายใหญ่ได้สำเร็จ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจและป.ป.ส.ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมMr.Collins Elochukwu ORAKWUE สัญชาติไนจีเรียน ผู้สั่งการรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และพยายามส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 35/12 ม.5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาขยายผลจับกุม Mr.Chinedu Victor OKEKE สัญชาติไนจีเรียน บุคคลในเครือข่ายแอฟริกันตะวันตกที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพงัน พร้อมของกลางโคเคน น้ำหนักประมาณ 284 กรัม เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 68/42 ม.5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

            เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวอีกวา สำหรับการประสานข้อมูลจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดผ่านท่าอากาศยานนั้น มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดมาตลอด โดยสถิติการจับกุมภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (AITF) ตั้งแต่ปี 2555 - ปัจจุบันสามารถจับกุมได้จำนวน 221 คดี ผู้ต้องหา 261 คน ของกลางโคเคน 417 กิโลกรัม ไอซ์ 198 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีการประสานข้อมูลการข่าวกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดในต่างประเทศ และจับกุมผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานได้อีกจำนวนมาก จากสถิติการจับกุมผู้ลำเลียงยาเสพติดสัญชาติไทยที่ท่าอากาศยานประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 -ปัจจุบัน คดีการจับกุม 23 คดี ผู้ต้องหา 26 คน ของกลางไอซ์ 27,671 กรัม และชุดปฏิบัติการ AITF ได้จับกุมที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 3 คน จำนวนของกลางไอซ์ น้ำหนัก 1,985 กรัม และสามารถขยายผลจับกุมผู้สั่งการเครือข่ายแอฟริกันตะวันตกได้อีก 3 คน

             

            "กลุ่มค้ายาเสพติดที่ใช้วิธีลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานมายังประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติชาวแอฟริกันตะวันตก โดยมีประเทศต้นทางจากทวีปอเมริกาใต้ เช่นโคลัมเบีย เปรู อาร์เจนตินาและบราซิล ซึ่งลำเลียงยาเสพติด ชนิดโคเคน ผ่านมาพักในประเทศแถบตะวันออกกลางจากนั้นลำเลียงเข้ามายังประเทศไทย และให้เครือข่ายในประเทศไทย ว่าจ้างหญิงไทยหรือหญิงชาวอาเซียน บางรายมีการแต่งงานบังหน้า ลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศต่างๆ แต่ที่พบมากขณะนี้ คือ ไปยังประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งภายหลังจากการจับกุมกลุ่มหญิงไทยที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านสนามบินไปประเทศญี่ปุ่นได้ต่อเนื่องถึง 27 คดี ทำให้ญี่ปุ่นแสดงความวิตกและส่งตำรวจญี่ปุ่นมาร่วมปฏิบัติงานสืบสวนกับป.ป.ส. ที่ประเทศไทย และสืบทราบว่าหญิงไทยส่วนใหญ่ สมัครใจรับจ้างลำเลียงยาเสพติดให้กับเครือข่ายนี้ มีบางส่วนที่ถูกหลอกโดยการซื้อตั๋วให้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ และให้ซุกซ่อนยาเสพติดไปด้วย จึงได้ขยายผลจนทราบว่ามีผู้สั่งการรายใหญ่ของเครือข่ายนี้เป็นชาวไนจีเรียน มาอยู่ที่อำเภอเกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการจับกุมตัวได้พร้อมของกลางโคเคนจำนวนหนึ่ง" นายศิรินทร์ยา กล่าว

 

         

            นายศิรินทร์ยา กล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีการจัดตั้งโครงการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (AITF) ทำให้หน่วยงานต่างๆ สามารถสกัดกั้นยาเสพติดที่เข้ามาในไทยได้และยังสามารถขยายผลการจับกุมไปยังผู้สั่งการจำนวนมาก ทำให้นักค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางการลักลอบลำเลียงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แล้วจึงลักลอบนำเข้ายาเสพติดกลับเข้ามายังประเทศไทยผ่านด่านตามแนวชายแดนอีกครั้งหนึ่ง