ข่าว

"แรมโบ้อีสาน" เตรียมรอสืบพยานบุก มท.ล้อม "อภิสิทธิ์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สุภรณ์" ร้องศาลวินิจฉัยข้อ ก.ม.ฟ้องซ้ำคดีศาลแขวงดุสิต ศาลบอกรอวินิจฉัยหลังสืบพยาน อัยการโจทก์เริ่มก่อน 6 พ.ย.นี้

 

           6 ส.ค.61-เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจความพร้อมคู่ความ คดีดำหมายเลขดำ อ.3260/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง "นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์" อายุ 54 ปี ฉายาแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 ประกอบมาตรา 83, 85

                โดยอัยการฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.52 เวลากลางวัน จำเลยซึ่งเป็นแกนนำ นปช. ปราศรัยปลุกปั่นชักชวนผ่านเครื่องขยายเสียง ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยจำเลยเป็นหัวหน้ามีหน้าที่สั่งการกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี อ้างว่าเป็นรัฐบาลที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลไปกระทรวงมหาดไทย ให้ใช้รถยนต์ปิดล้อมประตูทางเข้าออกทุกด้านเพื่อล้อมจับตัวนายอภิสิทธิ์ ขัดขวางไม่ให้นายอภิสิทธิ์ใช้สถานที่ดังกล่าวประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมกันนี้พวกของจำเลยร่วมกันบุกรุกเข้าไปในกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยนายอภิสิทธิ์และผู้ติดตามจนได้รับบาดเจ็บหลายคน พวกของจำเลยบางคนได้ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ เหตุเกิดที่แขวงราชบพิธ เขตพระนคร, แขวงดุสิต เขตดุสิต กทม.เกี่ยวพันกัน

                ขณะที่วันนี้ นายสุภรณ์ จำเลย ได้รับอนุญาตไม่ต้องมาศาล เนื่องจากเป็นเพียงนัดการตรวจความพร้อมพยานเอกสาร จึงมีเพียงพนักงานอัยการโจทก์ และทนายความจำเลย เดินทางมาศาลเพื่อตรวจหลักฐาน

                ซึ่ง นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ทนายความจำเลย ก็ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ เนื่องจากจำเลยเคยถูกฟ้องคดีในศาลแขวงดุสิตซึ่งศาลเคยพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปฯ แล้วกรณีพนักงานสอบสวน สน.ดุสิตได้ลงบันทึกประจำวันในสำนวน เมื่อวันที่ 28 เม.ย.52 ว่า จำเลยได้ร่วมกับพวกที่เป็นแกนนำชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.52 -14 เม.ย.55 ดังนั้นอัยการโจทก์ จึงฟ้องจำเลยคดีนี้ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ในเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 เม.ย.52 อีกไม่ได้ และประเด็นนี้ ฝ่ายจำเลยยังได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ไว้ด้วย ดังนั้นฝ่ายจำเลยจึงขอให้ศาลยกเลิก หรือเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยไปก่อน

           อย่างไรก็ดี ศาลได้สอบถามอัยการโจทก์แล้วแถลงต่อศาลว่า ขณะนี้เรื่องที่จำเลยร้องขอความเป็นธรรมอัยการก็อยู่ระหว่างพิจารณายังไม่ได้ข้อยุติ

          ศาลพิเคราะห์แล้ว จึงเห็นว่า ประเด็นข้อกฎหมายที่จำเลยยกมาขอให้วินิจฉัยว่าคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่นั้น ศาลจะพิจารณาภายหลังจากสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงไม่ยังให้เลื่อนหรือยกเลิกนัดสืบพยานดังกล่าว โดยให้เริ่มสืบพยานโจทก์ตามกำหนดเดิม ในวันที่ 6 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งศาลกำชับให้โจทก์-จำเลยนำพยานบุคคลมาเบิกความต่อศาลให้เรียบร้อย หากไม่นำพยานมาเบิกความในวันนัด จะถือว่าไม่ติดใจสืบพยานรายดังกล่าว ซึ่งศาลจะวินิจฉัยตามที่เห็นสมควร  

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ที่ร่วมกันบุกรุกกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2552 ที่มีนายสุภรณ์ เป็นแกนนำนั้น ก็มีที่ศาลอาญาตัดสินไปแล้ว 2 สำนวน

                1.คดีหมายเลขดำ อ.598/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ ทองมูล และนายอรุณ ฉายาจันทร์ เป็นจำเลยที่ 1-2  โดยศาลอาญา พิพากษาให้จำคุกฐานร่วมกันมั่วสุมฯ คนละ 6 เดือน , ร่วมกันบุกรุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน ทางนำสืบจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษเหลือจำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน

                2.คดีหมายเลขดำ อ.1467/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายประดิษฐ์ แซ่ฮิว ซึ่งศาลอาญาพิพากษาให้จำคุกฐานมั่วสุมฯ 6 เดือน , บุกรุก 2 ปี และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน 4 ปี รวมจำคุก 6 ปี 6 เดือน ทางนำสืบจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษเหลือจำคุก 4 ปี 4 เดือน และให้นำโทษจำคุก 3 เดือนที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาของศาลแขวงดุสิต มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ จึงรวมจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 7 เดือน

  /////////////////////////////////////////////////////////////

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ