ดีเอสไอ บุก เชียงใหม่ทลายแหล่งผลิตน้ำผลไม้ปลอม อย.-ใส่สีปรุงแต่งเผยรัฐแบกค่ารักษาโรคไตเรื้อรังปีละ 5-6 พันลบ.-เพิ่มสูงขึ้นปีละพันล้าน.จากบริโภคอาหารไม่มีคุณภาพ
3 ส.ค.61-พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยผลการลงพื้นที่ตรวจค้นแหล่งผลิตน้ำผลไม้ปลอมในจ.เชียงใหม่ ว่า กรมสรรพสามิตและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมได้ร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ซึ่งมีการปลอมหมายเลข อย. ดีเอสไอจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นแหล่งผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ปลอมที่ใช้ชื่อและหมายเลข อย.ของ หจก. เอช เอช ฟู๊ด หรือ เอส เอส ฟู๊ด ตั้งอยู่ที่ ม.2 ต.ขุนแก้ว อ.นครไชยศรี โดยพบว่า หจก.บุญเรืองการค้า ตั้งอยู่ที่ ม.6 ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นแหล่งผลิตน้ำผลไม้ ประเภทน้ำมะขามวิตามินซีสูงตราชื่นใจ และน้ำผลไม้รวมสีเหลือง ตราชื่นใจ จำนวนกว่า 7,000 ขวด รวมทั้งขวดเปล่าและภาชนะพร้อมบรรจุจำนวนมากภายในโรงงานดังกล่าว นอกจากนี้ ยังตรวจพบสีปรุงรสกลิ่นมะขามที่ใช้เติมแต่งกลิ่น โดยตัวอย่างน้ำมะขามที่ตรวจไม่พบเนื้อมะขามจริงตามที่ระบุในฉลาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จึงอายัดสินค้าไว้ตรวจสอบหาสารกันบูด และสารต้องห้ามอื่นๆ พร้อมเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.แม่แตง ให้ดำเนินคดีข้อหาผลิตและจำหน่ายอาหารปลอม
ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ภายหลังสสจ.นครปฐม เข้าร้องทุกข์ขอให้ดีเอสไอตรวจสอบแหล่งผลิตน้ำผลไม้ปลอมเครื่องหมายการค้าและหมายเลข อย. ของผู้ผลิตน้ำผลไม้ในจังหวัดนครปฐม ดีเอสไอจึงได้ตรวจสอบข้อมูลจนพบแหล่งผลิตใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ผลิตน้ำผลไม้ปลอมส่งขายไปทั่วประเทศ มีผู้ประกอบการเป็นคนไทย สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง
โดยการเข้าดำเนินการของดีเอสไอไม่ได้มองแค่ความเสียหายที่ผู้ประกอบการภายเอกชนจะได้รับเท่านั้น แต่มองปัญหาสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา รัฐบาลต้องแบกรับค่ารักษาโรคไตเรื้อรังปีละ 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งภาระงบประมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้นปีละ 1,000 ล้านบาททุกๆ ปี เป็นผลมาจากการบริโภคอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องเข้าดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 58 รัฐบาลใช้งบประมาณรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 5,247 ล้านบาท ปี 59 ใช้งบประมาณ 6,318 ล้านบาท ปี 60 ใช้งบประมาณ 7,528 ล้านบาท และปี 61 ใช้งบประมาณ 8,165 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง