"กลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้" เผยศาลตลิ่งชัน นัดไต่สวนคดีเหยื่อดอกเบี้ยโหด "ธุรกิจลิสชิ่ง" เรียกร้องคืนดอกเบี้ยที่เก็บเกินกฎหมายกำหนด พร้อมอัตราดบ.ร้อยละ 7.5
คืนเงินค่าดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้กับผู้เสียหายสมาชิกกลุ่ม และผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่มาใช้บริการที่ลักษณะความเสียหายเช่นเดียวกัน พร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันที่คิดดอกเบี้ยเกิน
23 ก.ค. 61 - นายทรงวุฒิ กลิ่นพาณิชย์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ เปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ ศาลจังหวัดตลิ่งชัน นัดพิจารณาเพื่อไต่สวนในคดีที่มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 15 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกบริษัทที่ดำเนินธุรกิจลิสซิ่งชื่อดัง ย่านบางพลัดเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
สำหรับเนื้อหาการฟ้องร้องคดีดังกล่าวนั้น เนื่องจากบริษัทธุรกิจลิสซิ่งดังกล่าวไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมาย ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 654 โดยการคิดดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด คือ เกินกว่า 15 %
นายทรงวุฒิ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายได้ขอให้บริษัทดังกล่าวคืนเงินค่าดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้กับผู้เสียหายสมาชิกกลุ่ม และผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่มาใช้บริการที่ลักษณะความเสียหายเช่นเดียวกัน พร้อมด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวันที่คิดดอกเบี้ยเกิน และประเมินว่ายอดเงินที่จะเรียกคืนให้กับผู้เสียหายย้อนหลังไปได้ห้าปี เป็นยอดเงินกว่าหมื่นล้านบาท โดยคำนวณจากรายได้ดอกเบี้ยรับของบริษัทย้อนหลัง 5 ปี ตามที่ปรากฏในงบการเงินที่นำส่งให้กับหน่วยงานราชการ หากศาลวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดจริง
นายทรงวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางการต่อสู้นั้น พวกเราจะยึดประเด็นแนวกฎหมายที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5298/2551 ประเด็นการคิดดอกเบี้ยคงที่เมื่อคำนวณเป็นดอกเบี้ยตามอัตราปกติ หากเกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 654 และ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13835/2553 ประเด็นเกี่ยวกับการคิดดอกเบี้ยของบริษัทจำกัดที่ไม่ใช่สถาบันการเงินตามกฎหมาย ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินต่างหากจากดอกเบี้ยปกติที่เรียกเก็บโดยใช้ชื่อเรียกแตกต่างออกไป แต่ผลประโยชน์ดังกล่าวก็เป็นค่าตอบแทนที่ได้จากการกู้ยืมเงิน
ดังนั้น เงินที่คิดเป็นค่าบริการครั้งแรกและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินดังกล่าวจึงเป็นดอกเบี้ยของสัญญากู้ยืมเงิน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2560 ป ระเด็นหากเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ดอกเบี้ยทั้งหมดจะตกเป็นโมฆะ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีอื่นๆ ในกลุ่มของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจลิส ซึ่งเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ทั้งนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่ามีกลุ่มผู้เสียหายยื่นฟ้องแบบกลุ่มเพื่อเรียกค่าเสียหายบริษัทลิสซิ่งชื่อดังย่านบางซื่อในส่วนของดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยมีกำหนดนัดไต่สวนนัดแรก วันที่ 27 ส.ค.2561 ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง