ศาลยุติธรรม ขยายผล 15 ศาลยื่นฟ้องคดีแพ่ง e-Filing Version 2

           17 ก.ค.61 - ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 เวลา 08.30 น. "นายสราวุธ เบญจกุล" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จัดแถลงข่าวความคืบหน้าของระบบยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความ (e-Filing Version 2) ซึ่งได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ได้เปิดใช้ระบบยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.60 เพื่อให้หน่วยงานศาลยุติธรรมสามารถให้บริการคู่ความในการยื่นคำฟ้องทางระบบรับส่งอิเล็กทรอนิกส์ ทนายความและประชาชนสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาศาล 
 

          โดยในระยะแรกได้ ให้บริการในคดีผู้บริโภคที่ผู้ประกอบธุรกิจเป็นโจทก์ ในประเภทคดี 1.คดีซื้อขาย 2.เช่าทรัพย์ 3.เช่าซื้อ 4.ค้ำประกัน 5.จำนอง-จำนำ 6.กู้ยืมเงิน และบัตรเครดิต และรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเครดิตโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมให้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.61 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ยื่นฟ้องผ่านระบบดังกล่าวจากศาลในโครงการ 15 ศาล รวมจำนวนทั้งสิ้น 784 คดี คิดเป็นจำนวนทุนทรัพย์ในคดีทั้งสิ้น 391,769,069.52 บาท
           โดย "นายสราวุธ" เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงระบบการยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความใหม่เรียกว่า e-Filing Version 2 เพื่อรองรับคดีเพิ่มเติมมากกว่าเดิม คือ คดีจัดการมรดก , การร้องขอให้เป็นบุคคลสาบสูญ , คดีผู้บริโภคเป็นโจทก์ , คดีแพ่งสามัญ , คดีไม่มีข้อยุ่งยาก , คดีขับไล่ (มโนสาเร่)
            และเพิ่มศาลที่ใช้ระบบนี้จากเดิม 6 ศาลเป็น 15 ศาล ประกอบด้วย 1.ศาลแพ่ง 2.ศาลแพ่งธนบุรี 3.ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ 4.ศาลแขวงพระนครเหนือ 5.ศาลแขวงธนบุรี 6.ศาลแขวงนนทบุรี 7.ศาลแขวงพัทยา 8.ศาลแขวงเชียงใหม่ 9.ศาลจังหวัดนนทบุรี 10.ศาลจังหวัดตลิ่งชัน 11.ศาลจังหวัดพระโขนง 12.ศาลจังหวัดมีนบุรี 13.ศาลจังหวัดธัญบุรี 14.ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง 14 ศาล จะรับฟ้องคดีผู้บริโภค , คดีแพ่งสามัญ , คดีไม่มีข้อยุ่งยาก คดีขับไล่ (มโนสาเร่) , คดีจัดการมรดก และคดีขอให้เป็นคนสาบสูญ ส่วน 15.ศาลแขวงดอนเมือง จะดำเนินการเฉพาะคดีผู้บริโภค
 

         ซึ่งในอนาคตจะขยายผลการให้บริการอีก 3 ศาลคือ 1.ศาลจังหวัดสมุย 2.ศาลจังหวัดราชบุรี 3.ศาลจังหวัดฝาง โดยสำนักงานศาลยุติธรรม ก็มีแผนการขยายผลการให้บริการยื่นฟ้องผ่านระบบดังกล่าวไปยังศาลชั้นต้นทั่วประเทศภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ด้วย 
          "เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม" ยังกล่าวย้ำถึงขั้นตอน e-Filing โดยยกตัวอย่างว่า เมื่อยื่นฟ้องผ่านระบบ e-Filing แล้ว การชำระเงินค่าธรรมเนียมต่างๆ ก็ใช้ผ่านอินเตอร์เน็ตแบ็งค์กิ้ง ทางเคาน์เตอร์สาขาและเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยที่ฟรีค่าธรรมเนียมถึงสิ้นปี 2561 นี้ ซึ่งประชาชนที่เป็นตัวความ ต้องบอกทนายความ เพื่อให้ทนายยื่นแทน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายทางคดี เกิดความสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญในส่วนของวิธีพิจารณาความแพ่งนั้นได้มีการออกกฎหมายรองรับไปแล้วว่าการยื่นคำคู่ความทาง e-Filing สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนได้แล้ว
         ทั้งนี้ "เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม" กล่าวอีกว่า ในส่วนของภาครัฐ ได้มีการประสานงานกับอัยการสูงสุดไปแล้วว่ากรณีอัยการเป็นทนายให้คณะกรรมการผู้บริโภคซึ่งเป็นตัวแทนผู้บริโภคฟ้องคดีจะนำระบบนี้ใช้กับอัยการด้วย และยังมีความคิดว่าทุกวันนี้มีการฟ้องคดีเข้าสู่ศาลปีละ 1.8 ล้านคดี จำนวนนั้น 700,000 คดี เป็นคดีอาญาที่ส่วนใหญ่พนักงานอัยการเป็นโจทก์แทนรัฐนั้น ก็จะนำระบบ e-Filing มาใช้ในกระบวนพิจารณาคดีอาญาด้วย เพื่อความปลอดภัย ลดขั้นตอนเวลา คุ้มครองสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน และจะมีการนำเสนอใช้กับชั้นพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกด้วย