ข่าว

 นายกฯเปิด"โครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำตาม"แนวพระราชดำริ "

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกฯ เปิด "โครงการจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ" ตามแนวพระราชดำริ "ร.10" ระบุ คิ๊กออฟ ทั่วประเทศ ก.ค.นี้ ชี้ จะสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ 

          เมื่อวันที่ 16 ก.ค.61 เวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นประธานเปิดโครงการจิตอาสาเพื่อการพัฒนาลำน้ำกับชีวิต บนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์และความสุขประชาชน พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายกเทศมนตรี องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กรรมการชุมชนต้นแบบ ทั่วประเทศ และองค์กรภาคเอกชนเข้าร่วม พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันดำเนินโครงการ(เอ็มโอยู) 22 หน่วยงาน

 

          จากนั้น นายกฯ กล่าวเปิดโครงการว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปณิธานในการสืบสานต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยงานราชการในพระองค์จัดโครงการจิตอาสาตามแนวพระราชดำริ และพระราชทานโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนร่วมแรงร่วมใจในการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ในการสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ชุมชนและประเทศชาติ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพลังของจิตอาสาสะท้อนให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคนในสังคม ที่มีจิตสาธารณะ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม เหนือประโยชน์ส่วนตน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้สังคมมีความสุข อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันแบ่งปัน  

          นายกฯ กล่าวอีกว่า ความเป็นจิตอาสาจะเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่ชุมชนด้วย และสร้างความเข้มแข็งให้ทุกภาคส่วนของประเทศอย่างครอบคลุมตามหลักการของศาสตร์พระราชา ที่เราต้องแก้ปัญหาจากฐานราก จากกระบวนการภายในโดยการพึ่งตนเอง ทำให้ชุมชนและหมู่บ้านมีพื้นฐานที่มั่นคง การขับเคลื่อนงานในครั้งนี้เราได้นำแนวทางจิตอาสาของสมเด็พระเจ้าอยู่หัวมาดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรม

           "อีกกิจกรรมหนึ่ง สิ่งสำคัญคือการสร้างจิตสำนึกสาธารณะ การรับผิดชอบให้แก่สังคมท้องถิ่นและชุมชนของตนเอง เพื่อมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย ด้วยพลังของจิตอาสา เราจะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.2561 เป็นต้นไป ทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดทั่วประเทศ

            นายกฯ กล่าวว่า จะเป็นกิจกรรมหลักเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ในวันที่ 28 ก.ค.2561 ตนขอขอบคุณทุกส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราจะเห็นว่ามีโครงการต่างๆมากมายที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำกว่า 606โครงการ แต่ครอบคลุม 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ ด้วย ดังนั้น เราต้องดำเนินโครงการนี้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ​ ฉบับที่ 12 ด้วย เราทำเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและทำประโยชน์ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและพัฒนาประเทศต่อไป       

      

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่เราทำวันนี้จะต้องมีความก้าวหน้า มีความต่อเนื่องไม่อยากให้ทำแล้ว ทำซ้ำ เมื่อทำแล้วเริ่มต้นให้แล้วชุมชนต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและสวยงาม ไม่ว่าจะหน้าบ้านหรือหลังบ้านที่มีคลอง ลำน้ำ ต้องทำให้สวยงาม เพราะเป็นประตูที่ให้คนเขามองเห็น อยากให้ทุกคนสืบสานสิ่งเหล่านี้ต่อไป นอกจากการสร้างความสวยงามลำน้ำแล้ว การรักษาความสะอาด สุขอนามัย ของคนที่อยู่ริมน้ำขอให้ทุกคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องติดตามกำกับดูแล ขอความร่วมมือเรื่องการระบายน้ำเสียลงสู่ลำน้ำ ให้มีที่ดักไขมันคงไม่ใช่เรื่องที่ยากและสิ้นเปลืองมากนัก หรือการทำที่กรองน้ำเสียก่อนระบายลงคูคลอง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐและท้องถิ่น ดูแลขอความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วย 

          "เพราะหากเราไม่ทำ บ้านเมืองของเราก็จะไม่มีใครทำ จะให้รัฐบาล หรือราชการทำอย่างเดียวจะไม่เร็วมากนัก ดังนั้น เป็นเรื่องการกระจายอำนาจความรับผิดชอบ หน้าที่ เรื่องงบประมาณ โครงการต่างๆทุกคนสามารถบริหารจัดการได้ในพื้นที่ตัวเอง โดยมีการติดตามควบคุม ดำเนินงาน ดูแลประเมินผลโดยส่วนกลาง จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดผลสัมฤทธิ์ในการสร้างพลังจิตอาสา สร้างพลังความรัก ความสามัคคีปรองดอง ประชาชนในพื้นที่ทุกคนสามารถร่วมมือในการแก้ปัญหาของชุมชนได้เอง และของประเทศชาติตามไปด้วย เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลในการดำเนินชีวิต วิถีชุมชนและอัตลักษณ์ชุมชน ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชนตลอดไป" นายกฯ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ