ระดมค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำน้ำปิดทางที่เชียงราย

          เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน การค้นหาเด็กนักเรียนทีมฟุตบอล “หมูป่า” จาก ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมผู้ฝึกสอน จำนวน 12 คน หลังจากฝึกซ้อมกันเสร็จได้พากันเข้าไปในถ้ำหลวง ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้กลับออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำ ฯลฯ ได้ระดมกำลังค้นหาภายในถ้ำหลวง ซึ่งมีลำธารไหลขนานออกมาจากถ้ำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเช้าวันนี้ ทีมค้นหาก็ยังดำเนินการต่อเนื่อง


 

          โดยเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบการค้นหาพบว่าเจ้าหน้าที่ชุดแรกที่เข้าไปค้นหาได้เดินลึกเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ยังไม่พบ ขณะที่มีฝนตกหนักลงมาทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอนตัวออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัย เพราะน้ำอาจปิดทางออกอีกได้


 

          ต่อมาในช่วงสายวันนี้ ผู้ว่าฯ เชียงราย ได้เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อควบคุมการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และหน่วยกู้ภัย รวมถึงอาสาสมัครชาวต่างชาติที่มีความชำนาญในการดำน้ำ โดยขณะนี้ถ้ำดังกล่าวซึ่งมีความลึกเข้าไปยาวกว่า 3 กิโลเมตร มีน้ำท่วมเกือบทั้งหมด ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทีมกู้ภัยสามารถเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย และขาดอุปกรณ์ดำน้ำจำนวนมาก จึงเร่งประสานความช่วยเหลือจากหน่วยต่างๆ ให้นำอุปกรณ์พร้อมกำลังพลมาสับเปลี่ยน เพราะเชื่อว่าผู้สูญหายอาจจะติดอยู่ภายในส่วนลึกของถ้ำ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเร่งกันช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำจะได้รับอันตราย เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงและทั้งหมดไม่มีอาหารกิน


 

          ขณะที่บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง พร้อมคณะครูอาจารย์ นำโดยนายนพรัตน์ อู่ทอง ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย เขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน ต่างไปรอผลการค้นหาที่หน้าถ้ำอย่างเนืองแน่น

 

          ในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้ปกครองแจ้งเพิ่มเติมว่าลูกของตัวเองได้หายไปพร้อมกับกลุ่มนักฟุตบอลเยาวชนดังกล่าวด้วย โดยสามารถติดต่อกับบุตรชายได้เมื่อเย็นวันที่ 23 มิถุนายน หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไปพร้อมกันทั้งหมด ทำให้มีผู้ที่สูญหายเข้าไปในถ้ำเพิ่มเป็น 13 คน ได้แก่ นายเอกพล จันทรวงค์ อายุ 25 ปี โค้ชทีมฟุตบอล ลูกทีมประกอบด้วย ด.ช.อดุลย์ สามออน อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านเวียงพาน อ.แม่สาย, ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์, ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทราย อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 โรงเรียนแม่สายประสิทธิศาสตร์, ด.ช.พิพัฒน์ โพธิ อายุ 15 ปี โรงเรียนบ้านสันทราย, ด.ช.ภานุมาศ แสงดี อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์

          ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์, ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง อายุ 11 ปี โรงเรียนอนุบาลแม่สาย, ด.ช.เอกรัตน์ วงค์สุขจันทร์ อายุ 14 ปี โรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา, นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ อายุ 16 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์, นายพรชัย คำหลวง อายุ 16 ปี โรงเรียนบ้านป่ายาง, ด.ช.สมพงษ์ ใจวงค์ อายุ 13 ปี โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ส่วนรายล่าสุดที่ผู้ปกครองแจ้งคือ ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านป่าเหมือด ต.โป่งผา


 

          ผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวก็ตกใจ ตอนนี้ผู้ปกครองทั้งหมดต่างภาวนาบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ทุกคนปลอดภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กๆ ออกมาได้ทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจ

          “เชื่อว่าเด็กๆ ยังปลอดภัย แต่ติดปัญหาตรงที่น้ำปิดกั้นทางเข้าไปตรงจุดที่เด็กๆ อยู่กัน ก็หวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือพวกเขาออกมาได้” ผู้ปกครองกล่าว

          ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา 2-3 ชุดแรกได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปค้นหาต่อเนื่อง โดยนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 (ฉก.ม.3) กองกำลังผาเมือง สภ.แม่สาย, นายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พร้อมด้วยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) อ.แม่สาย-สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย ได้ตั้งศูนย์อำนวยการจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนกันค้นหา

          ต่อมาในช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่ชุดใหม่ได้เข้าไปค้นหาอีก หลังจากทีมค้นหาทีมก่อนหน้านี้ได้สำรวจเข้าไปลึกประมาณ 3-4 กิโลเมตร แต่ไม่พบผู้ใด


 

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่และนักสำรวจเอกชนที่เข้าไปสนับสนุนการค้นหาระบุว่า พบรองเท้าของคนกลุ่มใหญ่ คาดว่าเป็นของเด็กๆ กระป๋องน้ำ กระเป๋าสัมภาระ ถูกวางเอาไว้บริเวณหน้าโพรงขนาดใหญ่ภายในถ้ำลึกประมาณ 4 กิโลเมตร โดยด้านข้างเป็นโพรงที่น้ำท่วมบริเวณปากถ้ำ ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจในอดีตพบว่าบนโพรงใหญ่นี้อยู่ค่อนข้างสูง น้ำอาจท่วมไม่ถึง


 

          ดังนั้น เจ้าหน้าที่คาดว่ากลุ่มนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ชอาจจะหลบอยู่ภายในโพรงดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ค้นหาชุดใหม่ได้นำเครื่องสูบน้ำเข้าไปด้วยเพื่อสูบน้ำบริเวณปากถ้ำ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการอีกหลายชั่วโมง แต่การค้นหาก็มีอุปสรรค คือ นอกจากจะมีน้ำอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นฤดูฝนที่น้ำอาจเพิ่มระดับได้ และการติดต่อสื่อสารระหว่างทีมค้นหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดแบ่งออกเป็นหลายทีมเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากยิ่งเข้าไปในถ้ำลึกสัญญาณการติดต่อก็จะหายไป จนต้องส่งทีมต่อไปเข้าไปค้นหาทีมก่อนหน้านี้เพิ่มเติมอีก

 

          ด้านนายอำเภอแม่สาย กล่าวว่า หลังจากทีมกู้ภัยต่างๆ ร่วมกับชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ รวมทั้งมีชาวต่างชาติที่มีความชำนาญเคยสำรวจถ้ำหลวงมาแล้วได้เข้าไปสำรวจช่วงคืนที่ผ่านมา ก็ทำให้คาดว่าเด็กทั้งหมดยังติดอยู่ภายในโพรงของถ้ำ เพราะได้เจอเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ อยู่บริเวณที่ต้องสงสัย


 

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงกลางคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักและน้ำท่วมบริเวณนั้น จึงคาดว่าเด็กๆ ได้หนีไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโพรงถ้ำ ดังนั้นตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันนี้(24 มิ.ย.)ทีมกู้ภัยจึงได้ประชุมและสรุปผล พร้อมจัดทีมกู้ภัยเร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือใหม่แล้วอีก 5 ทีม

          รายงานข่าวแจ้งว่า จากการประชุมแผนช่วยเหลือ ได้ทีมกู้ภัยจาก จ.เชียงใหม่ 4 ทีมลงพื้นที่เข้ามาช่วย พร้อมกับชุดประดาน้ำ 2 ชุด ชุดแรกจะนำสายเชือกนำทางเข้าไปพร้อมอุปกรณ์สัญญานโทรศัพท์ จาก ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย และนำโทรศัพท์ภาคสนามเข้าไปเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถช่วยเด็กได้อย่างไร หากช่วยออกมาได้ พร้อมจะดำเนินการทันที แต่หากว่าประเมินแล้วยังไม่ปลอดภัย จะส่งเสบียงเข้าไป เพราะมื้อสุดท้ายที่เด็กๆ ได้กินคือ มื้อเที่ยงของวันที่ 23 มิถุุนายน และทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตั้งเสาสัญญานโทรศัพท์ให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ที่เข้าไปในถ้ำได้

          ขณะเดียวกัน ทีมช่วยเหลือจะดำน้ำเพื่อเข้าไปดูบริเวณที่เป็นทางเข้าที่อยู่ใต้น้ำ​ ที่เป็นสามแยกภายในถ้ำที่เป็นจุดที่น้ำท่วมสูงมิดผนังถ้ำ โดยจะดำน้ำเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายราวๆ 15 เมตร จากนั้นจะเลี้ยวซ้ายลงล่างเพื่อผูกเชือกนำทาง เนื่องจากสภาพข้างในถ้ำมืดมาก เพื่อประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตามคาดว่าเด็กน่าจะอยู่ในช่วงกลางระหว่าง 3 แยกปากถ้ำไปทางซ้ายถึงปลายถ้ำ ทั้งนี้ ขอให้พบเด็กๆ ก่อน จากนั้นจึงจะมาวางแผนช่วยออกมาอีกครั้ง​ โดยทีมสำรวจนำเอาน้ำและอาหารมัดถุงมิดชิดเพื่อนำไปส่งให้แก่เด็กๆ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ เพื่อประทังแก้หิวไปก่อน

          นายอมรสฤษฏิ์​ นิรัตศยกุล​ หัวหน้าศูนย์​ป้องกันภัย​ อบจ.เชียงใหม่​ กล่าวว่า หน่วยกู้ภัยจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่​ ประกอบด้วย​ ศูนย์​ ปภ.เชียงใหม่​ ชมรมกู้ภัยทางสูงเชียงใหม่​ ปภ.เชียงใหม่​ กู้ภัยตำรวจทางหลวงเชียงใหม่​ ศูนย์กู้ภัยและมวลชนสัมพันธ์​ จังหวัดเชียงใหม่​ (สำนักอุทยานแห่งชาติ)​ มีทีมประดาน้ำ​ 2​ ทีมคือ​ สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้​ และ​ อปพร.เทศบาลนครเชียงใหม่​ (ศูนย์พิงค์นคร)​ และทีมกู้ภัยจากจังหวัดเชียงราย คือ​ กู้ภัยแสงธรรมแม่สาย​ แสงธรรมเชียงราย​ สยามรวมใจฯแม่สาย​ กู้ภัยพรหมวิหาร​ ป่าไม้​ อส.ปภ.เชียงราย​ เข้าร่วมช่วยค้นหาด้วย

          ทั้งนี้ การค้นหาช่วยเหลือดำเนินการมาตลอดทั้งวัน แต่จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับลักษณะถ้ำดังกล่าว จากพื้นดินถึงเพดานถ้ำ สูงราวประมาณ 100-150 เมตร มีความยาว 7 กม. แต่ยังไม่เคยมีใครเข้าสำรวจจนถึงจุดปลายทาง เข้าไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น เพราะมีน้ำเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งคนในพื้นที่ทราบกันดีว่าอันตราย และหลังจากที่เลยจุดกม.ที่ 4 ไป สภาพทางจะแคบลงเรื่อยๆ และรูปร่างคล้ายห้องโถงใหญ่วนให้เดินเข้าออกได้ แต่จะอยู่สูงจากพื้นที่มีน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ โดยอุปสรรคคือ น้ำค่อนข้างขุ่น และไม่มีแสงไฟ