เตรียมคืนสัญชาติสมภารวัดสวนดอก-เจ้าตัวยังล่องหน

          13 มิถุนายน 2561 นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสิทธิ์ นายอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่ทางกรมการปกครอง พิจารณาอนุมัติให้สัญชาติไทย พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ขณะนี้ทางอำเภอแม่อาย กำลังอยู่ระหว่างการขอเอกสารผลตรวจดีเอ็นเอจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกครั้ง โดยได้ยื่นขอไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารมาให้ทางอำเภอแม่อาย สำหรับผลการตรวจดีเอ็นเอตัวอย่างจากญาติสนิท ยืนยันความเป็นพี่น้องร้อยละ 99

          สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้หลังจากทางอำเภอแม่อายได้รับเอกสารผลตรวจดีเอ็นเอแล้ว ทางพระราชรัชมุนี ต้องนำพยานมายืนยันอีกครั้งเพื่อออกบัตรประจำตัวประชาชนให้ในนามของนายนิมิต ยอดคำ 

          ส่วนคดีการสวมบัตรประชาชนที่ได้มีการแจ้งความไว้นั้น ยังคงดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งความคืบหน้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการและทางอัยการขอให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนพิจารณาจะสั่งฟ้องหรือไม่

          ทางด้าน พ.ต.อ.ก่ำแก้ว สุยาติ ผกก.สภ.แม่อาย กล่าวว่า สำหรับคดีการสวมสิทธิบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ของพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ส่งไปที่อัยการจังหวัดเพื่อพิจารณา เบื้องต้นทางอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการว่าจะมีคำสั่งให้สอบพยานเพิ่มเติม , พิจารณาสั่งฟ้อง หรือพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ต่อไป

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (13 มิ.ย.)บรรยากาศภายในวัดสวนดอก เป็นไปอย่างสงบ มีสามเณรเข้า-ออกวัดเพื่อเรียนหนังสือตามปกติ รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมภายในวัด ถ่ายรูปและไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล รบมทั้งมีการจัดพิธีทางศาสนาตามปกติ ขณะที่พยายามพูดคุบกับพระภายในวัดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่างตอบว่าไม่ทราบเรื่องรางวดังกล่าว ส่วนตัวเจ้าอาวาส ก็ไม่ทราบว่าไปไหน  โดยไม่มีการปรากฎตัวมาหลายเดือนแล้ว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องมีผู้ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานว่าพระราชรัชมุนี มีการใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับชายชาวจังหวัดชัยภูมิที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2538 ตลอดจนมีข้อมูลที่อ้างด้วยว่าพระผู้ใหญ่รายนี้อาจจะเป็นชาวเมียนมาร์ และมีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่เสียชีวิตไป และพระราชรัชมุนี พร้อมทนายความ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เบื้องต้น พระราชรัชมุนี ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเป็นคนไทย กระทั่งหายตัวออกจากวัดไปโดยไม่ทราบไปไหน