ข่าว

"สันธนะ" บอก "จักรทิพย์" คิดให้ดี ถอดยศ ฟ้องกลับ ม.157

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สันธนะ" ไม่ห่วงถูกยึดทรัพย์ ยัน ทรัพย์สินได้มาก่อนถูกต้อง พร้อมปักหลักสู้

          21 พ.ค.61 - เมื่อเวลา 13.00 น. "พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์" ที่ปรึกษา บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมาให้กำลังใจ ผู้ร่วมชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตรวม 260 รายซึ่งเดินทางมารับเงินเยียวยาตามผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดวันที่ 31 ม.ค.61 คดีเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51  

             โดย พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าวว่า เป็นผลพวงการกระทำของอำนาจรัฐ ซึ่งตนก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น รวมทั้งเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ 19 พ.ค.53 ที่มีผู้เสียชีวิต 99 คน ตนเข้าใจในความสูญเสีย และขอแสดงความเสียใจ โดยเฉพาะคดีของ พธม.ที่ใช้เวลากว่า 10 ปีกว่าจะพิสูจน์ได้ซึ่งกระบวนการของศาลต้องเป็นที่ประจักษ์และยอมรับ อยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ สตช.ต้องเข้าไปดูแลการชุมนุมของประชาชนที่จะเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งอาจรวมถึงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นวันที่ครบรอบการรัฐประหารของ คสช.ในวันที่ 22 พ.ค.นี้  สำหรับตนซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. 51 เหมือนกัน แต่ตนก็จะไม่หมอบไม่คลานไปศูนย์กลางอำนาจ เพื่อไม่ให้ใครต้องมาเดือดร้อน

            ขณะที่ "พ.ต.ท.สันธนะ" ยังให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ด้วยว่า ทุกวันนี้สังคมและสื่อก็ทราบถึงการปฏิบัติของผู้มีอำนาจ ซึ่งได้มีคำสั่งให้ออกหมายเรียกบิดาและมารดาของตน ในข้อหาให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนผู้ที่ทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจสักวันจะได้รู้ว่า คนที่สั่งคุณจะมีความรับผิดชอบแค่ไหนเพราะเชื่อว่าสุดท้ายถ้ามีเหตุการณ์ฟ้องกลับผู้บังคับบัญชาของคุณก็จะต้องปัดป้องตัวเองว่าไม่เกี่ยว การออกหมายเรียกดังกล่าวเป็นเรื่องของ สน.โชคชัย ซึ่งออกหมายเรียกแล้วส่งเจ้าหน้าที่มาถึงหน้าบ้านแต่สุดท้ายกลับมาให้ข่าวบอกว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดส่วนเอกสารหมายเรียกในวันนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ส่งมอบเป็นแค่การสอบถามว่าบิดาและมารดาตนอยู่ในบ้านหรือไม่ ในเรื่องคดีความส่วนตัวก็จะดำเนินการต่อ ที่มีข่าวว่าจะออกหมายเรียกตนไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมจากที่มีผู้เข้ามาร้องทุกข์จำนวน 22 รายตนก็พร้อมที่จะไปรับทราบข้อกล่าวหาซึ่งตนขอให้แจ้งข้อกล่าวหามาทีเดียวเลย ไม่ใช่แจ้งข้อหามาแค่ 8 ข้อแล้วจะมาทยอยเพิ่มมาที่ละข้อหา โดยตนพร้อมตั้งรับปักหลักสู้ต่อ

 

               เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้รับหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการมาหรือไม่  พ.ต.ท.สันธนะ  กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากคนของตนว่าจะมีการออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหา ส่วนรายละเอียดข้อหาและวันเวลาตนขอดูรายละเอียดอีกครั้ง โดยจะนัดให้ไปพบวันไหนหากตนไม่ติดคดีอื่นก็พร้อมที่จะไปแน่นอน ตนทราบอยู่แล้วว่าข้อหาที่จะแจ้งเพิ่มนั้นมันมีธงอยู่แล้วที่จะแจ้งข้อกล่าวหาตนให้ครบองค์ประกอบว่าเป็นอั้งยี่ ซ่องโจรเพื่อที่จะยึดทรัพย์กฎหมายฟอกเงิน แต่ตนก็ไม่สนจะยึดทรัพย์ก็ยึดไปเพราะทรัพย์สินนั้นมีมาก่อนทั้งสิ้น ในช่วง 4 ปีที่คุณเสวยอำนาจทรัพย์ของตนก็มีแต่หดหาย เชิญมาตรวจสอบได้เลย ดังนั้นการกระทำของคุณมันไม่สำเร็จ คุณจะออกหมายเรียกก็เรียกมาแต่คุณหมดสิทธิที่จะออกหมายจับแล้ว 

             ส่วนจะดำเนินการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ "พ.ต.ท.สันธนะ" กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาตนมาอีกหรือไม่ จึงจะพิจารณาฟ้องกลับแต่ละคนซึ่งจะมี 3 นายพลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาตนมาอยู่ด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องตนก็จะฟ้องกลับทีเดียวจะได้ไม่เป็นภาระของศาลที่จะต้องมารวมคดีภายหลัง ซึ่งคดีที่จะฟ้องพวกคุณจะโดนต่างกรรมต่างวาระของจริง

            ทั้งนี้ " พ.ต.ท.สันธนะ" ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะเสนอให้มีการถอดยศด้วยว่า เรื่องถอดยศเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. ตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกมีแต่คดีที่เสียค่าปรับซึ่งก็ได้เสียค่าปรับแล้วก็จบกันไป ส่วนที่จะมีการรื้อฟื้นวินัยที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา" ผบ.ตร. ก็ต้องคิดด้วยว่า ผบ.ตร.ก่อนหน้านี้ไม่เคยนำเรื่องดังกล่าวมาเสนอถอดยศ แต่ถ้า พล.ต.อ.จักรทิพย์ มาเสนอถอดยศตนจากกรณีที่มีคดีในปัจจุบันตนก็จะดำเนินการฟ้องกลับอดีต ผบ.ตร. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วยเพราะที่ผ่านมาเหตุใดไม่ถอดยศตนแต่แรก แต่พอมามีเรื่องนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ กลับมาถอดยศตน ซึ่ง อดีต ผบ.ตร.ที่ผ่านมาจะเดือดร้อนกันหมด ดังนั้นขอให้คิดให้ดี  

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ