เปิดประวัติ 5 คนไทย ที่นิตยสารเสตรทไทมส์ ระบุว่าเป็นหนึ่งใน 50 คนเอเชียที่ต้องติดตาม
1. เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2539 เป็นนักกิจกรรมนักเรียนนักศึกษา เป็นบุตรคนสุดท้องของครอบครัวเจ้าของร้านขายของชำ เกิดและเติบโตในจังหวัดสมุทรปราการ ศึกษาจบในระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เขาเป็นผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรมตั้งแต่อายุ 18 ปี
เขาก่อตั้งสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทยและกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทซึ่งทั้งสองกลุ่มมุ่งปฏิรูปการศึกษาไทย การเคลื่อนไหวช่วงแรก ๆ ของเขาเป็นการมุ่งเน้นเรื่องทรงนักเรียน ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา รวมถึงวิจารณ์พิธีกรรมหน้าเสาธงในโรงเรียน และการยกเลิกเกณท์ทหารคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเคยเสนอ "รางวัลสิทธิมนุษยชน" ประเภทเด็กและเยาวชนจากบทบาทการรณรงค์เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิ์มนุษยชนในโรงเรียนให้เขา แต่เขาปฏิเสธ
ปัจจุบันเนติวิทย์ กําลังศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขายังเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดสันติประชาธรรมรวมถึงยังจัดตั้งสำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน
2.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เจ้าของร้านเบียร์ Taopiphop Ale Project และไกด์ทัวร์ฟรีแลนซ์ จบปริญญาตรีจากนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รักการดื่มเบียร์เป็นชีวิตจิตใจ ใฝ่ฝันที่จะทำให้คราฟต์เบียร์ไทยถูกกฎหมายระหว่างท่องเที่ยวในนิวยอร์ก พบว่าตนเองสนใจเรื่องเบียร์เป็นพิเศษ ชื่นชอบการชิมเบียร์และเรื่องราวเบื้องหลังของเบียร์หลากหลายชนิด เคยทำงานที่คราฟต์เบียร์บาร์ เมื่อกลับมาอยู่เมืองไทย จึงได้ทดลองปรับสูตรและผลิตเบียร์เอง จนกระทั่งถูกจับและเกิดเป็นข่าวฮือฮา ถึงขั้นชาวเน็ตช่วยกันระดมรายชื่อบนโลกออนไลน์ เรียกร้องให้อนุญาตให้มีการผลิตคราฟต์เบียร์ไทยอย่างถูกกฎหมายก่อนที่จะมาทำธุรกิจเบียร์ที่ตนรักอย่างจริงจัง เท่าพิภพเคยทำงานหลายอย่าง รวมทั้งเป็นทนายความให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.นนทบุรี เข้าจับกุมเนื่องจากลักลอบผลิตเบียร์ขายลูกค้า ที่อาคารพาอาคารพาณิชย์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อเดือน 21 ม.ค. 60 ที่ผ่านมาและบอกว่าได้ลองคิดค้นสูตรและวิธีผลิตเบียร์ขึ้นเอง ปรับสูตรจนรสชาติเป็นที่ยอมรับจึงทำออกขายในราคาขวดละ 150 บาทและได้นัดหมายเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยให้มาในวันเปิดขายวันแรกแต่เจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุกจับเสียก่อน โดยศาลนนทบุรีได้สั่งจำคุก 2 ปีแต่ให้รอลงอาญาและปรับ5.5 พันบาท
และเขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่
3.พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม หลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พริษฐ์ วัชรสินธุ เกิดเมื่อ : วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2535 (อายุ 21 ปี)จบปริญญา Philosophy Political and Economics(PPE) University of Oxford ภาควิชาปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด (ได้รับVoteให้ดำรงตำแหน่ง President of the Oxford Union หรือนายกองค์การนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ในปี2013 ) และได้นำวุฒิปริญาโท ยื่นสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพบก ผลัดที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือน และบอกว่าอยากเลือกช่องทางที่ตรงไปตรงมา โปร่งใส่ที่สุด ส่วนตัวเป็นคนรักเสรีนิยม ตัดสินใจมาก่อนว่าจะสมัคร จึงรู้สึกว่าตนได้ตัดสินใจ และทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ทั้งนี้ในช่วงหลังปลดประจำการ จะเป็นช่วงปลดล็อคทางการเมืองพอดี และสนใจเรื่องการเมืองอยู่แล้ว แต่จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้น พรรคมีอุดมการณ์ทางการเมืองตรงกันหรือไม่คือเป็นยุคใหม่ที่มีเสรีนิยมหรือไม่ ถ้าตรงก็จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรค
4. รัสมี เวระนะ (เกิด 18 สิงหาคม พ.ศ.2526) เป็นคนอำเภอน้ำยืน ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และเรียนต่อสายอาชีพที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาไทยวิจิตรศิลปเชียงใหม่ จนจบปวช. ก่อนจะเรียนต่อสาขาจิตรกรรมที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (เจ็ดยอด) จนจบปริญญาตรี ช่วงที่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่รัสมีได้ให้ความสนใจกับดนตรีหลากหลายแนวนอกเหนือจากเพลงหมอลำและเพลงลูกทุ่ง โดยฟังเพลงโซลของนิน่า ซิโมน รวมถึงเพลงสำเนียงแอฟริกันตะวันตกของโอเมา ซ็องกาเร และเพลงแนวแอฟโรบีทของเฟล่า
มีผลงานเพลงชุดแรกชื่อ Isan Soul E.P. ซึ่งได้รับความสนใจจากการนำเพลงพื้นบ้านของภาคอีสานมาขับร้องในแนวโซล และมีการผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีตะวันตกและดนตรีพื้นบ้านทำให้ได้รับรางวัลคมชัดลึก อวอร์ดถึง 3 รางวัล ได้แก่ อัลบั้มยอดเยี่ยม ศิลปินยอดเยี่ยม และ เพลงยอดเยี่ยมจากเพลง มายา ต่อมารัสมีได้ออกอัลบั้ม อารมณ์ และได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ สาขา ศิลปินหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ.2560
เป็นนักร้องชาวไทย มีชื่อเสียงจากการนำเพลงพื้นบ้าน , ลูกทุ่ง และหมอลำมาขับร้องในแนวดนตรีโซลและแจ๊ส นอกจากนี้บทเพลงของรัสมี เวระนะ ยังมีส่วนผสมของดนตรีตะวันตกและดนตรีพื้นบ้าน มีทั้งการขับร้องเป็นภาษาอีสาน และ ภาษาเขมร โดยรัสมี เวระนะ เคยไปร้องเพลงที่ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับวง Limousine และมีโอกาสได้ร่วมบันทึกเสียงให้กับวง Poni Hoax วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์จากฝรั่งเศส
5. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนักธุรกิจและนักกิจกรรมชาวไทย เป็นบุตรคนที่สองจากทั้งหมดห้าคนของพัฒนา กับสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และเป็นหลานอาของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย เขาเข้าศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ แต่ชื่อว่าใบปริญญาเป็นสิ่งหลอกลวจึงหันไปเอาดีทางด้านกิจกรรมในมหาวิทยาลัยและได้รับเลือกเป็นอุปนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี 2542 และได้รับเลือกเป็นรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยในปี 2543 ได้ร่วมเคลื่อนไหวกับการชุมนุมหรือม็อบคนหลายครั้งในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย จากการสนใจถึงปัญหาบ้านเมืองรวมทั้งแนวคิดและทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์จึงได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังบิดาของธนาธรเสียชีวิตในปี 2545 ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว เขาในวัย 23 ปีจำใจต้องกลับมารับช่วงบริหารบริษัทต่อจากบิดาและเข้าสู่วิถีทุนนิยม ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยสนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวเลยตั้งแต่ที่ธนาธรเริ่มเข้าไปบริหารไทยซัมมิท ไทยซัมมิทได้เติบโตจากการมีรายได้ 16,000 ล้านบาทในปี 2544เป็นมีรายได้ 80,000 ล้านบาทในปี 2560
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ในวันที่ 15 มีนาคม 2561 เขาร่วมกับ ผศ. ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อนมหาลัยรุ่นราวคราวเดียวกัน และผู้ร่วมอุดมการณ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคม รวมทั้งหมด 26 คน ยื่นขอจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในนาม “พรรคอนาคตใหม่“
ข่าวที่เกี่ยวข้อง