"ทูตไนจีเรีย" เยือน "ทำเนียบฯ" เนื่องในโอกาสรับหน้าที่ "นายกฯ" เผย สนใจ เพิ่มการลงทุนไทยใน "ไนจีเจีย" เห็นพ้อง ร่วมมือปราบยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.61 เวลา 09.30 น. ที่ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอาห์เมด นูฮู บามัลลี (H.E. Mr. Ahmed Nuhu Bamalli) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในโอกาสเข้ารับหน้าที่
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญการหารือว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตไนจีเรีย สู่ประเทศไทย โดยในนามของรัฐบาลไทย ขอแสดงความยินดีที่เอกอัครราชทูตฯ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียประจำประเทศไทย และหวังว่า เอกอัครราชทูตไนจีเรียจะเป็นกำลังสำคัญช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและไนจีเรีย ทั้งนี้ รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ด้านเอกอัครราชทูตไนจีเรียกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ โดยเอกอัครราชทูตฯจะได้มีโอกาสพบหารือกับข้าราชการระดับสูงของไทย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไทยเชื่อมั่นว่าไนจีเรียจะบรรลุเป้าประสงค์ของแผนฟื้นฟูและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (Economic Recovery and Growth Plan - ERGP)
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า โดยปัจจุบันไนจีเรียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของแอฟริกา และมีศักยภาพด้านการค้าและการลงทุน โดยประเทศไทยมีนโยบาย Thailand +1 และสามารถเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียน ในขณะที่ไนจีเรียสามารถเป็นประตูสู่แอฟริกา ซึ่งไทยมีความสนใจที่เพิ่มพูนการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนไทยในไนจีเรีย
ไทยและไนจีเรียยินดีที่ได้มีความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างกัน โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น ด้านการสาธารณสุข การเกษตร การท่องเที่ยว และการเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
"ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะร่วมมือด้านกงสุลและคนเข้าเมือง ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติด
ซึ่งถือเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่สำคัญ เอกอัครราชทูตไนจีเรียกล่าวว่า ไนจีเรียเห็นว่า ไทยสามารถเป็นประเทศต้นแบบด้านการผลิตและแปรรูปผลผลิตการเกษตรอย่างครบวงจรได้และให้ความสนใจที่จะเรียนรู้และรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวจากไทย เริ่มตั้งแต่การปลูกข้าว การสีข้าว การพัฒนาผลิตผลหลังการเก็บเกี่ยว และผลิตภัณฑ์ซึ่งไทยมีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ" พล.ท.วีรชน กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง