ข่าว

"สมาชิกคลองจั่น"ฟ้องอาญาเอาผิดสหกรณ์-ศุภชัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไพบูลย์"รับมอบอำนาจยื่นฟ้อง"สหกรณ์คลองจั่น-ศุภชัย"ฉ้อโกงหลอกฝากเงินเสียหายกว่า 1.1 พันล้าน ยันไม่ซ้ำคดีอัยการศาลนัดไต่สวนมูล 23 ก.ค.นี้

 

         26 เมษายน 2561 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก  "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ในฐานะผู้รับมอบอำนาจ จาก "น.ส.นวลฉวี เกตุวัฒนเวสน์" กับพวกซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวม 412 คน  

 

          ได้มายื่นฟ้อง "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด" และ "นายศุภชัย ศรีศุภอักษร" อดีตประธานสหกรณ์ฯ ปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำจากคดียักยอกสหกรณ์คลองจั่น เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 จากเหตุปกปิดข้อเท็จจริงในการดำเนินงานของสหกรณ์ จนหลงเชื่อร่วมเป็นสมาชิก มูลค่าความเสียหายกว่า 1,115 ล้านบาท

 

          โดยวันนี้มีกลุ่มผู้เสียหาย ประมาณ 30 คน เดินทางมาพร้อมกับ "นายไพบูลย์" ในการยื่นคำฟ้องด้วย ซึ่ง ศาลอาญา นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีนี้ ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

 

         ทั้งนี้ "นายไพบูลย์" ผู้รับมอบอำนาจผู้เสียหาย ยื่นฟ้องคดี เปิดเผยถึงคำฟ้องว่า จำเลยได้ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรจะแจ้งกับโจทก์ โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จอย่างน้อย 4 ประการ คือ 1.มีการอ้างว่าตนเองเป็นธนาคาร เผยแพร่แผ่นพับโฆษณาหรือโบรชัวร์ว่าเป็นธนาคาร ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นธนาคาร 2.มีการตกแต่งบัญชี ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐ เคยนำหลักฐานไปแสดงต่อศาลปกครองไว้ว่ามีการปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ง

   

         3.จำเลยทราบอยู่แล้วว่าตนเองมีปัญหา ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นสหกรณ์ดีเลิศ แต่ยังนำเรื่องที่ได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเลิศมาโฆษณาปกปิดข้อเท็จจริงจนประชาชนหลงเชื่อเอาเงินไปให้กับสหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยไว้ว่าสหกรณ์คลองจั่นฯ ไม่สมควรที่จะได้รางวัลดีเลิศ และ 4.จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญายืมเงินสำรองจากประชาชนผู้เสียหายไปกว่า 2,700 ล้านบาท ด้วยเอกสารใบเดียว เพื่อปกปิดข้อเท็จจริงว่าสหกรณ์มีปัญหา

 

       

 

          "นายไพบูลย์" กล่าวอีกว่า แม้ว่าปัจจุบันประชาชนผู้เสียหาย จะได้รับเงินคืนจากสหกรณ์คลองจั่นฯ แต่ได้คืนน้อยมาก โดยประชาชนที่ได้สะสมเงินไปฝากเป็นหุ้นไว้ได้รับเงินคืนจนถึงขณะนี้เพียง 3% ของเงินที่เสียหายเท่านั้น และมีโอกาสที่จะไม่ได้อีกจึงน่าเป็นห่วงมาก ส่วนประชาชนที่ฝากเป็นเงินสะสมทรัพย์ เสียหายไปตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบันเพิ่งได้คืนเพียง 10% และมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้อีก ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่นำเงินมาฝากไว้ใช้ยามเกษียณ แต่กลับมาโดนปัญหานี้ ไม่สามารถหาหนทางอื่นที่จะเยียวยาได้ จึงมาฟ้องต่อศาลอาญาให้ได้รับความเป็นธรรม

 

        ส่วนจะเป็นการฟ้องซ้ำ กับคดีที่อัยการยื่นฟ้อง "นายศุภชัย" อดีต ปธ.ฐานฉ้อโกงต่อศาลอาญาแล้วหรือไม่  "นายไพบูลย์" กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการฟ้องสหกรณ์คลองจั่นฯ ฐานฉ้อโกงประชาชน คดีที่ดำเนินอยู่ในศาลอาญานั้นอัยการยื่นฟ้องนายศุภชัย กับพวก 11 คนฐานฉ้อโกง แต่คดีวันนี้เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายโดยตรง 412 คนใช้สิทธิดำเนินคดีอาญาต่อศาลด้วยตัวเอง ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ ส่วนการฟ้องศาลแพ่งนั้นสหกรณ์คลองจั่นฯได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย จึงไม่สามารถฟ้องแพ่งต่อสหกรณ์คลองจั่นฯได้

 

        "นายไพบูลย์" กล่าวย้ำว่า เราฟ้องคดีอาญาก่อนเพื่อให้ผลชัดเจน จากนั้นจึงนำไปดำเนินการเพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนต่อไป กรณีนี้นายศุภชัยใช้สหกรณ์คลองจั่นฯ เป็นเครื่องมือ ซึ่งขัดต่อหลักข้อเท็จจริงทางกฎหมาย เพราะประชาชนไปฝากเงินกับสหกรณ์คลองจั่นฯ เอาเงินไปให้เพราะสหกรณ์คลองจั่นฯ ไปโฆษณาชวนเชื่อ ปกปิดข้อเท็จจริง ทุกอย่างเป็นการกระทำของสหกรณ์คลองจั่นฯ ที่ทำให้ประชาชนเสียหาย นายศุภชัยเป็นผู้ดำเนินการแทนสหกรณ์คลองจั่นฯ ไม่ใช่ตัวการ ตัวการจริงๆ คือสหกรณ์คลองจั่นฯ

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ