ข่าว

บังคับคดี ไตรมาส 2 ขายทรัพย์ 3.5 หมื่นล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไตรมาส 2 บังคับคดีเทขายทรัพย์สิน 3.5 หมื่นล้านบาท รวม 2 ไตรมาสดึงเงินเข้าระบบกว่า 67,000 ล้านาท เดินหน้าจัดมหกรรมขายทอดตลาด


          กรมบังคับคดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ - 20 เม.ย.61 น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงผลการดำเนินงานของกรมบังคับคดีในไตรมาสที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561

 

          โดยมาตรการผลักดันทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี สามารถผลักดันทรัพย์สินได้เป็นเงินจำนวน 35,275,434,885 บาท คิดเป็นร้อยละ 32.07 ของเป้าหมายจำนวน 110,000,000 บาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 คิดเป็นร้อยละ 11.10 โดยการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้าสนับสนุนการผลักดันทรัพย์ในวันหยุดราชการ สามารถขายได้ 146 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,527,376,000 บาท สูงกว่าราคาประเมิน คิดเป็นร้อยละ 83.58 เมื่อรวม 2 ไตรมาส (ต.ค.60-มี.ค.61) เป็นเงิน 67,182 ล้านบาท คาดการณ์ว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 61 จะได้เงินกลับเข้าสู่ระบบมากกว่า 110,000 ล้านบาท

 

          ขณะที่ผลการผลักดันทรัพย์ในจังหวัดภาคใต้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2560 คิดเป็นร้อยละ 27.85 โดยจังหวัดสงขลา ปัตตานี และยะลา มีการผลักดันทรัพย์สูงที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ สำหรับการจัดมหกรรมขายทอดตลาดในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผลการขายทอดตลาดรวม 2 นัด สามารถขายได้ 250 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 438,677,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประเมิน คิดเป็นร้อยละ 39.99 ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทราและชลบุรีมีมูลค่าทรัพย์ขายได้มากที่สุด ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายใหม่ ได้เข้าร่วมประมูลซื้อทรัพย์ ทำให้มีนักลงทุนสนใจทรัพย์สินของกรมบังคับคดีมากยิ่งขึ้น

 

       

          น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า การดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี กรมได้ประสานเจ้าหนี้กลุ่มใหม่และจัดมหกรรมการไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,954 เรื่อง ซึ่งทุนทรัพย์ที่สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 คิดเป็นร้อยละ 8.72 นอกจากนี้ ยังได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 12 ครั้ง ใน จ.สุราษฎร์ธานี อ.เบตง จ.ยะลา จ.ปัตตานี จ.กระบี่ จ.สตูล อ.นาทวี จ.สงขลา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ระนอง ซึ่งสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 1,930 เรื่อง ทุนทรัพย์ 220,315,184 บาท คิดเป็นร้อยละความสำเร็จ 98.92 %  ส่วนการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีร่วมกับ กยศ.ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส 2019 มีลูกหนี้เข้าร่วมไกล่เกลี่ย จำนวน 488 ราย สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จจำนวน 476 ราย ทุนทรัพย์จำนวน 28,246,824.08 บาท คิดเป็นไกล่เกลี่ยสำเร็จในอัตราร้อยละ 97.54

 

          "จากการขายทอดตลาดนอกสถานที่แลการขายทอดตลาดวันเสาร์พบว่ามีผู้สนใจเข้าประมูลซื้อทรัพย์เป็นจำนวนมาก เช่น การขายทอดตลาดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก การขายรอบแรกตามราคา 100 % ของราคาประเมิน ซึ่งมีการเสนอราคาและขายกันต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง ทำให้ขายได้สูงกว่าราคาประเมิน 40 และการขายทุกวันเสาร์ที่ทำให้ได้เงินกลับเข้าสู่ระบบถึง 5 พันล้านบาท แม้แต่สำนักงานบังคับคดีในจังหวัดเล็กๆ ก็มีกระแสตอบรับสูง ดังนั้น การขายทรัพย์ของบังคับคดีจะจำกัดอยู่ในสำนักงานไม่ได้แล้ว ภายในปีนี้มีโครงการที่จะขายทอดตลาดที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยจะนำทรัพย์ในจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี และนครนายก มาประมูล รวมถึงการจัดมหกรรมร่วมกับธนาคารกรุงไทยเทขายล้างพอร์ต 278 รายการ มูลค่าทรัพย์ 985 ล้านบาท เพื่อดึงเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ" อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าว

 

          น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า เพื่อดำเนินการเดินหน้าภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 นับจากวันที่ 1 ต.ค.62 หรือเริ่มต้นปีงบประมาณ 2563 กรมบังคับคดีจะไม่รับดำเนินการคำร้องที่เป็นเอกสาร โดยเลิกใช้กระดาษแต่จะจัดเจ้าหน้าที่ให้บริการกับเจ้าหนี้และลูกหนี้รายย่อยภาคประชาชนที่ยังไม่คุ้นชินกับระบบคอมพิวเตอร์ โดยทุกสำนักงานบังคับคดีจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์.

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ