ข่าว

ทบ.ยันดูแลว่าที่ทหารใหม่จับได้ใบแดงไม่มีคนดูแลยาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วินธัย" ยัน ทบ.ดูแลทหารใหม่ทุกคน เสมือนคนในครอบครัว เผย "ผบ.ทบ.-มทภ.1" สั่งการสัสดีในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมดูแลว่าที่ทหารใหม่จับได้ใบได้ไม่มีคนดูแลยาย

          19 เม.ย. 61 - สืบเนื่องจากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปวิดีโอ "เรื่องเล่าจากเกณฑ์ทหาร หนุ่มน้ำตาตก หลังได้ใบแดง ไม่มีคนดูแลยาย" นั้น ล่าสุด พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า 

       

         มีพบอยู่บ่อยครั้งที่น้องทหารใหม่แสดงออกถึงความกังวล เนื่องจากตนเองจะต้องเข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ส่วนใหญ่มักเป็นเฉพาะในช่วงแรกๆ เท่านั้น เพราะยังไม่มีข้อมูลเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ ภายในหน่วยทหารปัจจุบัน

 

          ทั้งนี้ในรั้วครอบครัวทหารยุคปัจจุบัน ทุกหน่วยจะมีการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาทุกมิติ โดยเฉพาะการให้ความใส่ใจต่อชีวิตความเป็นอยู่ภายนอกรั้วทหาร และให้ความสำคัญกับทหารทุกคนเสมือนเป็นญาติพี่น้องและคนในครอบครัวในทำนองที่ว่าญาติเขาก็เหมือนญาติเรา ที่ผ่านมาความกังวลในลักษณะนี้

 

          ทางหน่วยต้นสังกัด จะมีวิธีช่วยบริหารจัดการให้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด เชื่อว่าเมื่อทางหน่วยได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยแล้วสุดท้ายอาจไม่ถึงกับต้องเสียภารกิจในทางใดทางหนึ่งไป ไม่ว่าจะภาระทางราชการ หรือภาระทางครอบครัวที่จะมีเพื่อนทหาร และผู้บังคับบัญชาไปร่วมกันดูแล หรือบางกรณีทางหน่วย สามารถพิจารณาเสนอขอใช้ระเบียบการ ขอลาดูแลบุพการีได้ ทั้งนี้ถ้าจำเป็นจริงๆ

 

 

ทบ.ยันดูแลว่าที่ทหารใหม่จับได้ใบแดงไม่มีคนดูแลยาย

 

 

 

          ด้าน พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่11 (ผบ.มทบ.11) กล่าวว่า ตามที่ปรากฏคลิปวิดีโอในการตรวจเลือกชายไทยเข้ารับราชการทหาร แล้วจับได้ฉลากใบแดง ต้องเข้ารับราชการและร้องไห้เสียใจที่จะไม่มีคนดูแลยายของตน ซึ่งป่วยและอยู่คนเดียวนั้น ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ผู้เข้ารับการตรวจเลือกชื่อนายศักดิ์ฤทธิ์ ศรีสุนทร อยู่บ้านเลขที่ 59/3 ซอยเทอดไทย15 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ซึ่งวุฒิการศึกษาที่ลงไว้ คือปริญญาตรี แต่อยู่ระหว่างศึกษาโดยได้ขอผ่อนผันเพื่อการศึกษามาแล้วสองครั้ง และในครั้งนี้ได้ตัดสินใจขอยกเลิกการผ่อนผัน และเข้ารับการตรวจเลือก โดยสมัครใจเข้าจับฉลาก และจับได้ฉลากใบแดง คือทบ.ผลัดที่2 ซึ่งต้องรับราชการ 2ปีในผลัดที่ 2 เนื่องจากวุฒิที่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้คือปวช.โดยจะต้องเข้ารับราชการในเดือนพ.ย.นี้ ทั้งนี้นายศักดิ์ฤทธิ์มีภาระต้องดูแลยายอายุ 75 ปี 1คน และป้าอีกสองคน คือป้าที่มีอายุ 55 ปีมีอาการป่วย และป้าที่อายุ 48 ปีกับหลานชายอายุ16 ปีอีก1คนที่กำลังเรียนหนังสือ โดยรายได้ของครอบครัวมาจากการร้อยมาลัยของยายและป้ากับเจ้าตัวทำงานบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า สภาพครอบครัวมีฐานะยากจน ในกรณีนี้พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และพล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1  ได้ให้ความสนใจและสั่งการให้สัสดีในพื้นที่รับผิดชอบเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และเตรียมการดูแลอย่างเหมาะสมต่อไป

 

          "ยืนยันว่าการตรวจเลือกเป็นไปตามกระบวนการอย่างเปิดเผยและยุติธรรม ไม่ได้กลั่นแกล้งเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใด และเมื่อทราบปัญหาก็เร่งหาทางแก้ไขอย่างรวดเร็วในทุกราย อย่างไรก็ตามนายศักดิ์ฤทธิ์ จะเข้าประจำการ ที่หน่วยมทบ.11 ถ.พระราม 5 เขตดุสิต กทม. ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ ซึ่งหน่วยจะดูแล ทั้งตัวน้องทหารใหม่และยายให้เป็นอย่างดี เพื่อสร้างความสบายใจ คลายกังวล สามารถเข้ารับการฝึก และทำหน้าที่ของตนสมกับเป็นชายชาติทหารที่ได้ทำหน้าที่ของตนตามกฏหมายอย่างสมบูรณ์" พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว

 

          ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะดำเนินการอย่างดีที่สุด

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ