กาฬสินธุ์รำถวายพุทธบูชา 50 ปี พระพรหมภูมิปาโล

               14 เม.ย. 61  เมื่อเวลา 09.30 น.  ว่าที่ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ นายผ่าน จันโทศรี ผู้อาวุโสอำเภอสหัสขันธ์ เป็นตัวแทนชาวอำเภอสหัสขันธ์ ประกอบพิธีขอขมาและบูชา พระพุทธปฏิมากรพระพรหมภูมิปาโล (พระ พรม ภู มิ ปา โล) พระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 10.5 เมตร สูง 17.80 เมตร ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 346 เมตร

 

 

 

               เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อสร้างพระเพื่อเป็นมิ่งขวัญประชาชนที่อพยพมาตั้งรกรากจากอำเภอสหัสขันธ์เดิมมาอยู่ที่ปัจจุบัน โดยมีพระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ เจ้าอาวาสวัดพุทธาวาสภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายคณะสงฆ์
               โดยอำเภอสหัสขันธ์ เดิมตั้งอยู่ที่ ต.โนนศิลา จากโครงการก่อสร้างเขื่อนลำปาว ที่ริเริ่มในปี 2499 และเริ่มปิดกั้นน้ำในปี 2511 พร้อมกับการอพยพประชาชน จำนวน 1,000 ครัวเรือน มาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ ต.โนนบุรี ที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับภูเขาน้อยและใหญ่ โดยเขาภูสิงห์เป็นภูเขาที่สูงที่สุดของ จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ใหม่ ได้รับการจัดสรรที่ดินจากนิคมสร้างตนเองลำปาว โดยมีการสร้างบ้านเป็นลักษณะห้องแถวจากไม้ป่าโคกภูสิงห์ ให้สิทธิ์ครอบครัวละ 3 ห้อง มี 90 ครอบครัว ที่ปัจจุบันยังมีห้องแถวหลงเหลืออยู่สลับกับบ้านสมัยใหม่ และเพื่อเป็นการปลอบขวัญและสร้างกำลังใจให้กับชาวบ้าน นายบุรี พรหมลักขโณ อดีตผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ สมัยนั้น ได้สร้างพระพุทธปฏิมากร “พระพรหมภูมิปาโล” เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2511 เพื่อประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ หันพระพักตร์ทางทิศตะวันออก มองจากยอดเขาจะเห็นผังเมือง อ.สหัสขันธ์ อีกด้านเป็นเขื่อนลำปาว โดยมีวัดพุทธาวาสภูสิงห์เป็นผู้ดูแลบูรณะเขาภูสิงห์จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสถานที่จัดงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะช่วงออกพรรษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
               ดร.จำเริญ แก้วเพ็งกรอ ผอ.วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ กล่าวว่า วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ได้นำลูกหลานที่ส่วนหนึ่งก็เป็นชาว อ.สหัสขันธ์ มารำถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาพระคู่บ้าน คู่เมือง ของ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทางวิทยาลัยฯ ได้มีโอกาสขึ้นมารำถวายพระพรหมภูมิปาโล แม้ว่าวิทยาลัยฯ จะก่อตั้งมานานกว่า 30 ปีมาแล้ว และการได้ร่วมรำพร้อมกับชาวบ้านและสร้างความบันเทิงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังถือเป็นสิริมงคลแก่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรวิทยาลัยฯ อย่างมาก ที่ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.กาฬสินธุ์ และการสนองนโยบายรัฐบาล ในการเป็นเมืองรองท่องเที่ยวอีกด้วย