ประชาชนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์

       วันที่ 6 เมษายน 2561 วันแรกของการจัดงาน "เถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์ ตำนานไทย" ที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น เพื่อร่วมกันปลูกฝังความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณและอดีตพระมหาราช ส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของชาติ ระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน 2561 ตั้งแต่เวลา 14.00-21.00 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า โดยเวลา 17.00 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) จากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ไปประดิษฐานยังพลับพลาพิธีสนามเสือป่า 

       สำหรับบรรยากาศ ณ บริเวณจัดงาน แม้จะมีอากาศร้อนและแดดแรงจัด แต่มีประชาชนให้ความสนใจสวมใส่ชุดไทยและเสื้อลายดอกเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่เริ่มเปิดจุดคัดกรอง 3 จุด ได้แก่ 1. ตรงข้ามกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2. ข้างธนาคารทีเอ็มบีตรงข้ามวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และ 3. ถนนอู่ทองโค้งปั๊มน้ำมันปตท. ให้ประชาชนเริ่มทยอยเข้างานตั้งแต่เวลา 10.00 น. ส่วนจุดคัดกรองที่ 4 บริเวณเกาะกลาง ถนนราชดำเนินนอก เปิดในเวลา 18.00 น. ประชาชนที่มาร่วมงานจะต้องนำบัตรมาแสดงและตรวจสัมภาระที่บริเวณจุดคัดกรองก่อน ซึ่งที่บริเวณจุดคัดกรองมีการจัดเตรียมรถเข็นไว้บริการผู้สูงอายุที่มาร่วมเที่ยวชมงานด้วย

    
          นายคงศักดิ์ พิมพ์จันทร์ อายุ 60 ปี เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ โดยมาเพียงลำพัง บอกว่า ปกติเป็นคนชอบสวดมนต์ทำบุญอยู่แล้ว เมื่อทราบข่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ยพระราชกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9  และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า ตัวเองเห็นว่าเป็นวาระที่ดี จึงเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะอยากร่วมสวดมนต์กับคนจำนวนมากๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลถวายแด่พระมหากษัตริย์ทุกรัชกาลในราชวงจักรี  รวมถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขณะเดียวกันก็เป็นสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัวอีกด้วย ยิ่งพอได้มาสัมผัสบรรยากาศในงานวันนี้ยิ่งรู้สึกปีติใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าในวันข้างหน้าจะมีพิธีเช่นนี้ก็ตั้งใจว่าจะต้องมาร่วมอีกแน่ๆ 

       สำหรับการเดินทางมาในวันนี้ นายคงศักดิ์ บอกว่า ใช้บริการรถประจำทางจากสมุทรปราการต่อเดียวถึงบริเวณจัดงานเลย โดยตัวเองเลือกเวลาออกจากบ้านเร็วกว่าปกติ คือออกจากบ้านเวลา 11.00 น. มาถึงก่อนก็นั่งอ่านหนังสือสวดมนต์รอไปเรื่อยๆ จนกว่าพิธีการจะเริ่ม ถึงแม้ว่าวันนี้สภาพอากาศค่อนข้างร้อนก็ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกตน คิดอย่างนี้ก็ไม่รู้สึกว่าทรมานใดๆ

นางเลิศลักษณ์ แก้วสถิตย์ (ขวา)

       ทางด้าน นางเลิศลักษณ์ แก้วสถิตย์ อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวบ้านจากย่านสว่างวงศ์ เดินทางมาร่วมเที่ยวชมงาน พร้อมเพื่อนรวม 3 คน เผยว่า เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการจัดงานจากทางโทรทัศน์ก็อยากมาร่วมงานมาก เพราะรู้สึกประทับใจคั้งแต่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว จึงเดินทางจากบ้านด้วยรถโดยสารประจำทางและเข้าจุดคัดกรองที่บริเวณวัดเบญจมบพิตรดุสิตาราม โดยซื้อเสื้อลายดอกเพื่อใส่มาร่วมงานโดยเฉพาะ เมื่อเข้ามาบริเวณงานรู้สึกประทับใจในบรรยากาศ มีจุดให้ถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ มีความสุขที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจัดงานแบบนี้ขึ้น เพราะส่วนตัวอายุมากแล้วไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ ไม่ค่อยได้ ถ้าหลังจากนี้มีการจัดงานลักษณะนี้อีกก็จะมาอีก สำหรับวันนี้นอกจากมาเที่ยวชมงานแล้วยังตั้งใจมาร่วมสวดมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชของไทย รวมถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 แบะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย 

           นางจินดารัตน์ ประสานศักดิ์ จ.ปทุมธานี อายุ 63 ปี กล่าวว่า เดินทางจาก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ถึงสนามเสือป่าเวลา 14.00 น. เพื่อร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์และสักการะพระชัย(หลังช้าง) เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และในครั้งนี้ได้แต่งกายชุดไทยย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 มาร่วมในพิธี ขอเป็นส่วนหนึ่งสืบสานพระราชดำริในการอนุรักษ์ผ้าไทยตามรอยพระราชินีในรัชกาล 9 ทรงฟื้นฟูผ้าไหมไทยและพัฒนาจนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอมรับไปทั่วโลก นอกจากตนแล้วประชาชนที่มาร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และงานเถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์ ตำนานไทย ก็สวมผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เสื้อลายดอกมาเที่ยวงาน แสดงออกถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ก่อนหน้านี้ ก็ได้มาร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว ทุกงานที่ในหลวง ร.10 ทรงจัดขึ้นอยากให้คนไทยรักและสามัคคีกัน เหมือนที่พระองค์รักพสกนิกร 

       นางทับทิม เสาเฉลิม จ.กรุงเทพฯ อายุ 65 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจากบ้านพักย่านนวมินทร์มาถึงที่ลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่าตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมาคนเดีย สวมใส่ผ้าไทยและนุ่งซิ่น ความตั้งใจในครั้งนี้จะร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์และถวายพระพรชัยมงคลราชินีในรัชกาลที่ 9 อยากให้พระองค์มีพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาทรงประกอบพระราชกรณียกิจทั่วทุกภาค ส่งเสริมผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น จากที่จะสูญหายก็กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง รวมถึงปัจจุบันมีคนไทยหันมาใส่ผ้าไทยกันคึกคักเป็นภาพที่สวยงาม  วันนี้มาร่วมสวดมนต์ วันที่ 7-8 เม.ย. ก็จะมาเที่ยวงานเถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์อีก เพราะมีทั้งนิทรรศการประเพณีสงกรานต์  การก่อพระเจดีย์ทราย จะมาทุกวัน ตอนที่มีงานอุ่นไอรักก็มา ดอกไม้สวยงามมาก 

          

         ทั้งนี้สื่อสื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้างานที่พระลานพระราชวังดุสิต มีสระน้ำพุตกแต่งด้วยขันเงินจำลองขนาดใหญ่ได้รับความสนใจจากประชาชนมาร่วมถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับบริเวณพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีการตกแต่งด้วยเจดีย์ทรายและกองทราย รอบๆ จัดแสดงนิทรรศการความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์ รวมไปถึงกิจกรรมถ่ายภาพ 3 มิติ กิจกรรมสาธิตการสานปลาตะเพียน การปรุงเครื่องหอม การทำอาหารและขนมไทยที่หารับประทานได้ยาก และกิจกรรมถ่ายภาพย้อนยุค ส่วนภายในสนามเสือป่ามีโซนร้านอาหารจากร้านค้าต่าง ๆ

         
       ส่วนเส้นทางสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมายังบริเวณงานมีการจัดรถรับส่งบริการ 6 เส้นทางตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น. ได้แก่ 1. สถานีขนส่งจตุจักร-แยกอู่ทองใน-สถานที่จัดงาน 2. วงเวียนใหญ่-แยกวัดแดง-สถานที่จัดงาน 3. สนามม้านางเลิ้ง-แยกวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม-สถานที่จัดงาน 4. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-แยกวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม-สถานที่จัดงาน 5. สนามหลวง-กระทรวงศึกษาธิการ-สถานที่จัดงาน และ 6. สถานีรถไฟหัวลำโพง-กระทรวงศึกษาธิการ-สถานที่จัดงาน

       สำหรับวันที่ 7 เมษายน 2561 เวลา 13.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธกำเนิดกาสาวพัตร์ จากพระราชวังพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ไปประดิษฐานยังบุษบกพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล