ข่าว

'ครูปรีชา'นัดสื่อบุก'ก.ยุติธรรม-สภาทนายความ'พรุ่งนี้!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ครูปรีชา เตรียมควงทนายเดินหน้าบุก ก.ยุติธรรม-สภาทนายความ พรุ่งนี้

 

               ครูปรีชา เตรียมควงทนายเดินหน้าบุก ก.ยุติธรรม พ่วง สภาทนายความ พรุ่งนี้ (21 มี.ค.61) ก่อนตั้งโต๊ะแถลง นัดสื่อทุกแขนงพร้อมกันที่หน้ากระทรวงยุติธรรม สุดอึ้งชายชุดขาว ชาวปราจีนบุรีบุกพบ เจอหน้าก้มกราบแทบเท้า ครูปรีชาก้มรับไหว้แทบไม่ทัน เผยที่มาต้องการพบคู่กรณีหวย 30 ล้านอลเวงทั้งคู่ เอ่ยขอไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะได้ไหม

               กรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ข้าราชการเกษียณตำรวจที่ฟ้องร้องแย่งเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 คู่ 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

               ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 143/22 บ้านทุ่งนา ซอย 5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ซึ่งเมื่อไปถึงพบครูปรีชา อยู่ภายในบริเวณบ้านกับพี่สาว และกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปโรงเรียน และเมื่อครูปรีชาพบสื่อมวลชน ก็ได้เดินออกมาต้อนรับ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามถึงประเด็นต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาได้มีการพูดคุยหรือปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีกับนางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว พยานคนสำคัญแล้วบ้างหรือยัง ซึงครูปรีชา ตอบว่ายังไม่ได้พูดคุยกันเลย เนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีเวลาเพราะต้องทำมาหากิน

               โดยในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.61) ครูกับทนายความจะเดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในหลายๆ เรื่อง โดยจะไปร้องเรียนที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม คาดว่าคงจะเดินทางไปถึงในเวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากนั้นก็จะทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้ากระทรวงยุติธรรม ดังนั้นจึงฝากไปถึงสื่อมวลชนจากส่วนกลางทุกคนว่า ผมจะไปร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงยุติธรรมในเรื่องของคดีความ จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนไปพบกันในเวลาประมาณ 09.00 น.

               ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้แล้วครูยังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของครู ครูปรีชาตอบว่า คือจริงๆ แล้วลอตเตอรี่นั้นเป็นของครู แต่ไปอยู่ในกระเป๋าของคนอื่น ถามหน่อยนะครับว่าคนเป็นครู เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ถึง ซี 8 จะไปตู่เอาลอตเตอรี่ที่อยู่ในกระเป๋าของคนอื่นได้ยังไง สมมติว่าไปตู่เอาลอตเตอรี่เขาแล้วจะได้ประโยชน์อะไร แต่นี่คือสิ่งที่เราทำลอตเตอรี่หล่นหาย และสิ่งที่ลุงจรูญไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาไปซื้อจากใครมา ซื้อมาจากตรงไหน เพราะลอตเตอรี่ที่มาถึงมือเจ๊บ้าบิ่น เป็นมือสุดท้าย แล้วเจ๊บ้าบิ่น ก็เป็นคนส่งมาให้ผม ดังนั้นลุงจรูญ จึงหาที่มาของการซื้อลอตเตอรี่ไม่ได้ เพราะคนขายคนสุดท้ายคือเจ๊บ้าบิ่น และบอกได้เลยนะครับว่า ลอตเตอรี่เลข 26 ฉบับนี้ วันที่ 31 ต.ค.60 ไม่มีวางอยู่บนแผง ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน ซึ่งต้องมีลูกค้าสั่งเท่านั้นจึงจะได้ลอตเตอรี่ชุดนี้และคนๆ หนึ่งที่เป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จะไปโกหกหรือไปตู่เอาลอตเตอรี่ในกระเป๋าของคนอื่นได้อย่างไร โดยสมมติว่าถ้าเขามีที่มาที่ไปและสามารถพิสูจน์ได้ก็ติดคุกสิครับ

               แต่ในตอนนี้เรื่องยังไม่ถึงในกระบวนการศาลเลย ครูก็โดนสังคมประณามแล้วว่าเป็นคนโกหกและเป็นครูที่ไม่ดี แต่ก็ไม่เป็นอะไร ขอให้รอกระบวนการตัดสินของศาล และเมื่อศาลตัดสินเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รู้ว่าคนไหนเป็นคนถูกหรือคนผิด ซึ่งลอตเตอรี่นั้นมีเส้นทางที่มาที่ไปเริ่มตั้งแต่ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว มาจนถึงผู้ขายคนที่ 1 และคนที่ 2 นี่คือที่มาที่ไป แล้วขอถามว่าฝ่ายโน้นมีที่มาที่ไปตรงไหน นี่คือคำตอบที่ครูอยากจะบอกกับสังคม ซึ่งผมยอมรับและให้เกียรติกับความคิดเห็นของผู้คนในสังคมทั้งประเทศไทย ที่เขาจะต่อว่า หรือตำหนิติเตียนผม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้สังคม ได้มองกว้างๆ สักนิดหนึ่งว่า ครูคนหนึ่งเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ระดับ ซี 8 จะไปโกหกมดเท็จเพื่อไปเอาลอตเตอรี่หรือเงินในกระเป๋าของคนอื่นได้อย่างไรและจะทำไปทำไม ถ้าไม่ใช่ของตัวเอง

               ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าฝั่งโน้นเริ่มรู้อะไร จึงชวนครูไปพบนายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางออกแบบวินวิน ครูปรีชาตอบว่า ประเด็นนี้ครูไม่ทราบเรื่องจิตใจของเขา ซึ่งจิตใจของเขาเป็นอย่างไรผมไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือเขานัดว่าจะไปพบท่านายกรัฐมนตรี ซึ่งผมก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าท่านนายกรัฐมนตรีมาภาระงานเยอะ ซึ่งเราสามารถที่จะไกล่เกลี่ยในชั้นศาลได้

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ขอให้ครูปรีชา เล่าลำดับเหตุการณ์วันที่ไปซื้อลอตเตอรี่เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า ในวันดังกล่าว แผงลอตเตอรี่ของเจ๊พัช เจ๊เกียว รวมทั้งแผงลอตเตอรี่ของเจ๊บ้าบิ่น ตั้งอยู่ในลักษณะอย่างไร ซึ่งครั้งแรกครูปรีชาบอกว่า จะยังไม่ขออธิบาย โดยจะไปอธิบายให้ผู้สื่อข่าวทราบพร้อมกันในการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับขอตัวเดินทางไปโรงเรียนก่อน

               แต่ระหว่างที่ครูปรีชาพูดคุยกับสื่อมวลชนในพื้นที่ สุดท้ายแล้วครูปรีชาก็ได้เล่าลำดับเหตุการณ์ว่า วันที่ครูมารับลอตเตอรี่กับเจ๊บ้าบิ่นในวันดังกล่าวนั้น แผงขายลอตเตอรี่ตั้งเรียงกันอยู่ 5 แผง โดยเจ๊พัช ตั้งอยู่ขวามือสุด ส่วนแผงที่ 2-3 เป็นแผงของเจ๊เกียว แผงถัดไปเป็นของเจ๊ซิ้ม และอีก 1 แผงที่ถึดไปจากเจ๊ซิ้มก็คือแผงของเจ๊บ้าบิ่น แต่เมื่อครูไปถึงก็พบว่าเจ๊ซิ้มไม่อยู่ที่แผง เพราะไปเดินเล่นภายในตลาดนัดตลาดเรดซิตี้

               ซึ่งเมื่อเจ๊พัชเห็นครูเดินมา ก็ได้ตะโกนบอกให้เจ๊บ้าบิ่นนำลอตเตอรี่ที่ครูสั่งจองไว้ส่งให้ครู เมื่อครูได้รับลอตเตอรี่แล้ว ครูจึงจ่ายค่าลอตเตอรี่ให้กับเจ๊พัช แต่เจ้พัช บอกครูให้ไปจ่ายกับเจ๊บ้าบิ่น เพราะเจ๊บ้าบิ่นได้จ่ายแทนครูไปแล้วถามว่าลอตเตอรี่หล่นหายที่ไหนนั้นครูไม่ทราบ

               ส่วนเรื่องการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ของครูที่ทางกองปราบเป็นหน่วยงานตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณ แต่ก่อนหน้านี้ที่ทางตำรวจภาค 7 ตรวจสอบ พบว่ามีสัญญาณที่ตลาดเรดซิตี้ นี่คือที่มาของการที่จะเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมในวันพรุ่งนี้

 

'ครูปรีชา'นัดสื่อบุก'ก.ยุติธรรม-สภาทนายความ'พรุ่งนี้!!

 

               สำหรับเรื่องของผู้การฯ กาญจนบุรี ผู้การเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เป็นเรื่องอะไรที่ทุกคนงงกันมาก จึงรู้สึกสงสารท่าน เพราะไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร ผมก็ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะเราก็ไม่ทราบว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไร แต่ผมกับผู้การเจอกันแค่สองครั้งคือร้อยเวรเป็นคนพาไปเพื่อให้ชี้แจงและเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปให้ท่านผู้การฟัง ก็เลยอยากจะฝากกับสังคมว่า ในเมื่อมีที่มาที่ไปขนาดนี้ ทำไมลุงจรูญจึงหาคนขายให้ไม่ได้ เพราะคนขายก็คือคุณบ้าบิ่น และเขาก็ไล่ที่มาที่ไปของลอตเตอรี่หมดแล้ว

               ผู้สื่อข่าวถามว่า ครูยังมั่นใจอยู่ใช่หรือไม่ ครูปรีชาตอบว่า นี่ก็คือสิ่งที่มันเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องความมั่นใจ แต่เรียกว่าความจริงที่เราบอกมา จึงงอยากให้ลุงจรูญ ไปจำลองเหตุการณ์แบบเราบ้าง ว่าลุงจรูญซื้อลอตเตอรี่มายังไง เมื่อมาถึงตลาดนัดแล้วลุงจรูญอยู่ตรงไหน เพราะวันที่ลุงจรูญมาชี้จุด ในวันนั้นไม่มีตลาดนัด ซึ่งวันอังคาร กับวันศุกร์ ตลาดเรดซิตี้จะมีตลาดนัด ก็ขอเรียนเชิญลุงจรูญนะครับ ขอให้ไปชี้สถานที่หน่อย เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคม โดยที่ผ่านมาผมก็พยายามทำความกระจ่างให้กับสังคมมาโดยตลอด

               ผู้สื่อข่าวถามว่า สมมติว่า เมื่อคดีไปถึงชั้นศาลแล้ว หากผลตัดสินพลิกกลับมาเป็นของครูปรีชา ตรงนี้ครูปรีชาจะดำเนินการอย่างไรกับทางหมวดจรูญ ครูปรีชาตอบว่าเรื่องนี้ครูเคยบอกเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า ที่จริงแล้วครูไม่ได้โกรธลุงจรูญ และไม่ได้มีอะไรกับการกระทำของคุณลุง เพราะเราต่างก็เป็นคนเมืองกาญจน์ด้วยกัน ซึ่งก็จะอโหสิกรรมให้กันอยู่แล้วถึงแม้เรื่องจะเป็นอย่างไร

               “แต่สำหรับตอนนี้ผมโดนสังคมเล่นงานผมทางโลกโซเชียลเยอะแยะไปหมด ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดจากการกระทำของ”ทนายความ“ฝั่งโน้นด้วย และสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมจะเดินทางไปร้องเพื่อขอความเป็นธรรม โดยในวันพรุ่งนี้นอกจากจะไปร้องขอความเป็นธรรมจากกระทรวงยุติธรรมแล้ว ผมจะไปร้องขอความเป็นธรรมที่สภาทนายความด้วย ดังนั้นฝากสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวออกไปว่าผมจะไปร้องในสิ่งที่ผมถูกละเมิดหลายๆ อย่างกับ”ทนายความ“ฝั่งโน้น”ครูปรีชา เผย

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ครูปรีชา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแล้วเสร็จ ขณะที่กำลังยืนเล่นอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน อยู่ๆ ก็มีชายสูงอายุ แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างมาจอดที่หน้าบ้านใกล้กับครูปรีชา ชายสูงวัยคนดังกล่าวได้ถามว่า ใช่ครูปรีชาหรือไม่ ครูปรีชาก็ได้ตอบกลับว่าใช่ ชายคนดังกล่าวจึงลงมาจากรถพร้อมหิ้วถุงสะพายผ้าสีขาวเดินเข้ามาหา เมื่อมาถึงก็ได้ก้มกราบแทบเท้าของครูปรีชาทันทีทำให้ครูปรีชานั้นตั้งตัวและรับไหว้แทบไม่ทัน

               โดยชายชราคนดังกล่าวบอกกับครูปรีชาว่า ตนจบนักธรรมเอก เดินทางมาจากอำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และคืนที่ผ่านมาได้หลับนอนอยู่ที่ศาลาวัดไชยชุมพลชนะสงครามหรือวัดใต้ จนกระเช้าจึงได้จ้างรถจักรยานยนต์ให้ช่วยนำพามาหาครูปรีชาที่บ้าน ตามที่อยู่ที่จดเอาไว้ในกระดาษ ที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์

               ซึ่งครูปรีชาก็ได้นั่งคุยกับชายชราคนดังกล่าวอย่างเป็นกันเอง ถึงแม้จะเป็นคนที่มีลักษณะที่ออกจะเพี้ยนๆก็ตาม แต่การพูดจาของชายชราคนดังกล่าว ดูแล้วเป็นคนพูดจาออกไปทางธรรมะ และได้บอกกับครูปรีชาว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้มาหาครูปรีชาเพียงคนเดียว แต่จะไปพบหมวดจรูญด้วย ซึ่งชายคนดังกล่าวได้พูดคุยกับครูปรีชาตอนหนึ่งว่า การมาครั้งนี้ก็เพื่อขอร้องให้คู่กรณีทั้งคู่ ได้มาตกลงกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้มาตกลงกันโดยที่ไม่มีผู้แพ้หรือผู้ชนะได้ไหม

               แต่สุดท้ายแล้วชายชราคนดังกล่าว ก็ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองให้ครูปรีชาฟังไปต่างๆนาๆ แต่บทสรุปสุดก็ขอจะขออาศรัยครูปรีชาอยู่ที่บ้านชั่วคราว ซึ่งครูปรีชาก็ได้ตอบปฏิเสธ เพราะว่าที่บ้านมีพี่สาวอยู่เพียงคนเดียว จึงให้อยู่ด้วยไม่ได้ แต่ครูปรีชาได้เสนอไปว่า จะเช่าห้องพักให้อยู่ แต่ชายคนดังกล่าวได้ปฏิเสธที่จะไปนอนพักที่โรงแรม โดยขอให้ครูปรีชา ช่วยพาไปนอนที่วัดไหนก็ได้ แต่จะไม่ขอนอนที่โรงแรมเด็ดขาด

               นอกจากนี้ครูปรีชายังได้ส่งเงินให้ชายชราคนดังกล่าวเพื่อเอาไว่ติดตัวเป็นค่าใช้จ่าย แต่ก็ถูกปฏิเสธพร้อมกับบอกว่า ผมไม่ต้องการเงิน เพราะผมมีเงินอยู่แล้ว ดังนั้นครูปรีชา จึงรบกวนให้สื่อมวลชน นำชายคนดังกล่าวไปรอที่วัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง หรือวัดเหนือ โดยหลังจากครูปรีชาไปเซ็นต์ชื่อที่โรงเรียนเทพมงคลรังสี ที่อยู่ตรงข้าวกับวัดแล้วเสร็จ จะไปพบ และจะไปหาเจ้าอาวาส เพื่อขอฝากชายคนดังกล่าวเอาไว้ที่วัด

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชายชราคนดังกล่าวไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวมาด้วย มีเพียงสำเนาบัตรประชาชนที่ถ่ายเอกสารมาด้วยเท่านั้น จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวคือนายคณิต ตะเภาพงษ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรีซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การมาครั้งนี้ครอบครัวรู้เรื่องหรือไม่ ซึ่งนายคณิต บอกว่า ตนหนีออกจากบ้านเพื่อต้องการมาพบครูปรีชา และหมวดจรูญ โดยที่ภรรยาและลูก ไม่มีใครทราบเรื่อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ