วางแนวกันโกง ป.ป.ท.นัดหารือ พม.พรุ่งนี้

          21 มี.ค. 61 - พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือคนยากไร้ของศูนย์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศว่า ในการลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นครพรม ที่มีผอ.โรงเรียนเป็นแกนนำจัดการประชุมซักซ้อมกับชาวบ้านให้ความช่วยเหลือผอ.ศูนย์คนไร้ที่พึ่งเพื่อให้พ้นผิด ล่าสุดพบชาวบ้านในพื้นที่ถูกกดดัน โดยมีการสอบถามกับบุตรหลานที่ศึกษาในโรงเรียนที่ผอ.คนดังกล่าวสังกัดอยู่ว่าจะย้ายบุตรหลานไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอื่นเมื่อไร ซึ่งป.ป.ท.ได้หารือประเด็นดังกล่าวกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและนายอำเภอให้ช่วยดูแล เบื้องต้นอาจขอให้ผู้ว่าฯ ย้ายผอ.โรงเรียน ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น และประสานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้ส่งทหารเข้าดูแลประชาชน 

          “สำหรับผอ.โรงเรียนคนดังกล่าว จากข้อมูลที่ได้รับรายงานพบว่าทางโรงเรียนเคยขอทุนการศึกษาจากศูนย์คนไร้ที่พึ่งให้กับนักเรียน แต่โรงเรียนจ่ายเงินให้นักเรียนไม่ครบ เพราะกันเงินไปบริหารจัดการด้านอื่นๆ ของโรงเรียน ในส่วนนี้ป.ป.ท.จะเข้าไปตรวจสอบแยกเป็นอีก 1 สำนวน” พ.ท.กรทิพย์ กล่าว

          พ.ท.กรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเส้นทางการเงินจากการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง หากตรวจสอบพบเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูง ป.ป.ท.จะส่งให้ป.ป.ช.ดำเนินการ เนื่องจากอยู่นอกเหนืออำนาจของป.ป.ท. โดยระหว่างนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดจนกว่าจะมีความชัดเจน แต่เบื้องต้นพบร่องรอยการทุจริตทั้งในรูปแบบเงินสดและโอนเข้าบัญชี ส่วนการตรวจสอบนิคมสร้างตนเอง ในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) คณะกรรมการป.ป.ท.จะประชุมพิจารณาส่งสำนวนทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งของนิคมสร้างตนเอง 4 แห่งไปให้ ป.ป.ช.ไต่สวน เนื่องจากผอ.นิคมฯ เป็นระดับผู้อำนวยการต้น ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของป.ป.ช.ว่าจะตรวจสอบเฉพาะ 4 นิคมที่ ป.ป.ท.ส่งสำนวนไปให้หรือจะปูพรมตรวจสอบทั้ง 43 นิคม เหมือนกันที่ป.ป.ท.ขยายผลตรวจสอบหลังพบการทุจริตที่จ.ขอนแก่น

          แหล่งข่าวจากป.ป.ท.เปิดเผยว่า สัดส่วนที่เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจะคำนวณจากจำนวนประชากรเป็นหลัก โดยประเมินว่าในแต่ละจังหวัดจะมีผู้ยากไร้ 14 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ส่วนการจ่ายเงินสงเคราะห์จะมีระเบียบเฉพาะเจาะจงเพื่อให้การจ่ายเงินรัดกุม เช่น การกำหนดให้จ่ายตรงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้สัมภาษณ์และพบตัวชาวบ้านเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้ยากไร้จริง แต่ระเบียบดังกล่าวกลับถูกใช้เป็นช่องทางการทุจริต รวมถึงการสำรวจผู้จากไร้ ซึ่งให้อำนาจองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เป็นผู้สำรวจ เพราะเป็นหน่วยงานท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ แต่ปรากฏว่ามีการสำรวจข้อมูลอันเป็นเท็จ และเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบข้อเท็จจริงตรงกันข้ามกับแบบสำรวจ ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ป.ป.ท.จะประชุมหารือร่วมกับอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พ.ส.) เพื่อประสานข้อมูลวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ในปีงบประมาณ 61 และประสานข้อมูลให้กระทรวงพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ใช้ตรวจสอบความผิดทางวินัย.