'ฝนหลวง'บินเติมน้ำ 5 เขื่อนหลักแก้ภัยแล้ง

 

               วันนี้ (21 มี.ค.61) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในกองบิน 1 จ.นครราชสีมา นายสินชัย พึ่งตำบล ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ได้มีแผนบินปฏิบัติการทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตร และภารกิจในการเติมน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

 

               โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง 2 แห่ง ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดนครราชสีมา และมีฐานเติมสารฝนหลวงเพิ่มขึ้นอีก 1 ฐาน ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงให้ครอบคลุมทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด การปฏิบัติการฝนหลวงนอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นกับป่าไม้ ยังเป็นการเติมน้ำให้เขื่อนหลักทั้ง 12 เขื่อนด้วย โดยเฉพาะเขื่อนหลัก 5 แห่ง ในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจากผลปฏิบัติการฝนหลวง ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2561 ทำให้ขณะนี้เริ่มมีน้ำไหลลงเขื่อนบ้างแล้ว

 

 

               สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก 5 แห่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา วันนี้ (21 มี.ค. 61) สำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา รายงานว่า น้ำในเขื่อนทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ที่มากกว่าปีที่ผ่านมา ประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร , เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมด 118 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 76 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร , เขื่อนมูลบน อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมด 89 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร , เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งหมด 142 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 52 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ 75 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 77 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร