ผวา !! ควายถูกกัดคลุ้มคลั่งร้องโหยหวนคล้ายหมาหอน

 

               18 มี.ค. 61  ชาวบ้านในตำบลสะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หวาดผวาโรคพิษสุนัขบ้า หลังจากควายเพศเมียอายุกว่า 10 ปี ของชาวบ้าน บ้านโคกหลุมเงิน ม.7 ต.สะเดา ถูกสุนัขกัดเมื่อปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งหงุดหงิดไล่ขวิดเจ้าของและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ทั้งส่งเสียงร้องโหยหวนคล้ายกับเสียงเห่าหอนของสุนัข เชื่อว่าควายตัวดังกล่าวติดเชื้อพิษสุนัขบ้าอย่างแน่นอน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มาตรวจสอบก็พบว่าควายตัวดังกล่าวมีอาการในลักษณะดังกล่าวติดต่อกัน 4 วัน ก่อนจะล้มตายลง สงสัยว่าน่าจะติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า เบื้องต้น จึงได้ให้เจ้าของนำซากควายตัวดังกล่าวฝังกลบแล้วโดยใช้รถแบคโฮขุดฝังและโรยทับด้วยปูนขาวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคด้วย ถึงแม้จะยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าควายตัวดังกล่าวติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือป่วยตายด้วยสาเหตุอะไร ส่วนสุนัขตัวที่กัดควายทราบว่าก่อนหน้านี้ก็ได้ไล่กัดเป็ดไก่ตายแล้วหลายตัว จึงได้ฆ่าทำลายซากไปแล้ว โดยไม่ได้ส่งไปตรวจ

               นายสมบัติ ประสิทธิกุล เจ้าของควาย บอกว่า มีควายทั้งหมด 12 ตัว ตัวที่ตายเป็นเพศเมียอายุประมาณ 10 ปี โดยเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีสุนัขมาไล่กัดเป็ดไก่ตาย แล้วมากัดขาควายของตนเอง แต่ไม่ได้สนใจ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ต่อมาได้ข่าวว่ามีชาวบ้านฆ่าสุนัขตัวที่มาไล่กัดตายแล้ว เพราะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตว่าควายมีอาการผิดปกติ ส่งเสียงร้องทั้งคืน ไม่กินหญ้า เวลาเข้าใกล้ก็จะแสดงอาการหงุดหงิด จะไล่ชน จึงแจ้งปศุสัตว์มาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ให้เฝ้าดูอาการ หลังจากนั้นควายก็เริ่มส่งเสียงร้องคล้ายเสียงเห่าหอนเหมือนสุนัข และดุร้าย เป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน พอวันที่ 4 ก็ล้มตายลง จากนั้นตนจึงจ้างรถแบคโฮฝังกลบ ในราคา 4,000 บาท และโรยปูนขาวตามคำแนะนำของปศุสัตว์ ส่วนตัวเองและพ่อตาซึ่งสัมผัสกับควายตัวดังกล่าวก็ได้ไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย โดยหมอนัดให้ไปฉีดให้ครบ 4 ครั้ง

               นายอัมพล พัวพัฒนกุล ปศุสัตว์อำเภอนางรอง พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมแนะนำชาวบ้านห้ามนำเนื้อวัว ควายที่ป่วยตายผิดปกติ ไปบริโภคอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย ส่วนกรณีควายที่ถูกสุนัขกัดแล้วล้มตายนั้น ถึงแม้จะยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่าติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือไม่ เพราะอาการที่แสดงออกคล้ายหลายโรค คือ โรคพิษสุนัขบ้า โรคเฮโมรายิกเซฟติซีเมีย (คอบวม) โรคไข้หลังแข็ง ก็ต้องดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง โดยจะทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมวในรัศมี 1 กิโลเมตร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ