ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก 7 เดือน ไม่รอลงอาญา "เสี่ยขาว" ไม่ยื่นเสียภาษีเหล้ากว่า 85 ล้าน ชี้ เป็นเจ้าของซานติก้าผับ มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิต
ต่อมา "เสี่ยขาว" จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้อง ซึ่งมีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อปลายปี 2558 โดย "ศาลอุทธรณ์" พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันไม่ยื่นแบบรายการภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิตประจำเดือน ม.ค.48 - ธ.ค.51
อัยการโจทก์ จึงยื่นฎีกา เพื่อให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย
โดยวันนี้ "นายวิสุข หรือเสี่ยขาว" สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีดำ เดินทางมาศาลกับทนายความ พร้อมฟังคำพิพากษาศาลฎีกาตามกำหนดนัด ซึ่งมีผู้ติดตามมาให้กำลัง 2-3 คนด้วย ขณะที่ "เสี่ยขาว" มีสีหน้าเรียบเฉย
ทั้งนี้ "ศาลฎีกา" ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว เห็นว่า พยานบุคคลและพยานเอกสารที่โจทก์นำสืบมารับฟังประกอบกันฟังได้ว่า แม้บริษัทไวท์แอนด์บราเธอร์ส (2003) จำกัด จะจดทะเบียนเปลี่ยนตัวกรรมการผู้มีอำนาจจากจำเลย เป็นบุคคลอื่นแล้ว แต่จำเลยยังคงเข้าไปดูแลกิจการของสถานบริการซานติก้าผับแต่เพียงผู้เดียวทั้งด้านบริการลูกค้าและด้านการเงิน การจ่ายเงินเดือนพนักงานร่วมกับผู้ถือหุ้นอื่นด้วย และยังสั่งจ่ายเงินจากบัญชีบริษัทเป็นค่าใช้จ่ายสถานบริการซานติก้าผับ โดยเมื่อมีรายได้จากการดำเนินงานก็จะนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของจำเลย
จึงแสดงให้เห็นว่า จำเลยยังคงเป็นเจ้าของสถานบริการซานติก้าผับ ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการ ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2527 ม. 4 จำเลยจึงต้องมีหน้าที่ยื่นแบบรายการภาษีสรรพสามิต และชำระภาษีสรรพสามิต การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิด
ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการซานติก้าผับ หรือร่วมกับ บริษัทไวท์ แอนด์บราเธอร์ส (2003) จำกัด และไม่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบรายการภาษีสรรพสามิตและชำระภาษีสรรพสามิตนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
จึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรสามิต พ.ศ.2527 มาตรา 4 ,48(2) , 164 ฐานไม่ยื่นแบบภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีสรรพสามิต ให้จำคุก 4 กระทง โดยจำคุก 1 เดือน สำหรับความผิดที่เกิดขึ้นในปี 2558 ตามที่อัยการโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานการไม่ยื่นแบบรายการภาษีและไม่ชำระภาษีของเดือน พ.ย.และ ธ.ค. ส่วนความผิดอีก 3 กระทงฐานไม่ยื่นแบบภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ให้จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 7 เดือน ขณะที่การกระทำของจำเลยนั้นไม่สมควรรอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้เมื่อฟังคำพิพากษาฎีกาแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ก็เตรียมนำตัว "เสี่ยขาว" ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ถึงที่สุดแล้วต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ "นายวิสุข หรือเสี่ยขาว" นอกจากคดีหลบเลี่ยงภาษีแล้ว ก่อนหน้านี้ได้รับโทษจำคุก 3 ปีฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ที่เป็นบทหนักสุด ตามคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งถึงที่สุดแล้ว ในคดีที่ถูก "อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้" ยื่นฟ้องเป็นจำเลย ร่วมกับพนักงานดูแลสถานบันเทิงดังกล่าว และนักร้องกับบริษัทรับจ้างติดตั้งไฟและจัดดอกไม้เพลิง รวม 7 คนต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีเกิดเพลิงไหม้ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย คืนวันที่ 31 ธ.ค.51 จนเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย 67 คน บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส 103 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง