พายุฤดูร้อนกระหน่ำสองหมู่บ้านควายแม่ลูกอ่อนถูกฟ้าผ่า

 

               8 มี.ค. 61  ที่ บ้านตะเคียน หมู่ 8 บ้านหนองบัวใหญ่ หมู่ที่ 2 ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์  เกิดพายุฤดูร้อนฝนตกหนักกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา แรงลมพัดเอาหลังคาบ้านเรือนของประชาชนหลุดลอยไปตามแรงลม ไปติดตามต้นไม้ เสาไฟฟ้า และกลางทุ่งนา ระยะทางกว่า 200 เมตร นอกจากนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ พัดลม ยังถูกน้ำฝนได้รับความเสียหายใช้การไม่ได้หลายหลังคาเรือน

               นางสำรวย เภาหอม อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 27 บ้านหนองบัวใหญ่ เผยว่า ช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ตนเองอยู่กับสามีที่บ้าน เกิดมีลมและฝนตกลงมาอย่างแรงประกอบกับมีลมหมุนพัดเอาสิ่งของต่างๆ หลุดไปกับแรงลม ตนเองทำอะไรถูกได้แต่กอดสามีไว้ กลัวมาก และพากันหาที่หลบเอาตัวรอดภายในบ้านและเกรงว่าบ้านจะถล่มลงมาทับ ตนเองกราบพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ขอบุญบารมีท่านคุ้มครอง ขอให้ปลอดภัย และขอให้ลมฝนหยุดตก ไม่นานทั้งฝนทั้งลมก็หยุดไป ตนเองพร้อมสามีปลอดภัย ขณะที่บ้านหลังคาหลุดไปกับแรงลม โทรทัศน์ พัดลมถูกน้ำฝนเปียก ได้รับความเสียหาย ขณะที่บ้านญาติๆ ในหมู่บ้านกว่า 40 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย แม้แต่ยุ้งเก็บข้าวเปลือกก็ได้รับความเสียหาย

               และในช่วงเวลา 13.30 น. ชาวบ้านพบศพควายนอนตายกลางทุ่งนา บ้านทะมอ ต.ตรมไพร อ.ศีขรภูมิ จึงแจ้ง ร.ต.อ.นครินทร์ เกตุสิริ นายอำเภอศีขรภูมิ เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายกิตติ ลี้อุดม ปลัดอำเภอศีขรภูมิ ที่เกิดเหตุพบควายตัวเมีย อายุราว 3 ปี นอนตาย มาแล้ว ประมาณ 10 กว่าชั่วโมง ซึ่งควายตัวดังกล่าวได้หายไปเมื่อวานนี้ ในระหว่างที่เกิดพายุฤดูร้อนและพบเพียงลูกควายกลับมาบ้านเพียงลำพัง และช่วงบ่ายวันนี้ ได้มีชาวบ้านมาพบศพควายนอนตายอยู่บนคันนา โดยเจ้าของควายคือ นายพิง แกล่มกล้า อายุ 60 ปี

               นายพิง บอกว่า ควายเป็นของตนเอง อายุราว 3 ปี มีลูกตัวเล็ก 2 ตัว อีกตัวหนึ่งค่อนข้างจะติดแม่ ในขณะที่แม่ควายตาย ลูกควายได้วิ่ง ไปหาแม่ แต่ไม่ทราบ แม่ถูกฟ้าผ่าตายบนคันนาแล้ว ต่อไปนี้ลูกควายจะต้องอยู่กันเพียงลำพังสองตัว ขณะที่ตัวเล็กเจ้าของต้องหานมข้นหวานมาป้อนแทนแม่ควายไปก่อนเพื่อไม่ให้ขาดนม