ข่าว

ตุลาการแถลงคดีศาล ปค.สูงสุด เสนอเพิกถอนยกเลิกพาสปอร์ต "อ๋อย"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาล ปค.สูงสุด รอนัดพิพากษา คดี "บัวแก้ว" อุทธรณ์สู้ หลังศาลปกครองกลางให้แพ้คดีเพิกถอนพาสปอร์ต ตุลาการ "จาตุรนต์" พ้อ 3 ปีถูกริดรอนสิทธิ

 

         ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.พ.61 ศาลปกครองสูงสุด ได้ออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อให้ตุลาการผู้แถลงคดี ได้แถลงความเห็นส่วนตัวตามขั้นตอน ในคดีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง กระทรวงการต่างประเทศ , กรมการกงสุล , รมว.ต่างประเทศ , ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ , อธิบดีกรมการกงสุล , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-7 กรณีกระทรวงการต่างประเทศ มีคำสั่งเมื่อวันที่ 19 ส.ค.58 ยกเลิก หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) บุคคลทั่วไปเลขที่ N9239922 , เลขที่ AA5523514 และหนังสือเดินทางทูตเลขที่ CD 1001471 โดยระบุเหตุผลว่านายจาตุรนต์ เป็นบุคคลที่มีหมายจับและห้ามเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งนายจาตุรนต์ ผู้ฟ้อง ขอให้ศาลมีคำพิพากษา ยกเลิกคำสั่งที่กระทรวงการต่างประเทศเพิกถอนพาสปอร์ตดังกล่าว 

         โดยกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ถูกฟ้อง ได้ยื่นอุทธรณ์คดี ภายหลังศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค.60 ให้กระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกการเพิกถอนพาสปอร์ตโดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่มีคำสั่งยกเลิก เนื่องจากศาลปกครองกลาง เห็นว่า มาตรการยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับของนายจาตุรนต์ มีผลกระทบต่อความมั่นคงในการใช้สิทธิมีและใช้หนังสือเดินทางเพื่อการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง อีกทั้งยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องทั้ง 7 รายได้ใช้มาตรการยกเลิกหนังสือเดินทางกับบุคคลอื่นที่มีพฤติการณ์ ในลักษณะเดียวกับผู้ฟ้องคดีที่ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามมาตรา 116 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเช่นเดียวกันกับนายจาตุรนต์ กรณีจึงถือได้ว่า "กรมการกงสุล" และ "อธิบดีกรมการกงสุล" ใช้ดุลพินิจออกคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมแก่ผู้ฟ้องคดี

         ขณะที่การออกนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกในวันนี้ "ศาลปกครองสูงสุด" เปิดโอกาสให้คู่กรณีแถลงปิดคดี และให้ตุลาการผู้แถลงคดี แถลงความเห็นส่วนตัวที่ไม่ได้มีผลต่อการวินิจฉัยขององค์คณะตามขั้นตอนด้วย

          โดย "ตุลาการผู้แถลงคดี" ได้แถลงความเห็นว่า การห้ามเดินทางออกนอกประเทศตามคำสั่ง ของ คสช. และศาลทหารกรุงเทพฯ ไม่ใช่กรณีที่ห้ามแบบเด็ดขาด แต่สามารถเดินทางได้หากได้รับอนุญาต ดังนั้นชอบที่นายจาตุรนต์ สามารถมีหนังสือเดินทางได้ ซึ่งการที่อธิบดีกรมการกงสุลจะมีคำสั่งใดๆ ก็ต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ดำรงอยู่ ซึ่งนายจาตุรนต์ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ทุกครั้งตามที่ร้องขอ

          ดังนั้นการใช้ดุลยพินิจของ "อธิบดีกรมการกงสุล" ในการยกเลิกเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายจาตุรนต์ จึงขัดแย้งกับสาระสำคัญ ทำให้เป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะฟังได้ว่า เป็นการใช้ดุลยพินิจขณะรัฐประหารซึ่งมีสถานการณ์พิเศษต่างๆ แต่ก็ไม่มีกฎหมายใดที่รองรับให้ "อธิบดีกรมการกงสุล" ใช้ดุลยพินิจแตกต่างไปจากที่กฎหมายกำหนดได้ คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สมควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมการกงสุล

         ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแถลงความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว องค์คณะฯ ก็จะประชุมหารือเพื่อทำคำวินิจฉัยเป็นคำพิพากษาต่อไป โดยขณะนี้ศาลปกครองสูงสุด ยังไม่ได้กำหนดวันอ่านคำพิพากษา

          ด้าน "นายจาตุรนต์" ผู้ฟ้อง กล่าวว่า การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดครั้งนี้เป็นนัดสุดท้าย ก่อนที่จะนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งตนได้ชี้ให้ศาลเห็นว่าที่ผ่านมาการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร โดยคดีนี้กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นอุทธรณ์โดยอ้างเรื่องสถานการณ์พิเศษและหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วซึ่งไม่ใช่ความจริง แต่เป็นเพราะตนวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและแสดงความเห็นทางการเมืองจึงถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง ทั้งๆที่ไม่เป็นเหตุตามกฎหมายที่จะเพิกถอนหนังสือเดินทางได้ ทำให้ตนไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศมาเกือบ 3 ปีแล้ว และกระทรวงการต่างประเทศก็อุทธรณ์อ้างว่าพร้อมจะเยียวยาความเสียหาย โดยให้ตนไปยื่นขอหนังสือเดินทางใหม่ได้ซึ่งไม่ถูกต้องเพราะตนมีหนังสือเดินทางอยู่แล้วและต้องการได้รับคืน ขณะที่การไปยื่นขอหนังสือเดินทางใหม่ก็ไม่ได้ทำให้คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางไม่ชอบดังกล่าวสิ้นผลไป จึงเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษาว่าการออกคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นเดียวกับที่ศาลปกครองกลาง เคยพิพากษาไปก่อนหน้านี้หรือไม่ อย่างไร.

 

 

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ